กรมอุตุฯ เผยฝนตกหนักในกรุงเทพฯช่วงนี้เป็นเรื่องปกติ เพราะประเทศไทยย่างเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว
ส่วนพายุ “จันหอม” เคลื่อนตัวไปมหาสมุทรแปซิฟิก และกำลังจะสลายตัว จึงไม่ส่งผลกระทบกับไทย ขณะที่ชาว “น่าน-แพร่” เดือดร้อนกันทั่วหน้า หลังเกิดพายุฝนพัดถล่มบ้านเรือนพังเสียหายจำนวนมาก ทางด้าน “กาฬสินธุ์” ฟ้าแรง ผ่าเปรี้ยงผัวเมียชาวสวนแตงโมดับสยอง 2 ศพ
เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 10 พ.ค. นายธวัช เพชรวีระ หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดน่าน ได้เข้าสำรวจความเสียหายที่เกิดจากพายุพัดกระหน่ำในพื้นที่ อ.นาน้อย เมื่อคืนวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา
จากการสำรวจพบความเสียหายใน 4 ตำบล ประกอบด้วย ต.ศีรษะเกษ ต.สถาน ต.เชียงของ และต.นาน้อย ทำให้มีต้นไม้และเสาไฟฟ้าหักโค่น บ้านเรือนพังเสียหายกว่า 50 หลัง โดยเฉพาะบ้านพักของนายเพิ่ม วิชัยต๊ะ อยู่บ้านเลขที่ 9 หมู่ 1 ต.สถาน และบ้านของนายปัน สิงห์ป่า อยู่บ้านเลขที่ 129 หมู่บ้านเดียวกัน ได้รับความเสียหายหนัก หลังคาบ้านถูกกระแสลมพัดหายไปทั้งหลัง รวมทั้งโรงเรียนบ้านศาลา และกุฏิวัดสถาน ถูกต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ล้มทับกุฏิพังเสียหาย
ส่วนที่ จ.แพร่ มีรายงานว่าเมื่อคืนวันที่ 9 พ.ค. ที่ผ่านมา ได้เกิดพายุฝนถล่มในหลายอำเภอเป็นเหตุให้มีต้นไม้ล้มทับเส้นทางสายแพร่-ลอง
เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังตัดต้นไม้ออกจากเส้นทางเพื่อให้รถผ่านไปได้ นอกจากนี้ใน ต.ห้วยม้า อ.เมืองแพร่ มีบ้านเรือนหลายหมู่บ้านได้รับผลกระทบหนัก เพราะเสาไฟฟ้าล้ม ทำให้ไฟดับทั้งหมู่บ้าน ต่อมานายจุลศักดิ์ ขุนขยา นายก อบต. ห้วยม้า ได้ออกสำรวจความเสียหายในหลายหมู่บ้าน พบว่ามีบ้านเสียหายทั้งหลังและเสียหายเล็กน้อย รวม 217 หลัง