กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท.เตรียมหารือถึงตัวเลขยอดขายรถยนต์ใหม่ หลังยอดขายรวมในไตรมาสแรกปีนี้ ลดลงกว่า 30% พร้อมเรียกรัฐบาลแก้ปัญหาการปล่อยสินเชื่อซื้อรถยนต์ ขอสถาบันการเงิน
ยานยนต์ไทยยังระบม ไตรมาสแรกติดลบเกินคาด เชื่อไตรมาส 2 ก็ยังทรง ๆ แอบลุ้นเล็ก ๆว่าครึ่งปีหลังน่าจะดีขึ้น รับอานิสงส์ มะกันฟื้นตัว วอนรัฐต้องไขลานสถาบันการ เงินยอมปล่อยสินเชื่อซื้อรถใหม่กระตุ้นตลาด
นาย สุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า จากการประชุมประจำเดือนของกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์เมื่อปลายเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา พบว่าสถานการณ์ของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยยังเลวร้ายลงไปเรื่อย ๆ โดยตัวเลขต่าง ๆทางเศรษฐกิจของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยตลอดช่วงไตรมาสแรกปีนี้ (ม.ค.-มี.ค.) ทั้งตัวเลขยอดผลิต ยอดขายในประเทศ และยอดส่งออก ได้ติดลบมากกว่าที่คาด นั่นหมายความว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยยังคงจมดิ่งลงไปเรื่อย ๆ
อย่างเช่น ยอดขายรถยนต์รวมในประเทศช่วงไตรมาสแรกนี้ทำได้ 107,774 คัน ลดลง 33.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เฉพาะเดือน มี.ค.ขายได้ 41,328 คัน ลดลงถึง 37.8% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่ยอดผลิตรถยนต์ในเดือน มี.ค.มีจำนวน 63,454 คัน ลดลง 52.63% ซึ่งถือว่าลดลงมากกว่าที่คาดไว้ โดยเดิมคิดว่าจะลดลงเพียง 40% ด้านตัวเลขการส่งออกรถยนต์ก็ลดลงต่อเนื่องเช่นกันตามภาวะวิกฤติเศรษฐกิจโลก โดยเมื่อเดือน ม.ค.ลดลง 15% เดือน ก.พ. ลดลง 32% ขณะที่เดือน มี.ค. ลดลง 38% ซึ่งถือว่าทรุดลงมากกว่าที่คาดไว้
"จากภาพความเลวร้ายของ อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ ทำให้กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ต้องนัดมาถกตัวเลขกันใหม่ในเร็ว ๆ นี้ โดยจะนำตัวเลขในเดือน เม.ย.มาดูทิศทางอุตสาหกรรมยานยนต์ในปีนี้ว่าจะยังคงดิ่งลึกกว่าที่คิดไว้ หรือไม่ เพราะแม้ว่าในเดือน เม.ย.ปีนี้ ตลาดในประเทศอาจจะได้อานิสงส์จากงานบางกอกมอเตอร์โชว์ที่สามารถทำยอดขายได้ ทะลัก 16,898 คัน แต่ตัวเลขนี้ก็ยังไม่แน่ว่าจะสามารถขายได้ทุกคัน เพราะต้องรอให้สถาบันการเงินอนุมัติในการปล่อยสินเชื่ออีกด้วย ซึ่งนี่ก็เป็นหนึ่งในปัญหาสำคัญที่ทำให้ตลาดรถในประเทศไม่ขยายตัวมากกว่า ความต้องการ"
นายสุรพงษ์กล่าวว่า ขณะเดียวกันก็ต้องมาดูว่าตัวเลขส่งออกรถยนต์ในเดือน เม.ย.เริ่มฟื้นตัวบ้างหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ก็ต้องรอดูว่าตลาดส่งออกในแต่ละประเทศนั้น สามารถเคลียร์สต๊อกเดิมได้หมดลงหรือยัง
อย่างไรก็ดี มีแนวโน้มว่าตลาดรถในช่วงไตรมาสที่ 2 นี้ (เม.ย.-มิ.ย.) คงไม่เลวร้ายไปกว่าไตรมาสแรกปีนี้ เพราะไม่มีปัจจัยลบใหม่ ๆ มากระแทกซ้ำ ขณะที่สหรัฐอเมริกาเริ่มส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจเริ่มจะดีขึ้น ซึ่งจะช่วยให้เศรษฐกิจโลกพลอยดีขึ้น ที่สำคัญยังหวังว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐจะเริ่มทำงานได้ผล จึงยังมีความเชื่อลึก ๆ ว่าสถานการณ์ของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยนับตั้งแต่ ครึ่งปีหลังนี้น่าจะดีขึ้น อย่างน้อยก็ดีกว่าช่วงครึ่งปีแรกนี้ ทั้งในเรื่องตลาดในประเทศและตลาดส่งออก อย่างไรก็ดี หากรัฐสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องที่สถาบันการเงินไม่ค่อยจะยอมปล่อยสินเชื่อการ ซื้อรถยนต์ ก็จะยิ่งช่วยกระตุ้นตลาดรถยนต์ในประเทศเพิ่มความคึกคักมากขึ้น
