นายพงษ์ภานุ เศวตรุนทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า คาดว่าในสัปดาห์หน้า สบน. จะมีอำนาจในการกู้เงินเพิ่มเติม
ตามพ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ วงเงิน 4 แสนล้านบาทได้ โดยจะแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ 2 แสนล้านบาท เพื่อสมทบเงินคงคลังที่การจัดเก็บรายได้ต่ำกว่าเป้าหมาย และอีก 2 แสนล้านบาทจะนำมาใช้เป็นเงินลงทุนโดยตรงในโครงการที่มีความพร้อมมากที่สุดก่อน ซึ่งคาดว่าปีนี้จะใช้ประมาณ 1 แสนล้านบาท
โดยในส่วนของการชดเชยเงินคงคลัง ต้องรอการประ เมินฐานะการคลังอีกครั้งว่า การจัดเก็บรายได้พลาดเป้ามากน้อยเพียงใด
และเมื่อรวมกับการชดเชยจากการขออนุมัติกู้ในประเทศเพิ่มเติม 9.4 หมื่นล้านบาทเพียงพอหรือไม่ เพราะยังเหลือเวลาอีก 5 เดือนในการประเมินฐานะการคลังที่เหมาะสม ซึ่งจะชัดเจนในสิ้นปี แต่คาดว่าในปี"52 จะชดเชยส่วนนี้ประมาณ 1 แสนล้านบาท
สำหรับรูปแบบการระดมทุน นายพงษ์ภานุ กล่าวว่า จะได้ข้อสรุปในสัปดาห์หน้า โดยจะปรับปรุงแผนการก่อหนี้ใหม่ โดยจะเพิ่มวงเงินการออกพันธบัตรและจะเพิ่มการออกพันธบัตรออมทรัพย์ที่ขายให้กับประชาชนมากขึ้น จากเดิมที่เคยประกาศไปแล้ว 1 หมื่นล้านบาท เพราะความต้องการขณะนี้มีมากจากดอกเบี้ยเงินฝากที่อยู่ในระดับต่ำ ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดขายได้ประมาณมิ.ย.-ก.ค.52 และเป็นไปได้จะมีพันธบัตรรูปแบบใหม่ตามความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น ซึ่งแม้ว่าอัตราดอกเบี้ยของพันธบัตรจะต่ำตามอัตราดอกเบี้ยในตลาด แต่จะยังคงเป็นอัตราที่จูงใจในระดับหนึ่ง
นอกจากนั้น บางส่วนจะเป็นการกู้ยืมจากสถาบันการเงินด้วยการออกเป็นตั๋วสัญญาใช้เงิน (พีเอ็น) เหมือนที่รัฐวิสาห กิจระดมทุน โดยเมื่อออกเป็นพีเอ็นจนถึงจำนวนหนึ่งจึงจะ แปลงเป็นพันธบัตรที่เป็นระยะยาวมากขึ้นแทน ซึ่งคาดว่าจะเห็นชัดเจนในเดือนก.ค.นี้ เพราะต้องการที่จะออกพันธบัตรที่เป็นระยะยาวอายุ 15 และ 20 ปีมากขึ้น
ขณะที่พันธบัตรในอัตราดอกเบี้ยลอยตัวก็ยังไม่ชัดเจนจากที่ประกาศไว้ 1.8 หมื่นล้านบาท เพราะขณะนี้ความต้อง การในตลาดมีมากจากความไม่แน่นอนของทิศทางดอกเบี้ย จึงมองว่าจะปรับเพิ่มขึ้นเช่นกัน
โดยจะเป็นการออกพันธบัตรอัตราดอกเบี้ยลอยตัว อ้างอิงกับดอกเบี้ยอ้างอิงกรุงเทพ (ไบบอร์) ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เคยออกพันธบัตรอัตราดอกเบี้ยลอยตัวอิงกับไบบอร์ลบ 20% แต่กระทรวงการคลังคาดว่าจะลบมากกว่านั้น เพราะเป็นเครดิตของรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม สบน.ได้จัดการประชุมการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเรื่อง กรอบการเจรจา กู้เงินเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน จากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยวันที่ 14 พ.ค.นี้ จะจัดที่รร.พูลแมน ขอนแก่น ราชาออคิด จ.ขอนแก่น, วันที่ 21 พ.ค. ที่รร.นิภาการ์เด้น จ.สุราษฎร์ธานี และวันที่ 28 พ.ค. ที่รร.ท็อปแลนด์ จ.พิษณุโลก
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
