เมื่อวันที่ 15 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ออกประกาศว่า มีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมด้านตะวันตกของภาคกลางตอนล่าง และภาคใต้ตอนบน ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ลุ่มบริเวณ เชียงราย เชียงใหม่ ตาก อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ อุทัยธานี นครสวรรค์ ชัยนาท กาญจนบุรี ราชบุรี ระยอง นครนายก ปราจีนบุรี เพชรบุรี ระนอง ตรัง และสตูล ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วม
ขณะที่กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
เตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝนตกหนักที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและดินถล่มในระหว่างวันที่ 15-16 พ.ค.นี้ โดยสั่งการให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง หากประชาชนขอความช่วยเหลือติดต่อที่สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
ที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดพายุโซนร้อนทำให้เกิดฝนฟ้าคะนองมีฝนตกลงมาอย่างหนักและฟ้าคะนองต่อเนื่อง
ทำให้หมู่บ้านห้วยลึก หมู่ที่ 9 ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ มีบ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วมเสียหายกว่า 70 หลัง คาเรือน โดยนายไพโรจน์ มาลากุล ณ อยุธยา นายกเทศมนตรีตำบลสัตหีบ ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิง นำรถดับเพลิง และรถสูบน้ำ ออกไปช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนแล้วเบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้ เพราะส่วนมากจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่วางไว้กับพื้น
ที่กรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีฝนตกลงมาตั้งแต่ช่วงค่ำของวันที่ 14 พ.ค. ที่ผ่านมา ต่อเนื่องจนถึงช่วงเช้าของวันนี้
ทำให้ในหลาย พื้นที่เกิดน้ำขังและท่วมสูงขึ้น โดยนายชาญชัย วิทูรปัญญากิจ ผอ.สำนักการระบายน้ำ (สนน.) กทม. เปิดเผยว่า ปริมาณฝนในกรุงเทพฯ นั้นพบว่ามีฝนตกสูงสุดในพื้นที่ฝั่งธนฯ โดยเขตทุ่งครุ ตกสูงสุด 155 มิลลิเมตร/ชั่วโมง และเขตบางขุนเทียน 148 มิลลิเมตร/ชั่วโมง ทำให้มีน้ำท่วมขัง ส่วนในฝั่งพระนครนั้นมีปริมาณฝนตกไม่หนักมาก มีน้ำท่วมขังถนน แต่ใช้เวลาในการระบายเพียง 1 ชั่วโมง
พล.ต.ต.วีระพัฒน์ ตันศรีสกุล ผบก.จร. เปิดเผยหลังเกิดฝนตกหนักในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า เกิดปัญหาการจราจรติดขัดอย่างหนักหลายสาย
โดยสายที่ติดขัดเข้าขั้นวิกฤติ คือ ถนนพระราม 4 ตลอดทั้งเส้น พระโขนง-หัวลำโพง ซึ่งส่งผลให้รถติดยาวไปในถนนสาทร และลามไปถึงสะพานตากสิน ข้ามไปฝั่งธนบุรี ที่ถนนกรุงธนบุรี ถนนราชพฤกษ์ แยกท่าพระ ส่วนถนนพระราม 6 ติดขัดมากที่หน้าโรงเรียนสามเสนวิทยาลัย เนื่องจากเป็นวันเปิดเรียน ส่วนสภาพการจราจรบนทางด่วนก็ติดขัดในทุกเส้นทาง ที่วิกฤติมาก คือ บางนาขาเข้า ซึ่งไม่สามารถลงที่ด่านพระราม 4 สุขุมวิท 62 และถนนเพชรบุรี เนื่องจากการจราจรด้านล่างติดขัดมาก และมีน้ำท่วมขัง.