หลั่งน้ำตาเคโงะ พบพ่อแล้วอยู่ญีปุ่น

พบตัวแล้วพ่อชาวญี่ปุ่นของ "เคอิ โงะ" หนูน้อย 9 ขวบจากพิจิตร เจ้าหน้าที่สถานทูตแจ้งข่าวดีมายังป้าผู้เลี้ยงดู แต่ยังไม่สามารถบินมาพบลูกชายที่เมืองไทยได้ ไม่อยากเปิดเผยตัว หรือตกเป็นข่าว แค่ต้องการคุยทางโทร ศัพท์กับลูกเงียบๆ ขณะที่ "เคอิโงะ" พลันรู้ข่าวดีใจจนร้องไห้โฮ แต่พอรู้ว่าพ่อยังมาหา ไม่ได้ถึงกับซึม ครวญไม่ต้องการอะไร แค่อยากกอดให้หายคิดถึง

ผวจ.พิจิตรจัดล่าม เตรียมเปิดศาลากลางจังหวัดให้พ่อลูกได้คุยกันผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ พร้อมทั้งจัด "ลิเก" แก้บน ด้านบริษัทเบียร์สิงห์-อาซาฮี จับมือช่วยเหลือค่าตั๋วเครื่องบิน และค่าใช้จ่ายระหว่างเดินทาง สานฝันให้พ่อลูกได้พบหน้ากัน จากเหตุการณ์สะเทือนอารมณ์ ด.ช. เคอิโงะ ซาโต อายุ 9 ขวบ ออกตามหาพ่อชาวญี่ปุ่น นายคัตซูมิ ซาโต โดยถือภาพถ่ายของพ่อเดินตระเวนถามนักท่องเที่ยวที่มาชมวัดท่าหลวง อ.เมือง จ.พิจิตร เป็นที่น่าเศร้าใจแก่ผู้พบเห็น ต่อมาทางจังหวัด และกระ ทรวงการต่างประเทศ ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือในการติดตามหาตัวนายคัตซูมิ รวมทั้งยังมีสื่อมวลชนของญี่ปุ่นเดินทางมารายงานข่าว เพื่อนำไปเผยแพร่ช่วยประชาสัมพันธ์หาตัวพ่อของหนูน้อยเคอิโงะอีกทางหนึ่ง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 16 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.พิจิตร ว่า ขณะนี้ด.ช. เคอิโงะ ทราบข่าวจากทางจังหวัดแล้วว่า สามารถติดต่อและพบตัวนายคัตซูมิ ซาโต พ่อบังเกิดเกล้าชาวญี่ปุ่นแล้ว

ทันทีที่ทราบข่าวดี ด.ช.เคอิโงะถึงกับร้องไห้โฮลั่นด้วยความดีใจ โดยทางเจ้าหน้าที่สถานเอกอัคร ราชทูตญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย แจ้งข่าวดังกล่าวผ่านมายังนางปัทมา จตุพิศ ป้าผู้ดูแลหนูน้อยกำพร้าวัย 9 ขวบ  ด้านนายสมชัย หทยะตันติ ผวจ.พิจิตร เปิดเผยว่า นางปัทมาได้รับการติดต่อมาจากเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย ว่าสามารถติดต่อและพบตัวนายคัตซูมิแล้ว แต่นายคัตซูมิไม่สะดวกที่จะเดินทางมาประเทศไทยในช่วงนี้ โดยอยากให้ด.ช.เคอิโงะ เดินทางไปกรุงเทพฯ เพื่อจะโทรศัพท์มาหา แต่นางปัทมาปฏิเสธ เนื่อง จากไปกรุงเทพฯไม่ถูก และอยากให้โทรศัพท์ มาหาที่จ.พิจิตร "ถ้าเป็นไปได้อยากให้โทรศัพท์คุยกับด.ช. เคอิโงะด้วยตัวเอง ทางเราติดต่อล่ามแปลภาษาญี่ปุ่นไว้ให้แล้ว เพื่อจะให้นายคัตซูมิคุยกับด.ช.เคอิโงะได้ และจัดห้องวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ไว้ให้ด้วย หากโทรศัพท์มาจะได้เห็นทั้งหน้าและเสียงที่ศาลากลางจังหวัดพิจิตร แต่สิ่งที่ด.ช.เคอิโงะต้องการในขณะนี้ อยากให้นายคัตซูมิเดินทางจากญี่ปุ่นมาหาด้วยตัวเอง" ผวจ.พิจิตรกล่าว

ส่วนนางปัทมากล่าวว่า ได้รับการติดต่อทางโทรศัพท์ว่า ติดต่อกับนายคัตซูมิได้แล้ว แต่นายคัตซูมิไม่อยากจะเปิดเผยตัวเองและไม่สามารถมาหาด.ช.เคอิโงะ ได้ในขณะนี้

ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไร แต่อยากจะโทร ศัพท์คุยกับลูกเงียบๆ ไม่อยากให้เป็นข่าว หลังจากด.ช.เคอิโงะทราบว่านายคัตซูมิไม่สามารถเดินทางมาได้ ถึงกับมีอาการซึม ร้องไห้ พูดได้อย่างเดียวว่าพ่อไม่รักหนู และไม่ยอมพูดจากับใครเลย "สงสารหลานชายมากที่กำพร้าแม่แล้ว พ่อ ยังไม่สนใจอีก อยากฝากบอกนายคัตซูมิด้วยว่า เราเองไม่ต้องการอะไร เราเลี้ยงเคอิโงะมาตั้งแต่เล็ก เลี้ยงด้วยความรัก ที่เคอิโงะตามหาพ่อ เพียงแค่อยากมีพ่อเหมือนกับคนอื่น เราไม่ได้หวังว่าจะให้นายคัตซูมิมาเลี้ยงดูเคอิโงะ และจะไม่เรียกร้องอะไร เงินบาทเดียวก็ไม่เอา เพียงอยากให้เคอิโงะเห็นหน้าพ่อ และกอดพ่อเท่านั้น" นางปัทมากล่าว ขณะที่ด.ช.เคอิโงะ กล่าวทั้งน้ำตานองหน้า ว่า เสียใจมากหลังทราบข่าวว่าพ่อไม่สามารถ เดินทางมาหาได้ อยากจะฝากบอกพ่อด้วยว่า คิดถึงพ่อ รักพ่อ อยากให้พ่อมาหาไวๆ หนูไม่ต้องการอะไรจากพ่อ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงิน หรือการเลี้ยงดู หนูแค่อยากกอดพ่อให้หายคิดถึง ในชีวิตหลังจากที่แม่เสียชีวิตแล้ว มีป้าที่คอยดูแล ยังอยากมีพ่อเหมือนคนอื่นเขา ไม่อยากให้เพื่อนๆ ล้อว่าเป็นเด็กไม่มีพ่อแม่

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า หลังจากทราบข่าวพบตัวพ่อของด.ช.เคอิโงะ แล้ว ปรากฏว่า ทาง นายตราชู กาญจนสถิตย์ ผอ.สื่อสารการตลาด บริษัท สิงห์คอร์เปอเรชั่น จำกัด

พร้อมด้วย นายฉัตรชัย วิรัตน์โยสินทร์ ผอ. สายการตลาด และนายทาฮาร่า ยาซูชิ ผู้จัด การทั่วไป บริษัท อาซาฮี บริวเวอรี่ จำกัด เจ้าของเบียร์อาซาฮี จากประเทศญี่ปุ่น โทร ศัพท์ติดต่อมายังนายสมชัย หทยะตันติ ผวจ. พิจิตร แจ้งความจำนงว่า จะขอร่วมสนับสนุน ให้ด.ช.เคอิโงะ กับพ่อได้พบหน้ากัน โดยจะสนับสนุนตั๋วเครื่องบินพร้อมค่าเดินทางให้ ด.ช.เคอิโงะและป้า เดินทางไปเจอพ่อที่ประ เทศญี่ปุ่น หรือถ้าพ่อจากประเทศญี่ปุ่น จะเดินทางมาหาลูกชายที่ประเทศไทย ก็พร้อมจะออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด

นายทาฮาร่า กล่าวว่า หลังทราบข่าวด.ช. เคอิโงะ เดินถือภาพถ่ายตามหาพ่อชาวญี่ปุ่น จึงปรึกษากับบริษัท สิงห์คอร์เปอเรชั่น ว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ ที่บริษัทในฐานะมีบริษัทแม่ที่ประเทศญี่ปุ่น จะประสานให้นายคัตซูมิ ได้พบด.ช.เคอิโงะ หลังจากนั้นทางบริษัท สิงห์คอร์เปอเรชั่น จึงประสานไป ยังตัวแทนจำหน่ายที่จ.พิจิตร เพื่อแสดงความจำนงไปทางผวจ.พิจิตร เป็นที่เรียบ ร้อยแล้ว

