ผู้แพร่หวัดสู่เม็กซิโก รับ14ไทยถึงเครื่องบิน ล็อกตรวจ-เฝ้าระวัง!
ส่งรถพยาบาลรับถึงเครื่องบิน 14 คนไทยในเม็กซิโก ไม่ต้องผ่านด่านตม. แถมจัดห้องพิเศษตรวจวัดไข้ทันที หากพบว่าป่วยส่งรักษาที่ร.พ. บำราศฯ พร้อมนัดญาติคนใกล้ชิดทำความเข้าใจระบบเฝ้าระวังโรค "มาร์ค" เตรียมเรียกผู้ว่าฯ ทั่วประเทศประชุมรับมือ ส่วนด.ช.วัย 11 เดือนที่สงสัยติดเชื้อผลตรวจไม่พบว่าป่วย สธ.รายงานสรุปผู้ป่วยมีทั้งหมด 16 ประเทศ รวม 658 ราย เสียชีวิตแล้ว 17 ราย
-"มาร์ค"ยันไทยไม่มีหวัดหมู
เมื่อเวลา 08.45 น. วันที่ 3 พ.ค. ที่ทำ เนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมจัดประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียนที่จะมีขึ้นวันที่ 7-8 พ.ค.นี้ว่า ขณะนี้มีความพร้อมโดยนายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข จะต้องประสานกับรมว.สาธารณสุขของฟิลิป ปินส์ที่เป็นประธาน ส่วนของสาธารณสุขอาเซียนมีความพร้อมและต้องการจะแสดง ออกถึงความพร้อมแล้วที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของอาเซียนในการเตรียมพร้อมรับ มือกับปัญหานี้
เมื่อถามถึงสถานการณ์ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในประเทศไทยได้รับรายงานบ้างหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า มีการเฝ้าระวังคนที่เดินทางไปยังพื้นที่หรือกลับจากพื้นที่ที่มีการระบาด ส่วนคนที่มีอาการอยู่ในข่ายต้องสงสัยจะติดตามเฝ้าระวังเป็นพิเศษ แต่ขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่ามีคนติดเชื้อนี้ในประเทศไทย
-ชี้ไม่รุนแรง-อย่าตื่นตระหนก
เวลา 09.00 น. นายอภิสิทธิ์กล่าวในราย การ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์" ผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ ถึงสถานการณ์ไข้หวัด 2009 ว่า ไข้หวัดชนิดเอ H1N1 รัฐบาลดูแลป้องกันโดยตั้งคณะอนุกรรมการติดตามการดำเนินการ มีพล.ต. สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกฯ เป็นประ ธาน มาตรการดูแลจุดเข้าประเทศไม่เฉพาะสนามบิน จุดเข้าเมือง เพื่อตรวจอุณหภูมิ ใครเข้าข่ายเฝ้าระวัง มีการรองรับ ทั้งการเตรียมพร้อมยารักษา ส่วนวัคซีนกำลังผลิตใช้เวลา 1-2 เดือน การประชุมรมว.สาธารณ สุขอาเซียนบวกสาม ที่โรงแรมดุสิตธานี รับรายงานจากนายวิทยา แก้วภราดัย รมว. สาธารณสุข ว่า ประสานกับรมว.สาธารณ สุข ฟิลิปปินส์ ว่ามีความพร้อมที่จะเป็นประธานร่วมกัน เราต้องการแสดงความพร้อมโดยประชุมวันที่ 7-8 พ.ค. เพื่อรับมือไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ในอาเซียน ไม่จำเป็นต้องตื่นตระหนกเพราะเราเตรียมพร้อมเต็มที่ โลกพบติดเชื้อ 650 คน ตายเพียงร้อยละ 3-5 เทียบกับโรคติดต่อที่พบมา คือ ซาร์ส และไข้หวัดนก แล้ว มีความรุนแรงน้อยกว่า น่าจะเบาเหมือนติดหวัดทั่วไป จากการหาย ใจ การสัมผัส ขอประชาชนอย่าประมาทล้างมือให้สะอาด พบใครมีไข้ต้องสงสัย ให้แจ้งเจ้าหน้าที่เข้าไปเฝ้าระวัง โดยแยกตัวไว้ตรวจ ของไทยยังไม่พบใครติดเชื้อ ดังนั้นอย่าประมาทแต่อย่าตื่นตระหนก
-ประชุมผู้ว่าฯทั่วปท.รับมือ
"ขอทำความเข้าใจว่าไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ติดจากคนสู่คน การกินหมูไม่มีปัญหา แต่คนติดเชื้อหลักร้อยที่เม็กซิโก และอเมริกา มีการเดินทางไปภูมิภาคต่างๆ ดังนั้นคาดหมายว่าจะมีการแพร่ไปที่ฮ่องกง ยุโรป เราก็ต้องระมัดระวัง เมื่อเข้ามาฮ่องกงก็จัดการเร็ว องค์การอนามัยโลกก็แถลงการณ์ติดตามตลอดเวลา ช่วยได้มาก ถ้าประเทศดูแลการเข้าออกก็ง่าย เราเก็บประวัติคนไว้หมด ใครมีอาการสามารถติดตามเฝ้าระวังไม่ให้ระบาด ได้ มี 6 คนต้องสงสัยเราแยกตัวติดตาม 4 ราย สุดท้ายไม่ใช่ มาตรฐานการดูแลให้ทุกประเทศใกล้กันดูแลคนเข้าออก ภูมิภาคอาเซียนบวกสาม จีน ญี่ปุ่น เกาหลี พร้อมกว่า เรื่องวัคซีนที่จะให้คนในอาเซียน ยาเรามีพอ ประสบการณ์อาเซียนเรื่องซาร์ส ไข้หวัดนก มีความร่วมมือ ได้รับการชื่นชมว่าทำดี 6 พ.ค.นี้จะมีการประชุมผวจ.ทั่วประ เทศซักซ้อมให้ชัดเจนเรื่องนี้ คืนวันที่ 3 พ.ค. มีนักเรียนและคนไทย 14 คน กลับจากเม็กซิโก ถ้ามีอาการ จะเก็บประวัติไว้ หากเข้าข่ายต้องสงสัยจะแยกตัวมาตรวจให้มั่นใจว่าไม่ป่วย" นายกฯ กล่าว
นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อว่า ชาวโลกเห็นมาตร การดูแลสุขภาพเราทำดี น่าจะสร้างความเชื่อมั่นแก้ปัญหาท่องเที่ยว นอกจากนั้น รัฐบาลประกาศวาระแห่งชาติเสริม เช่น สินเชื่อดูแลกิจการ 5 พันล้านบาท ประกันภัยนักท่องเที่ยว ต่างประเทศเริ่มฟื้นตัว ไทยตัวเลขเม.ย.คนลาออกเลิกจ้างลดลงเมื่อเทียบเดือน ก.พ. อย่างไรก็ตาม อาจเป็นเพราะมีการระบายสินค้า 2 เดือนนี้
-รายงานล่าสุดตายแล้ว 17 ศพ
เมื่อเวลา 11.30 น. ที่กระทรวงสาธารณ สุข นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวหลังการประชุมศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวัง แก้ไข ป้อง กันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ว่า สำหรับสถานการณ์ทั่วโลก องค์การอนามัยโลกรายงานตั้งแต่ 24 เม.ย.ถึงเช้าวันที่ 3 พ.ค. มีรายงานผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ทั้งหมด 16 ประเทศ รวม 658 ราย เสียชีวิต 17 ราย ประกอบด้วย เม็กซิโกป่วย 397 ราย เสียชีวิต 16 ราย อเมริกาป่วย 160 รายใน 22 รัฐ เสียชีวิต 1 ราย ที่เหลืออีก 14 ประเทศ ไม่มีรายงานเสียชีวิต ได้แก่ แคนาดา 51 ราย คอสตาริกา 1 ราย ฝรั่งเศส 2 ราย เกาหลี 1 ราย สหราชอาณาจักร 15 ราย เยอรมนี 6 ราย อิสราเอล 3 ราย นิวซีแลนด์ 4 ราย สเปน 13 ราย ออสเตรีย 1 ราย เนเธอร์แลนด์ 1 ราย สวิตเซอร์แลนด์ 1 ราย จีน (ฮ่องกง) 1 ราย และเดนมาร์ก 1 ราย
