เมื่อวันที่ 14 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านของนายบริบูรณ์ ธูปแก้ว เลขที่ 7/1 ม.9 ต.สามตุ่ม อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา
ยังพบว่าตลอดทั้งวันตั้งแต่เช้าถึงเย็นยังมีคนเดินทางมาชม "จิ้งจกสีแดง" กันไม่ขาดสาย ส่วนมากผู้ที่มาชมต่างยกมือไหว้ พร้อมทั้งวางดอกไม้และพวงมาลัยไว้ข้างตู้จิ้งจกสีแดง ขอให้มีโชคมีลาภ นางเกษร ธูปแก้ว ภรรยานายบริบูรณ์ กล่าวว่า ยิ่งใกล้วันหวยออกคนเริ่มมามากขึ้น บางคนมาไกลจากกรุงเทพฯ และ จ.นครราชสีมา วันละร่วมร้อยคน ขณะนี้เจ้าจิ้งจกสีแดงเริ่มเปลี่ยนสี จากเดิมที่เป็นสีแดงจัด เริ่มจางลงคล้ายสีชมพูอ่อน ตนสอบถามจากคนเฒ่าคนแก่ บอกว่าจิ้งจกสีแดงตั้งท้องแล้ว กำลังจะออกไข่ สีมันจะเปลี่ยนไปเพราะจิ้งจกจะพรางตัว ไม่อยากให้คนเห็น ตนจึงเอาผ้าขนหนูใส่ไว้ในตู้ ให้มันซุกอยู่ในผ้า เพราะเป็นธรรมชาติของจิ้งจก ดูด้วยสายตาจะเห็นว่ามีไข่สีขาวอยู่ 2 ฟอง การคลานไปไหนมาไหนเริ่มเชื่องช้า นอกจากนี้ที่ปลายนิ้วยังมีเรื่องแปลก คือมีเล็บเริ่มงอกยาวขึ้นเรื่อยๆ
นางเกษรกล่าวถึงการที่เริ่มมีคนพูดว่าครอบครัวของตนเอาจิ้งจกมาหลอก ยืนยันว่าไม่รู้จะหลอกไปทำไม
เพราะไม่ได้หวังประโยชน์จากจิ้งจกสีแดง ไม่ได้ตั้งตู้รับเงินรับทองใคร อยากมาดูตนก็ให้ดู มีแต่คนมากราบไหว้ ทางครอบครัวไม่ขัดสน ตั้งแต่ได้จิ้งจกสีแดงมาอยู่ตนมีความสุขมาก คนที่เคยหยิบยืมเงินไปใช้ก็นำมาใช้คืน ตนเป็นโรคความดันต้องกินยาตลอดเวลา ช่วงนี้หายเครียด ไม่ต้องกินยานอนหลับ โรคความดันหายไป ถึงขณะนี้ยังไม่มีนักวิชาการเข้ามาดูเลย อยากให้เข้ามาศึกษาเหมือนกัน
นายสำเริง การเสถียร อายุ 40 ปี ชาวบ้าน กล่าวว่า รู้สึกแปลกใจมาก ว่าจิ้งจกมีสีแดง แต่หลังจากนั้นอีก 2 วันได้เข้าไปดูอีกปรากฏว่าสีเริ่มเปลี่ยนไป
ตนถามเพื่อนซึ่งเป็นสัตวแพทย์ จิ้งจกมักจะเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ ปรับตัวตามสภาพของธรรมชาติตามที่อยู่อาศัยใหม่ เชื่อว่าสีของมันจะกลับมาเป็นสีเดิมอีก เท่าที่เห็นในขณะนี้สีมันเริ่มจางเป็นสีชมพูปนทอง เพราะมันใกล้จะวางไข่ ตนรู้จักกับครอบครัวนี้ดี เป็นครอบครัวที่มีฐานะพอสมควร เรื่องที่จะมาหลอกลวงคงไม่มี และนายบริบูรณ์เจ้าของบ้านยังเป็นผู้ใหญ่บ้าน ชาวบ้านเคารพนับถือ เรื่องที่จะมาสร้างเรื่องหลอกลวงชาวบ้านนั้นเป็นไปไม่ได้แน่นอน เจ้าจิ้งจกตัวนี้ต้องมาปรากฏตัวเพื่อให้โชคลาภกับชาวบ้านแน่นอน
ด้านน.สพ.อลงกรณ์ มหรรณพ สัตวแพทย์สำนักพระราชวัง กล่าวว่า จิ้งจกเป็นสัตว์จัดอยู่ในประเภทสัตว์เลื้อยคลาน มีลักษณะพิเศษคือผิวหนังจะลอกคราบเพื่อให้ร่างกายเจริญเติบโตขึ้น
เมื่อผิวหนังเดิมหลุดผิวหนังใหม่จะขึ้นมาแทนที่ ผิวหนังที่ลอกคราบเป็นผิวหนังกำพร้าที่มีขนาดเล็กมากและมีสารรงควัตถุ หรือเม็ดสีบนผิวหนัง และเม็ดสีของสัตว์เลื้อยคลาน จะสามารถเปลี่ยนสีให้เข้ากับสภาพแวดล้อมได้ ถือเป็นความสามารถเฉพาะตัว หากจิ้งจกอยู่ในห้องที่สีขาวหรือสีอ่อน ผิวหนังจะออกสีน้ำตาลอ่อน ถ้าสิ่งแวดล้อมสีดำ ผิวหนังจะเป็นสีดำ ส่วนกรณีจิ้งจกสีแดงนั้น ในสัตว์เลื้อยคลานยังไม่เคยพบมาก่อน
น.สพ.อลงกรณ์ กล่าวอีกว่า ส่วนการจะฉีดสีหรือหรือการทาสีลงบนตัวของสัตว์เลื้อยคลานนั้น เมื่อถึงระยะเวลาหนึ่งสัตว์ก็จะลอกคราบ
เอาสารแปลกปลอมบนผิวหนังออกจนหมด หากเป็นจิ้งจกก็จะอยู่ได้ไม่เกิน 10-15 วัน จะเริ่มลอกคราบ หากเป็นสิ่งผิดปกติต่อร่างกายการลอกคราบจะใช้ระยะเวลาสั้นขึ้น และเมื่อผิวหนังหลุดลอกออก สีจะค่อยๆ กลับมาเป็นสีปกติ อย่างไรก็ตามเท่าที่เคยศึกษามา ยังไม่เคยพบจิ้งจกที่มีสีแดงหรือชมพู ยกเว้นสัตว์ประเภทสะเทินน้ำสะเทินบก เช่น กบ โดยเฉพาะกบในทวีปแอฟริกาซึ่งเป็นสัตว์มีพิษจะมีสีแดง เขียวและเหลือง เพื่อขู่ไม่ให้ศัตรูเข้ามาใกล้



กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
























กระทู้ล่าสุด


รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
















































Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday