รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กลุ่มร้านค้าปลีก และค้าส่งบุหรี่สุรารายเล็ก
ตั้งข้อสังเกตต่อการประกาศเรียกเก็บภาษีสรรพสามิตเหล้า บุหรี่เพิ่ม ล่วงหน้าเป็นเวลานาน อาจทำให้กลุ่มเอเย่นต์รายใหญ่ และร้านค้าสะดวกซื้อชื่อดังได้ประโยชน์ เนื่องจากระหว่างที่รอการประกาศ ขึ้นภาษี ทำให้ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาตัวแทนรายใหญ่สั่งซื้อบุหรี่กับโรงงานยาสูบไว้มาก รวมถึงร้านสะดวกซื้อที่มีบุหรี่ขายก็ได้ประโยชน์ เพราะนอกจากกำไรจากยอดขายบุหรี่มากขึ้นแล้ว ยังสามารถขายสินค้าอื่นได้เพิ่มตามด้วย เช่น เครื่องดื่มชูกำลัง กาแฟกระป๋อง
ทั้งนี้ปัญหากักตุนและบุหรี่ขาดตลาดได้เกิดต่อเนื่องมา 4-5 วันแล้ว แต่รัฐยังไม่มีมาตรการแก้ปัญหาที่ชัดเจน
โดยร้านขายปลีก ค้าส่งรายเล็กแจ้งว่า ไม่มีสินค้าขายเพราะเมื่อไปซื้อจากร้านยี่ปั๊ว ซาปั๊วก็ได้รับแจ้งมาอีกต่อว่าเอเย่นต์ใหญ่ไม่ส่งของมาให้ และเมื่อขอซื้อตรงกับโรงงานยาสูบก็ถูกเจ้าหน้าที่อ้างว่าผู้เซ็นอนุมัติขายไม่อยู่ ขณะที่กลุ่มผู้บริโภคกำลังเดือดร้อน แม้จะร้องทุกข์กับกรมการค้าภายในไปแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการแก้ไข โดยสถานการณ์เวลานี้บุหรี่ขาดแคลนหลายพื้นที่ ทำให้นักสูบบางกลุ่มหันไปพึ่งยาตั้ง ยาเส้นสูบแก้ขัดแทน ส่วนบางแห่งแม้จะมีบุหรี่ขายแต่ก็ฉวยปรับราคาแพงมาก
นอกจากนี้ยังได้รับรายงานวงการค้าปลีกค้าส่งว่าเริ่มมีบุหรี่หนีภาษีตามชายแดนทะลักออกมาขายมากขึ้น
เพราะขณะนี้มีส่วนต่างราคาบุหรี่นอกกับในประเทศจำนวนมาก และยิ่งหากมีการประกาศขึ้นราคายิ่งทำให้ส่วนต่างเพิ่มไม่ต่ำกว่า 11-17 บาท โดยวิธีการลักลอบจะใช้ผ่านการทำแบบกองทัพมด ตามชายแดนไทย มาเลเซีย พม่า ลาว กัมพูชา
นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ที่ผ่านมาหากกระทรวงการคลังจะขึ้นภาษีสินค้าแต่ละชนิดจะแจ้งมาที่กระทรวงพาณิชย์เป็นการภายในทุกครั้ง
เพื่อให้ตรวจสอบ และป้องกันการกักตุนหากมีประชาชนร้องเรียน เพราะสินค้าบุหรี่ เหล้า เบียร์ ต้องผ่านหลายทอดกว่าจะถึงมือประชาชน ทำให้คิดกำไรหลายต่อ และถ้ารู้ล่วงหน้าก็จะได้กำไรมาก “สาเหตุที่เกิดปัญหาการกักตุน เพราะมีช่องว่างของเวลา ช่วงของการจะประกาศ ปรับขึ้นภาษีสรรพสามิต บุหรี่ กับเวลาที่มีผลบังคับใช้มาก ทางปฏิบัติ ที่ผ่านมาหากมีการปรับขึ้นราคาหรือปรับภาษีที่มีผลต่อการปรับขึ้นราคาสินค้าก็จะมีการแจ้ง กรมฯ ล่วงหน้าก่อนประกาศ 1-2 วัน เพื่อให้มีการจัดทีมออกตรวจสอบพื้นที่ และป้องกันการกักตุน แต่ครั้งนี้ประกาศก่อนมีผลบังคับใช้ ซึ่งทางการค้าเมื่อมีการค้าหลายต่อก็ต้องมีการเก็งกำไร”
ส่วนของความผิดมี 3 ข้อ คือ
1.การกักตุน ประวิง หรือปฏิเสธการขายตามกฎหมายแข่งขันด้านราคา จะมีความผิดตามกฎหมาย มีโทษจำคุก 7 ปี ปรับ 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 2.หากพบมีการขายสินค้าเกินราคา หรือแอบขึ้นราคา มีโทษปรับ 1 หมื่นบาท และ 3.หากพบมีการขายพ่วงกับสินค้าอื่นเป็นการวางเงื่อนไขที่ไม่เป็นธรรม จะมีความผิดใน พ.ร.บ. แข่งขันทางการค้า ซึ่งหากประชาชนพบเห็นว่าร้านค้าปลีกหรือร้านจำหน่ายกักตุนหรือแอบขึ้นราคา ขอให้แจ้งมายังสายด่วน 1569.