-สธ.เฝ้าระวังเด็กชาย 11 เดือน
นายวิทยากล่าวว่า สถานการณ์ในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 28 เม.ย.-2 พ.ค. สำนักระบาดวิทยา รับรายงานผู้ป่วยในข่ายเฝ้าระวังโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่สะสม 10 ราย ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการเป็นไข้หวัดใหญ่ทั่วไป 9 ราย อยู่ระหว่างการตรวจผลทางห้องปฏิบัติการอีก 1 รายเป็นเด็กชายวัย 11 เดือน อยู่ที่จ.บุรีรัมย์ โดยเดินทางมาจากประเทศนิวซีแลนด์ ถึงไทยเมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ในความดูแลของทีมสอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็วของพื้นที่แล้ว สำหรับผู้ที่มีไข้ 1 ราย เป็นหญิงที่ส่งเข้าสังเกตอาการที่สถาบันบำราศนราดูร ช่วง 2 วันที่ผ่านมา ผลการตรวจยืนยันพบเป็นไข้หวัดใหญ่ทั่วไป วันนี้อาการดีขึ้น แพทย์ให้กลับบ้านได้แล้ว
ทั้งนี้ ผลการเฝ้าระวังผู้เดินทางเข้าประเทศที่สนามบินสุวรรณภูมิเมื่อวันที่ 2 พ.ค.ที่ ผ่านมา ผ่านเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิทั้ง 6 จุด จำนวน 34,735 คน พบอุณหภูมิสูง 7 คน วัดซ้ำไม่มีไข้ ได้ให้คำแนะนำการดูแลสุขภาพตนเองเป็นระยะ 7 วัน ผลการตรวจสะสมรอบ 6 วันที่ผ่านมา มีการตรวจวัดอุณหภูมิทั้งหมด 216,448 ราย ยังไม่พบผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
-บุกรับ 14 คนไทยถึงเครื่องบิน
นายวิทยากล่าวอีกว่า ที่ประชุมพิจารณาถึงแผนการเฝ้าระวังโรคให้กับคณะนักเรียนทุนเอเอฟเอส และครูชาวไทย รวม 14 คน ที่เดินทางออกจากประเทศเม็กซิโก มาต่อเครื่องที่นิวยอร์ก ลอสเองเจลิส สหรัฐอเมริกา และนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น โดยสายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ โดยมาถึงประเทศไทยในเวลา 23.20 น. คืนวันที่ 3 พ.ค. โดยขณะนี้ สธ. ประสานไปยังครอบครัว ญาติของคณะครู และนักเรียนทั้ง 14 คน ขอนัดพบในเวลา 21.00 น. ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการการเฝ้าระวังโรค เบื้องต้นทราบว่า นักเรียนทั้ง 7 คน มีภูมิลำเนาอยู่ในกรุงเทพฯ ส่วนคณะครูมีภูมิลำเนาอยู่ในต่างจังหวัด รวมทั้งจะแจกอุป กรณ์ป้องกันโรคให้ด้วย เช่น หน้ากากอนามัย เจลฆ่าเชื้อ ปรอทวัดอุณหภูมิ เป็นต้น เพื่อให้ญาติช่วยดูแลผู้ที่เดินทางกลับมา
"โดยสธ.จะนำรถพยาบาลฉุกเฉินไปรับตัวคณะครู นักเรียนทันที่ที่ลงจากเครื่องบิน โดยไม่ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง และไม่ผ่านเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิ (เทอร์โมสแกน) เหมือนผู้โดยสารทั่วไป แต่จะจัดห้องรับรองพิเศษสำหรับตรวจร่างกายเบื้องต้น ซึ่งมีทีมแพทย์พยาบาลตรวจคัดกรองอาการอย่างละเอียด โดยการวัดอุณหภูมิร่างกาย หากมีอุณหภูมิสูงเกิน 37 องศาเซลเซียส หรือมีอาการไอ จาม มีน้ำมูก จะถือว่าป่วยไข้ต้องส่งตัวไปโรงพยาบาลบำราศฯ เพื่อตรวจสุข ภาพอย่างละเอียดและให้การรักษาทันที" นายวิทยา กล่าว
-สั่งคุมเข้ม-ตรวจละเอียดยิบ
นายวิทยากล่าวว่า ในรายที่ไม่มีอาการป่วยไข้ ก็ต้องเข้าระบบเฝ้าระวังโรคของสธ. เช่นเดียวกัน โดยให้เลือกตามความสมัครใจว่าจะให้สธ.เฝ้าระวังโรคให้ คือพักค้างที่โรงพยา บาลบำราศฯ นาน 7 วัน โดยอนุญาตให้ นำญาติมาพักด้วย 2-3 คน หรือจะพักอยู่ที่บ้านตนเองนาน 7 วัน โดยจะมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ติดตามอาการทุกวัน เช่น วัดอุณหภูมิร่างกาย ซักประวัติ ไอ จาม เป็นต้น และในระหว่างเฝ้าระวังโรค ขอความรวมมือให้อยู่เฉพาะในบ้านพักเท่านั้น เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไวรัส เพราะเชื้อนี้มีระยะฟักตัว 2-3 วัน เป็นช่วงที่มีความเสี่ยงในการแพร่เชื้อได้สูง นอกจากนี้ ประสานไปยังสายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ เพื่อขอชื่อ ที่อยู่ที่พำนักในประเทศไทย หมายเลขโทรศัพท์ของผู้โดยสารที่นั่งใกล้กับคณะครู และนักเรียนชาวไทยทั้ง 14 คน ในระยะ 2 แถวที่นั่งติดกัน ซึ่งอาจต้องเข้าระบบเฝ้าระวังโรคของสธ.ไทย หากพบว่าในคณะคนไทยติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 กลับมาด้วย
นายวิทยากล่าวว่า สธ.ดำเนินมาตรการป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่เข้าสู่ประเทศไทยอย่างเต็มที่ หลังมีรายงานเชื้อแพร่ระบาดใน 16 พื้นที่ ซึ่งมีประเทศในเอเชียด้วย จัดทำแนวทางการตรวจคัดกรองสำหรับเจ้าหน้าที่ประจำด่านควบคุมโรค เฝ้าระวังผู้ที่เดินทางเข้าประเทศทุกด่าน ทั้งทางบก 60 ด่าน ทางน้ำ 15 ด่าน และทางอากาศ 15 ด่าน และระดมแพทย์พยาบาลและเจ้าหน้าที่ควบคุมโรคประจำการวันละกว่า 30 คน หมุนเวียนประจำที่สนามบินสุวรรณภูมิตลอด 24 ชั่ว โมง เพื่อตรวจคัดกรองผู้ที่ผ่านเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิและมีไข้อีกชั้นหนึ่ง โดยได้จัดรถพยาบาลฉุกเฉินจำนวน 3 คัน เพื่อรับตัวผู้ที่มีไข้ไปรับการรักษาและสังเกตอาการในห้องแยกปลอดเชื้อที่สถาบันบำราศนราดูร ทั้งนี้ ได้แต่งตั้งศ.น.พ.ประเสริฐ ทองเจริญ ผู้เชี่ยว ชาญด้านไวรัสวิทยาของประเทศไทย เป็นประธานคณะที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของสธ.ด้วย
-ไม่ห้ามคนไทยไปประเทศติดเชื้อ
นายวิทยากล่าวว่า สำหรับมาตรการรับมือหลังมีเชื้อระบาดเข้าสู่ทวีปเอเชีย สธ.ไทยจะยึดตามประกาศขององค์การอนามัยโลก โดยยังจะไม่ห้ามคนไทยเดินทางไป 16 พื้นที่ที่มีรายงานยืนยันพบผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 แต่ขอให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปพื้นที่ดังกล่าวชั่วคราว หากจำเป็นต้องเดินทาง ขอให้ปฏิบัติตนตามคำแนะนำของสธ.ของไทย และประเทศที่จะเดินทางไปด้วยอย่างเคร่งครัด ส่วนคนไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ ขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของสธ.อย่างเคร่งครัด
น.พ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดสธ. กล่าวว่า ขอให้ประชาชนไทยอย่าตื่นตระหนกกับข่าวการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 จนเกินไป เนื่องจากขณะนี้มีรายงานว่ามีประชาชนจำนวนมากที่จะเดินทางไปต่างประเทศ หาซื้อยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่เพื่อกินป้องกันเอง เป็นเรื่องที่อันตรายมาก เพราะจะทำให้เกิดปัญหาเชื้อดื้อยาและไม่มียาที่จะรักษาได้อีก การใช้ยาจึงต้องอยู่ในความควบคุมของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ยานี้จะไม่มีจำหน่ายในร้านขายยาทั่วไป
น.พ.ม.ล.สมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากการที่องค์การอนามัย โลกมีความวิตกว่า กลุ่มผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ เช่น ผู้ติดเชื้อเอชไอวี เป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะติดเชื้อได้ง่าย ในส่วนของผู้ติดเชื้อเอชไอวีของไทย ขอให้เคร่งครัดในการดูแลสุขภาพให้แข็งแรง กินอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกาย และกินยาต้านไวรัสตามที่แพทย์สั่งให้ครบ หากมีอาการป่วยให้รีบไปพบแพทย์ทำการรักษาทันที
-ชี้"หวัดหมู"ติดเชื้อคนสู่คน
ศ.น.พ.ประเสริฐ ทองเจริญ ประธานคณะที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของสธ. กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานข่าวการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในหมู ที่ประเทศแคนาดา ซึ่งติดจากคนที่ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ว่า ในประเทศแถบสหรัฐอเมริกาพบการป่วยในหมูเป็นประจำอยู่แล้ว และมีการติดต่อสู่คนได้แต่ไม่มาก ซึ่งหมูถือเป็นถังผสมของเชื้อทำให้เกิดการกลายพันธุ์ได้เป็นอย่างดี เช่น เมื่อหลายปีที่ผ่านมาที่สหรัฐเคยพบกรณีการติดเชื้อจากหมูในหญิงตั้งครรภ์ ทำให้หญิงคนดังกล่าวเสียชีวิต แต่ไม่มีการระบาดในวงกว้าง ซึ่งก็มีการติดตามเชื้อเป็นระยะๆ แต่ยังไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดจากอะไร และไม่ทราบว่าเป็นเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 หรือไม่
"แต่การระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 มีความน่าเป็นห่วงเพราะเป็นเชื้อ H1N1 คล้ายกับที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2464 ที่มีการระบาดของสแปนิชฟูล อย่างไรก็ตาม รายงานการติดเชื้อในคนที่เกิดขึ้นทั้งประเทศเม็กซิโก และสหรัฐ และอีกหลายประเทศ ก็ไม่พบประวัติการสัมผัสหมูแต่อย่างใด จึงสันนิษฐานว่า เป็นการติดต่อจากคนสู่คน ฉะนั้น การติดเชื้อในหมูของประเทศแคนาดา จึงไม่น่ามีความเกี่ยวข้องแต่อย่างใด แต่ก็ต้องรอการพิสูจน์ที่ชัดเจนต่อไป ส่วนในประเทศ ไทยนั้น ยังไม่เคยได้ยินรายงานการติดเชื้อหวัดหมูในหมูแต่อย่างใด" ศ.น.พ.ประเสริฐ กล่าว
-พบหมูติดเชื้อในแคนาดา
สำหรับความเคลื่อนไหวสถานการณ์ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ระบาดในต่างประเทศ สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ตรวจพบหมูติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่เป็น ครั้งแรกในฟาร์มหมู เมืองอัลเบอร์ตา ประ เทศแคนาดา เบื้องต้นสันนิษฐานว่าคนงานในฟาร์มนำโรคไปแพร่ใส่หมู แต่ไม่มีการเปิดเผยจำนวนหมูที่ติดโรคดังกล่าว
ดร.ไบรอัน เอวานส์ เจ้าหน้าที่ระดับสำนักงานตรวจสอบอาหาร ประเทศแคนาดา แถลงว่า ตรวจพบสุกรในฟาร์มแห่งหนึ่งในรัฐอัลเบอร์ตา ติดเชื้อไข้หวัด 2009 คาดว่าได้รับเชื้อจากเกษตรกรในฟาร์ม ซึ่งเพิ่งเดินทางกลับมาจากประเทศเม็กซิโก ศูนย์กลางการระบาดใหญ่ของโรค
"อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ไวรัสไข้หวัดใหญ่จะแพร่จากคนสู่สัตว์ และไม่ได้ทำให้การบริโภคเนื้อหมูเป็นอันตรายแต่อย่างใด" ดร.เอวานส์ กล่าว
-แม็กซิโกขอความเป็นธรรม
ที่กรุงเม็กซิโก ซิตี เมืองหลวงเม็กซิโก รัฐมนตรี 2 คนออกมาตอบโต้รัฐบาลหลายประเทศที่ใช้นโยบายรุนแรงต่อประชาชนและผลิตภัณฑ์หมูเม็กซิโก โดยนายโอเซ แอง เจล คอร์โดวา รัฐมนตรีสาธารณสุข ยืนยันว่า รัฐบาลควบคุมภาวะโรคระบาดได้คงที่แล้ว เห็นได้จากสถิติผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตเริ่ม ลดลง จึงอยากขอให้นานาชาติปฏิบัติต่อเม็ก ซิโกด้วยความเป็นธรรม
ด้านนางแพทริเซีย เอสปิโนซา รัฐมนตรีต่างประเทศ วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลจีน เปรู อาร์เจนตินา คิวบา เอกวาดอร์ ว่าทำเกินกว่าเหตุ ทั้งห้ามเที่ยวบินเม็กซิโกเข้าประเทศและกีดกันชาวเม็กซิโก นอกจากนั้น ยังขอให้ชาวเม็กซิโกหลีกเลี่ยงไม่เดินทางไปจีน หลังเกิดกรณีกักกันตัวพลเมืองเม็กซิกันในเมือง 3 แห่งโดยไม่จำเป็น
-โวย"ฮ่องกง"กักคนในโรงแรม
ส่วนความคืบหน้ากรณีทางการเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ประเทศจีน สั่งกักตัวแขก 300 คน 7 วันในโรงแรม 4 ดาว "เมโทรปาร์ก" เพราะพบชาวเม็กซิโกติดเชื้อไวรัส 2009 พักอยู่ในโรงเแรมแห่งนี้ ล่าสุด ตัวแทนบริษัททัวร์ซึ่งมีลูกค้าติดอยู่ในโรงแรม เปิดเผยว่า บรรยากาศเริ่มไม่สู้ดี ลูกค้าบางคนออกอาการสติแตก ร้องไห้ไม่หยุด รวมทั้งโมโหโวยวายที่โดนล็อกตัวไม่ได้ไปไหน
