เช็กแบล็กลิสต์เครดิตบูโรวูบ! แบงก์ระวังตัวแจคุมเข้มสินเชื่อจนยอดตก



ผู้บริหารของเครดิตบูโร เผย การใช้ข้อมูลเครดิตลดลง ในไตรมาสแรก ปีนี้ หลังเครดิตบูโรปรับปรุงระบบ และสถาบันการเงินปรับเกณฑ์การให้สินเชื่อ ที่เข้มงวดขึ้น


นายนิวัฒน์ กาญจนภูมินทร์ ผู้จัดการใหญ่บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด หรือเครดิตบูโร เปิดเผยว่า จากภาวะเศรษฐกิจที่ปรับตัวลดลง ธนาคารมีความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อ ส่งผลให้การใช้ข้อมูลเครดิตลดลงตามไปด้วย ขณะเดียวกัน สถาบันการเงินก็ได้มีการปรับเกณฑ์การให้สินเชื่อที่เข้มงวดมากกว่าเดิม ส่วนเครดิตบูโรก็ได้มีการปรับปรุงระบบให้สถาบันการเงินนำไปใช้ประโยชน์ได้ มากขึ้น โดยได้ นำระบบเครดิตสกอร์ริ่ง หรือคะแนนเครดิตมาใช้ เพื่อเป็นเครื่องมือให้กับสถาบันการเงินนำไปใช้วิเคราะห์สินเชื่อได้ แม่นยำมากขึ้น

"ในช่วงต้นปี 2551 ยอดการสืบค้นข้อมูลยังอยู่ที่ 1 ล้านรายการต่อเดือน ไตรมาส 4 ปีที่ผ่านมา มียอดการสืบค้นข้อมูลเครดิตลดลงเหลือ 900,000 รายการต่อเดือน และไตรมาสแรกของปี 2552 มียอดการสืบค้นข้อมูลเครดิตเหลือ 700,000 รายการต่อเดือนเท่านั้น"

สำหรับอัตราการผิดนัดชำระหนี้ จากข้อมูลที่สถาบันการเงินส่งให้เครดิตบูโร โดยเฉพาะสินเชื่อส่วนบุคคลที่มีอัตราการผิดนัดชำระเกิน 90 วัน มีอยู่ประมาณ 5% ของยอดสินเชื่อรวมประมาณ 800,000 ล้านบาท จากจำนวน 7.7 ล้านบัญชี ขณะที่อัตราการผิดนัดชำระของยอดสินเชื่อบัตรเครดิตอยู่ที่ 7% จากยอดสินเชื่อ 210,000 ล้านบาท จากฐานบัตรเครดิต 12.3 ล้านบัญชี

นาย นิวัฒน์กล่าวอีกว่า สิ้นไตรมาส 1 ปีที่ผ่านมา เครดิตบูโร มีจำนวนลูกค้าที่มาใช้บริการสืบค้นข้อมูลทั้งสิ้น 17.81 ล้านราย มีการสืบค้นข้อมูลเครดิต 61.93 ล้านบัญชี แบ่งเป็นบุคคลธรรมดา 17.52 ล้านราย คิดเป็น 58.6 ล้านบัญชี ลูกค้าเชิงพาณิชย์ 0.29 ล้านราย คิดเป็น 3.32 ล้านบัญชี


ทั้งนี้ลูกค้าบุคคลที่เข้าตรวจสอบเช็กข้อมูลเครดิตของตัวเองในไตรมาส 1 มีทิศทางเพิ่มขึ้น มาเป็น 14,000 รายต่อเดือน จากเดิมอยู่ที่ประมาณกว่า 10,000 รายต่อเดือน แสดงให้เห็นว่าประชาชนให้ความสำคัญกับการรักษาประวัติการชำระสินเชื่อมากขึ้น


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์