ปตท.โอดจุกอกรับภาระเอ็นจีวีหมื่นล้าน



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) มีแผนที่จะลงทุนในกิจการท่าเรือขนถ่ายสินค้าสำหรับเรือเดินทะเล  โดยโครงการจะตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง

ใช้เงินลงทุน 3,430 ล้านบาท เพื่อให้บริการขนถ่ายสารเคมีและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมเหลวปีละ 800,000 ตัน ซึ่งกิจการดังกล่าวจะมีลักษณะเป็นท่าเรือเฉพาะกิจ และมีการตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมาดูแลโดยเฉพาะ เพื่อแยกธุรกิจท่าเทียบเรือออกจากธุรกิจอื่นๆ

นายณัฐชาติ จารุจินดา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โครงการลงทุนท่าเรือดังกล่าวส่วนหนึ่ง ปตท.จะใช้เป็นท่าเรือขนถ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลเอ็นจี) สำหรับรองรับการนำเข้าแอลเอ็นจีจากประเทศกาตาร์ในปี 54 ที่จะมีการนำเข้าเฉลี่ยปีละ 2 ล้านตัน และให้บริการกับภาคเอกชนที่ต้องการใช้เป็นท่าเรือขนถ่ายสินค้าในลักษณะเดียวกันด้วย เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับกิจการ

"สำหรับภาระที่ ปตท.ต้องแบกรับในการตรึงราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับรถยนต์หรือเอ็นจีวีในไตรมาสแรกของปีนี้พบว่า ได้รับภาระแทนประชาชนไปแล้ว 2,000 ล้านบาท ขณะที่ในปีที่ผ่านมาแบกรับภาระไปรวมทั้งสิ้น 9,000 ล้านบาท เนื่องจากกระทรวงพลังงานไม่อนุมัติให้ ปตท.ปรับขึ้นราคาตามที่เสนอขอไปจากปัจจุบัน 8.50 บาทต่อกิโลกรัมเป็น 12 บาทต่อกิโลกรัม"

นายณัฐชาติกล่าวว่า ตามแผนเดิม ปตท.ต้องได้รับการอนุมัติให้ปรับขึ้นราคาเอ็นจีวีตั้งแต่เดือน ม.ค.ที่ผ่านมา แต่ถูกกระทรวงพลังงานขอให้รับภาระแทนประชาชนไปก่อน

ขณะที่ยอดการใช้เอ็นจีวีในเดือน พ.ค.นี้ คาดว่าจะอยู่วันละ 3,400 ตัน ขณะที่ในเดือน ก.พ.มีความต้องการใช้วันละ 3,500 ตัน โดยอาจเป็นเพราะจำนวนรถยนต์บ้านส่วนใหญ่หันกลับไปใช้น้ำมันแทนเพราะมีราคาถูกลง และล่าสุด ณ ขณะนี้มีความต้องการของรถยนต์บ้านที่เข้ามารับบริการติดตั้งเครื่องยนต์เอ็นจีวีเพียงวันละ 30 คัน จากเดิมเฉลี่ยวันละ 100 คัน


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์