ขณะที่ดร.โล อิงล็อก ผู้เชี่ยวชาญโรคติดต่อมองว่า รัฐบาลฮ่องกงโอเวอร์รีแอ็ก หรือตื่นตูมเกินไป การขังคนไว้ในโรงแรมไม่มีประโยชน์อะไรเลย เพราะไข้หวัดใหญ่เป็นโรคติดต่อกันได้ต่อเมื่ออยู่ใกล้ชิดกัน เป็นส่วนใหญ่ เชื่อว่ารัฐบาลทำเช่นนี้เพื่อเรียกคะแนนนิยมทางการเมือง
-สงสัยต้นตอด.ข.ในอเมริกา
ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา สำนักข่าวเอเอฟพีแจ้งว่า นายสกอตต์ ไบรอัน โฆษกศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (ซีดีซี) แถลงว่า มีความเป็นไปได้ว่าเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่อาจมีต้นตอแพร่ระบาดมาจากรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเอง เมื่อผลสอบสวนชี้ว่า มีรายงานผู้ติดเชื้อหลายรายในรัฐแคลิฟอร์ เนียก่อนจะพบการระบาดในเม็กซิโก ซึ่งเป็นศูนย์กลางแพร่กระจายเชื้อไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ หนึ่งในกลุ่มผู้ป่วยเป็นเด็กชายอายุ 10 ปี อาศัยอยู่ในเขตซานดิเอโกเคาน์ตี้ ติดชายแดนเม็กซิโก ล้มป่วยวันที่ 30 มี.ค. ก่อนจะเกิดการระบาดใหญ่ในเม็กซิโก และอีกรายเป็นเด็กหญิงอายุ 9 ปีในเขตแคลิฟอร์เนียเคาน์ตี้ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆ กัน ล้มป่วยวันที่ 28 มีนาคม อย่างไรก็ตาม เด็ก 2 คนนี้ไม่มีประวัติเคยเดินทางไปเม็กซิโก
-ส่อปรับระดับโรคระบาดสูงสุด
นายโรเบิร์ต กิ๊บส์ โฆษกทำเนียบขาว หรือคณะบริหารรัฐบาลสหรัฐ แถลงว่า มีแนวโน้มที่องค์การอนามัยโลก (WHO) จะปรับระดับเตือนภัยโรคระบาดเป็นขั้นสูงสุด หรือระดับ 6 หมายความว่าโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ได้กลายเป็นโรคระบาดระดับโลกสมบูรณ์แบบ ด้านสำนักงานสาธารณสุขรัฐนครนิวยอร์ก รัฐนิวยอร์ก เผยว่า พบผู้ต้อง สงสัยติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 กว่า 1,000 คน แต่ไม่ได้ป่วยหนัก และกลุ่มยืนยันว่าติดเชื้อแน่นอนมีแค่ 62 คน
เอเอฟพีรวบรวมรายชื่อประเทศที่พบผู้ติดเชื้อไข้หวัด 2009 ณ วันที่ 3 พ.ค. ประกอบด้วย เม็กซิโก สหรัฐ แคนาดา สเปน อังกฤษ เยอรมนี นิวซีแลนด์ อิสราเอล ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย ฮ่องกง คอสตาริกา เดนมาร์ก อิตาลี เนเธอร์แลนด์ เกาหลีใต้ สวิตเซอร์แลนด์ ยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลก 787 คน ตาย 16 ราย
นอกจากนี้ เอเอฟพีรายงานจากกรุงโบโก ตา ประเทศโคลัมเบีย ว่า สื่อท้องถิ่นเผยว่า มีการตรวจพบชาวโคลัมเบียติดเชื้อไวรัสไข้หวัดพันธุ์ใหม่รายแรก เป็นชายอายุ 42 ปี อาศัยอยู่ในเมืองซิปาคีรา ไม่ไกลจากโบโกตา และรัฐบาลเตรียมออกแถลงการณ์ชี้แจงข้อเท็จจริงอย่างเป็นทางการต่อไป
-สธ.ชุดใหญ่รอรับ 14 คนไทย
ค่ำวันเดียวกัน นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข พร้อมด้วยนายมานิต นพอมรบดี รมช.สาธารณสุข น.พ.ปราชญ์ บุณย วงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และ ผู้บริหารระดับสูง นำทีมแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ควบคุมโรค ตรวจสุขภาพคนไทยจำนวน 14 คน ที่เดินทางกลับจากประเทศเม็กซิโก ด้วยสายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อเฝ้าระวังป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เข้าสู่ประเทศไทย
นายวิทยากล่าวว่า เที่ยวบินที่คนไทยเดินทางมาจากเม็กซิโกวันนี้ มีผู้โดยสารพร้อมลูกเรือทั้งหมด 300 คน โดย 7 คน เป็นนักเรียนทุนเอเอฟเอส อยู่กทม.ทั้งหมด ไปเม็กซิโกตั้งแต่เดือน ส.ค. 2551 เดิมมีกำหนดกลับไทย ก.ค. 2552 ส่วนอีก 7 คน เป็นอาจารย์ไปดูงานที่เม็กซิโก ตั้งแต่ 25 เม.ย. 2552 ทั้งหมดนี้กระทรวงสาธารณสุขจะดูแลตามระบบตรวจคัดกรองโดยทีมแพทย์ หากพบว่ามีไข้ จะส่งตัวเข้าดูแลรักษาที่สถาบันบำราศนราดูร ส่วนผู้ที่ไม่มีไข้จะให้พักผ่อนสังเกตอาการที่บ้านเป็นเวลา 7 วัน โดยมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและอสม.เข้าไปดูแลสุขภาพ สอบถามอาการทุกวัน
-ผลตรวจด.ช. 11 เดือนไม่ติดเชื้อ
นายวิทยากล่าวต่อว่า สำหรับความคืบหน้าเด็กวัย 11 เดือน 1 ราย ที่อยู่ในข่ายเฝ้าระวังไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่ จ.บุรีรัมย์ หลังเดินทางกลับจากประเทศนิวซีแลนด์ เมื่อ 1 พ.ค. ผลการตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เมื่อเย็นวันนี้ ไม่พบเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 แต่อย่างใด สรุปว่าจนถึงขณะนี้ไทยยังไม่พบผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
ด้านนายมานิต นพอมรบดี รมช.สาธารณ สุข กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขเฝ้าระวังผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศทุกสายการบิน มีระบบตรวจสอบที่สนามบิน บริษัททัวร์ต่างๆ และโรงแรมทั่วประเทศ โดยก่อนลงเครื่องที่สนามบินทุกแห่ง ผู้โดยสารทุกคนจะได้รับแจ้งคำแนะนำการปฏิบัติตัว และกรอกประวัติผู้ที่เดินทางมาจากแหล่งระบาดของโรค และแจกบัตรคำเตือนสุขภาพ หาก มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ ได้แก่ มีไข้ ไอ ปวดเมื่อยตามตัว ให้พบแพทย์พร้อมแจ้งประวัติการเดินทางให้แพทย์ทราบ ซึ่งจะทำให้สามารถค้นหาผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็ว
"ขอย้ำว่าประชาชนจึงไม่ควรกังวลจนเกินเหตุ เนื่องจากไทยยังไม่พบผู้ติดเชื้อ ส่วนผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศทุกคน โดยเฉพาะมาจากพื้นที่ระบาด เป็นเพียงผู้ที่อยู่ในข่ายเฝ้าระวัง ต้องติดตามอาการเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ติดโรค และมาตรการที่กระทรวงดำเนินการทั้งหมดก็เพื่อป้องกันไม่ให้มีการระบาดเกิดขึ้นในประเทศไทย" นายมานิตกล่าว