โฆษกกลุ่ม อุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท. กล่าวอีกว่า แม้ว่าช่วงนี้สถานการณ์อุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยจะไม่สดใสมากนัก แต่ในส่วนของโรงประกอบรถยนต์ต่าง ๆ ยังไม่มีการปิดโรงงาน โดยทุกแห่งยังเดินเครื่องผลิตรถยนต์ต่อไป เพียงแต่ลดกะการทำงานลง แม้ว่าช่วงแรกๆของวิกฤติอาจจะมีบางแห่งที่ปิดโรงงานชั่วคราว นั่นเป็นเพราะต้องการลดจำนวนสต๊อกที่ค้างอยู่มาก แต่ขณะนี้ไม่น่าจะมีสถานการณ์แบบนี้แล้ว ที่น่าเป็นห่วงก็คือโรงงานผลิตชิ้นส่วน หากสายป่านสั้นก็อาจจะมีปัญหาได้ ซึ่งรัฐบาล โดยเฉพาะกระทรวงอุตสาหกรรมน่าจะเร่งหาทางช่วยผู้ผลิตชิ้นส่วนเหล่านี้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มทุนไทย
ด้านนายอดิศักดิ์ โรหิตะศุน รองประธานกรรมการบริหารอาวุโส บริษัท เอเชี่ยน ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด และรองประธาน ส.อ.ท. กล่าวว่า สถานการณ์ อุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยในขณะนี้อยู่ในช่วงขาลง ทั้งยอดผลิต ยอดขายในประเทศ และยอดส่งออกช่วงไตรมาสแรกนี้ได้ปรับลดลงเรื่อยๆในทุกเดือน เชื่อว่าไตรมาสที่ 2 นี้คงคล้ายๆกับช่วงไตรมาสแรก คือยังทรง ๆ อยู่
" อย่างไรก็ดี ขณะนี้เริ่มมีสัญญาณที่ดีว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯเริ่มนิ่งแล้ว ไม่จมดิ่งไปอีก ทั้งยังมีทีท่าว่าจะฟื้นตัวในไม่ช้านี้ เมื่อเศรษฐกิจสหรัฐฯฟื้นตัวก็ย่อมจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจทั่วโลก จึงเชื่อว่าช่วงครึ่งปีหลังสถานการณ์ ยานยนต์ไทยน่าจะดีขึ้น แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับตลาดส่งออกในแต่ละประเทศนั้นสามารถเคลียร์สต๊อก เดิมได้หมดหรือยัง หากเคลียร์ได้เร็วก็จะช่วยให้มีออเดอร์เข้ามามากขึ้น ขณะที่ตลาดในประเทศจะฟื้นตัวได้เร็วหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับสถาบันการเงินในการ ยอมปล่อยสินเชื่อซื้อรถยนต์ง่ายขึ้นหรือไม่ เพราะที่จริงแล้วขณะนี้ยังมีความต้องการซื้อรถยนต์อยู่มาก แต่ติดปัญหาที่สถาบันการเงินไม่ค่อยจะอนุมัติสินเชื่อ"
รองประธาน ส.อ.ท.กล่าวว่า ประเทศไทยยังมีศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ประจำภูมิภาคนี้ หรือ "ดีทรอยต์เอเชีย"
แม้ว่าขณะนี้จะเกิดปัญหาตลาดรถหดตัวไปทั่วโลก แต่ตลาดย่อมมีทั้งขาขึ้นและขาลง ที่สำคัญไทยยังเป็นหนึ่งในประเทศกลุ่มอาเซียนที่มีประชากรรวมกันถึง 500-600 ล้านคน ซึ่งถือว่ามีขนาดตลาดใหญ่ทีเดียว ขณะเดียวกันอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยยังมีศักยภาพ โดยเฉพาะแรงงานที่มีทักษะและมีอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ที่แข็งแกร่ง จึงนอกจากจะผลิตป้อนทั่วอาเซียนแล้ว ยังผลิตป้อนไปทั่วโลกอีกด้วย
ด้าน นางปนัดดา เจณณวาสิน รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ซึ่งนอกจากขายรถกระบะอีซูซุในประเทศแล้ว ยังรับผิดชอบการทำตลาดส่งออกรถกระบะอีซูซุไปทั่วโลก (ยกเว้นตลาดอเมริกาเหนือ) กล่าวว่า แม้ว่ายอดขายรถกระบะอีซูซุทั้งในประเทศและส่งออกได้ลดลงตามภาวะเศรษฐกิจ แต่จากการที่ได้มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายในทุกรูปแบบ โดยเฉพาะการจัดอีเว้นต์ต่าง ๆ ได้ช่วยกระตุ้นตลาด จนทำให้ยอดขายรถกระบะอีซูซุยังคงพุ่งแรงเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ มีออเดอร์เข้ามาต่อเนื่อง ขณะที่ตลาดส่งออกนั้นต้องรอให้คู่ค้าในต่างประเทศเคลียร์สต๊อกเดิมได้หมด ก่อน ซึ่งคาดว่า ในครึ่งปีหลังนี้ยอดส่งออกรถกระบะอีซูซุจะกลับมากระหึ่มได้มากขึ้น
ลีสซิ่งเหนียวหนี้ทุบตลาด อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยดิ่งหนักกว่าที่คาด
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ ลีสซิ่งเหนียวหนี้ทุบตลาด อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยดิ่งหนักกว่าที่คาด
เครดิต : ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!


กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
























กระทู้ล่าสุด


รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
















































Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday