นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ได้ส่งสายตรวจทั้งในส่วนกลาง และภูมิภาคออกตรวจสอบพฤติกรรมของผู้ค้า
เพื่อไม่ให้ฉวยโอกาสกักตุน หรือจำหน่ายสินค้าที่ขึ้นภาษีสรรพสามิตอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะ ชา และกาแฟ ที่อาจเป็นสินค้ากลุ่มต่อไปที่กรมสรรพสามิตจะเก็บภาษีเพิ่ม และจะติดตามราคาวัตถุดิบ เพื่อพิจารณาการเปลี่ยนแปลงของต้นทุน รวมถึงราคาขายปลีกชา กาแฟอย่างใกล้ชิดด้วย "แม้การกักตุนและฉวยโอกาสขึ้นราคาบุหรี่และสุราเริ่มคลี่คลาย หลังกรมสรรพสามิตปรับภาษีอย่างเป็นทางการแล้ว แต่กลุ่มชา และกาแฟจะต้องเฝ้าดูต่อ แม้ยังไม่พบปัญหา แต่ระหว่างที่กรมสรรพสามิตพิจารณาว่าจะขึ้นภาษีหรือไม่ เกรงว่านายทุนอาจกักตุนเพื่อทำกำไรได้ นอกจากนี้ จะดูแลราคาไม่ให้สูงเกินจริงด้วย"
ทั้งนี้ วันที่ 12-18 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งรัฐบาลอยู่ระหว่างประกาศขึ้นภาษีสรรพสามิตเหล้า บุหรี่ ผู้บริโภค และร้านค้าปลีก ร้องเรียนมายังสายด่วน 1569 สูงเกิน 1,000 ราย
ส่วนใหญ่แจ้งสินค้าขาดตลาด และขึ้นราคาเกินจริง และยังร้องเรียนว่า โรงงานยาสูบไม่กระจายสินค้าให้รายย่อย ส่วนการดูแลราคาอาหารสดนั้น ได้ส่งเจ้าหน้าที่ติดตามราคาใกล้ชิด เพราะเข้าสู่หน้าฝน ราคาเนื้อสัตว์ ผัก และผลไม้น่าจะลดลง เช่น หมู ไก่ ที่จะเติบโตไว และออกสู่ตลาดมากขึ้น แต่หากราคายังแพง อาจเรียกผู้เกี่ยวข้องมาหารือ และขอให้ปรับราคาลง หรืออาจเพิ่มโครงการธงฟ้าให้มากขึ้น ส่วนราคาหมูเนื้อแดงยังไม่ลดลง และราคาไก่เนื้อเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน กก.ละ 4 บาท หลังผู้บริโภคกินไก่แทนหมูมากขึ้น
ตื่นคุมเข้มขายชา-กาแฟ
เครดิต : ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!