ผู้จัดการบริษัทอาซาฮีฯ กล่าวต่อว่า บริษัท ยินดีที่จะเป็นผู้สนับสนุนค่าใช้จ่ายทั้ง 2 ทาง ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางมาประเทศไทยของนายคัตซูมิ หรือสนับสนุนค่าใช้จ่ายตลอดการเดินทางไปญี่ปุ่นเพื่อพบพ่อของด.ช.เคอิ โงะ และผู้ปกครอง

ถือเป็นการสานฝันของ ด.ช.เคอิโงะ ให้ได้พบพ่อชาวญี่ปุ่น และยังถือเป็นการประสานความสัมพันธ์ระหว่างไทย-ญี่ปุ่น ที่มีกันมายาวนานด้วย อีกทั้งหาก ด.ช.เคอิโงะ ต้องการให้ช่วยเหลือในเรื่องอื่นๆ นอกเหนือจากค่าใช้จ่ายตลอดการเดินทาง บริษัทอาซาฮีฯ ก็ยินดีจะช่วยเหลือเต็มที่ แต่ในขณะนี้คงต้องรอการประสานงานระหว่างผวจ.พิจิตร กับสถานทูตอีกครั้ง เพื่อกำหนดแนวทางให้พ่อลูกได้พบกัน  "งบประมาณสำหรับการช่วยเหลือให้ลูกกับพ่อได้พบกันในครั้งนี้ คงถือตามผู้ประ สานงานเป็นหลัก และเป็นการจ่ายตามค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงในระหว่างการเดินทาง อะไรที่ทำให้พ่อลูกได้เจอกัน คงตีมูลค่าเป็นเงินไม่ได้ คิดว่าทั้งคนไทยและญี่ปุ่น คงจะมีความยินดีที่ได้เห็นภาพนั้น ส่วนเรื่องกำหนด เวลาการเดินทาง คงต้องเป็นเรื่องที่ผู้เกี่ยว ข้องประสานงานกันอีกที รอเวลาอีกสักระยะ หนึ่ง" นายทาฮาร่า กล่าว

ขณะที่นายสมชัย หทยะตันติ ผวจ.พิจิตร กล่าวว่า ก่อนหน้านี้แทบมองไม่เห็นหนทางที่จะทำให้ด.ช.เคอิโงะ กับพ่อชาวญี่ปุ่นได้เจอ กัน จึงได้แต่หวังพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์

โดยไปบนบานศาลกล่าวกับหลวงพ่อเพชร วัดท่าหลวง พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง จ.พิจิตร ว่าถ้า 2 พ่อลูกได้พบกัน จะนำลิเกโอท็อปพิจิตรมาแสดงหน้าพระอุโบสถหลวง พ่อเพชร ในเมื่อพบตัวพ่อของด.ช.เคอิโงะ แล้ว จึงเตรียมติดต่อหาลิเกเล่นแก้บนแล้ว ส่วนนายสมชัย กมลเทพเทวินทร์ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า จัดเตรียมอุปกรณ์เทคโนโลยีทางการสื่อสารที่ห้องศูนย์เทคโนโลยีไอซีที ภายในศาลากลางจังหวัดพิจิตร ไว้พร้อมแล้ว ขอเพียงสถานทูตญี่ปุ่น หรือสถานกงสุลไทยในญี่ปุ่น ประสานมาว่าพ่อของด.ช.เคอิโงะ จะโทรศัพท์มาตอนไหน ก็พร้อมที่จะให้บริการได้ทันที นอกจากนี้ยังขอล่ามแปลภาษาญี่ปุ่น เป็นครูสอนภาษาจาก โรงเรียนพิจิตรพิทยาคม และเมื่อพ่อของด.ช. เคอิโงะ โทรศัพท์มาในห้อง ก็จะมีจอโทร ทัศน์ขนาดใหญ่ให้เห็นหน้าและฟังเสียงกันอย่างชัดเจน

ด้านนายธฤต จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ ในฐานะโฆษกกระทรวงการต่างประ เทศ กล่าวว่า จากการตรวจสอบความคืบหน้า จากสถานเอกอัครราชทูตไทยในประเทศ ญี่ปุ่น ทราบว่าพบตัวพ่อของด.ช.เคอิโงะ เมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมาแล้ว โดยทางพ่อชาวญี่ปุ่นจะขอติดต่อกับญาติของด.ช.เคอิโงะ เอง ในเรื่องนี้เราต้องเคารพสิทธิส่วนบุคคลของเขา เนื่องจากกฎหมายของญี่ปุ่น เคารพเรื่องสิทธิส่วนบุคคลค่อนข้างมาก ดังนั้น ขอ ให้การติดต่อกันระหว่างพ่อกับลูก เป็นเรื่องภายในครอบครัว