แนะรัฐเกาะเศรษฐกิจจีน สศค.กางตำรากอบกู้กำลังซื้อในประเทศ



นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส โฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจการคลังไตรมาสแรกของปีนี้ว่า อัตราการขยายตัวเศรษฐกิจในไตรมาสแรกของปีนี้ น่าจะเป็นการขยายตัวที่เป็นจุดต่ำสุดของปี


หมายความว่าไตรมาสแรกของปีนี้ เศรษฐกิจไทยติดลบมากกว่า 4.3% ของจีดีพี (ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ) ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 4 ของปีที่แล้ว เนื่องจากเครื่องชี้เศรษฐกิจทุกตัวขยายตัวในลักษณะติดลบทั้งหมด ขณะเดียวกัน ก็ได้เห็นสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ดีขึ้นในระยะต่อไป โดยดูได้จากตัวเลขการส่งออกช่วงเดือน ก.พ. และเดือน มี.ค.ที่ขยายตัวได้ดีขึ้นในบางภาคอุตสาหกรรม แม้ว่าในภาพรวมแล้วยังติดลบถึง 20.6% ก็ตาม

ทั้งนี้ การส่งออกในภาคอุตสาหกรรมการเกษตร เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ที่ส่งไปยัง 3 ประเทศหลักคือ จีน แอฟริกา และออสเตรเลีย เริ่มมีแนวโน้มดีขึ้น โดยเฉพาะส่งไปยังจีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีแนวโน้มการฟื้นตัวที่ดี และช่วยหนุนให้เศรษฐกิจโลกดีขึ้น ดังนั้น กลุ่มอุตสาหกรรมดังกล่าวจะเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมส่งออกที่จะช่วยเศรษฐกิจไทยไม่ให้ชะลอตัวมากนัก รัฐบาลควรจะเข้ามาสนับสนุนอุตสาหกรรมดังกล่าวให้มากขึ้น

"แม้ว่าจะมีสัญญาณที่ดี แต่ก็ไม่ควรพอใจ เพราะเป็นตัวเลขแค่ 2 เดือนที่ผ่านมาเท่านั้น การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกโดยเฉพาะสหรัฐฯ ญี่ปุ่นยังไม่ดี แต่เศรษฐกิจของจีน ตะวันออกกลาง และออสเตรเลียเริ่มมีแนวโน้มดีขึ้น ซึ่งอาจจะเป็นขอนไม้ให้ไทยได้เกาะในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำแบบนี้ได้ นโยบาย ของรัฐบาลควรสนับสนุนด้วยการย้ายทรัพยากรคน เครื่องจักร ไปหนุนอุตสาหกรรมดังกล่าวให้มากขึ้น"


นายเอกนิติกล่าวว่า เครื่องชี้ภาพรวมเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้บ่งชี้ว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลเริ่มมีบทบาทสำคัญ

โดยเฉพาะการใช้จ่ายของภาครัฐที่เร่งตัวสูงขึ้น ขณะที่การเบิกจ่ายงบประมาณกลางปีสามารถเบิกจ่ายได้ถึง 45,000 ล้านบาท หรือ 40% ของงบกลางปีทั้งหมด แต่การเบิกจ่ายดังกล่าวก็ไม่ได้บ่งชี้ว่าควรจะพอใจ เพราะการบริโภคภาคเอกชนและการลงทุนยังไม่ฟื้นตัว สะท้อนได้จากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มที่ติดลบ 19.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนการลงทุนไม่ขยายตัวเพราะไม่มีใครกล้าลงทุน

สำหรับภาวะเศรษฐกิจโลกอาจได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดไข้หวัดเม็กซิโก โดยเฉพาะเรื่องของการเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งในส่วนของไทยจะได้รับผลกระทบมากน้อย ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการเพื่อป้องกันภาวะเสี่ยงของโรคระบาดดังกล่าว เนื่องจากไทยเคยเกิดสถานการณ์โรคระบาดของซาร์สและไข้หวัดนกมาก่อน จึงถือเป็นโอกาสของไทยในภาวะวิกฤติดังกล่าว อย่างไรก็ตาม สศค.จะประเมินตัวเลขเศรษฐกิจไทยทั้งปีอีกครั้ง ในเดือน มิ.ย. ซึ่งขณะนี้ สศค.ยังประมาณการเศรษฐกิจไทยในปีนี้ขยายตัวติด ลบที่ 2-3% ของจีดีพี


ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) ว่า

ได้สั่งให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ไปเจาะดูให้ได้ว่า ตัวเลขเศรษฐกิจภายในที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ต่าง ๆ มีความรุนแรงแค่ไหน หลังจาก ครม.เศรษฐกิจได้รับทราบตัวเลขเช่น การเงิน การคลัง ภาวะแรงงาน ท่องเที่ยว และผลกระทบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา

โดยขณะนี้ตัวเลขการว่างงานและการลาออกจากงานที่เป็นข้อห่วงใยอันดับหนึ่งของรัฐบาลพบว่า ในเดือน มี.ค.มีทิศทางที่ดีขึ้นจากเดือน ก.พ. และจะจับตาดูตัวเลขเดือน เม.ย.ต่อไป ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากมาตรการที่กระทรวงแรงงานพยายามทำความเข้าใจให้ผู้ประกอบการชะลอการเลิกจ้าง แต่ไม่ สามารถทำได้เสมอไป หากพื้นฐานทางเศรษฐกิจยังไม่ดีขึ้น ขณะที่ตัวเลขด้านการผลิตภาคส่งออกและนำเข้ายังหนักอยู่ ยกเว้นสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่เริ่มดีขึ้นมาบ้าง อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีทิศทางสรุปที่ชัดเจน เพราะอาจเป็นเพราะสต๊อกเดิมหมด รัฐบาลจึงยังไม่ปักใจ และจะติดตามสถานการณ์อย่างไม่ประมาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายไพฑูรย์ แก้วทอง รมว. แรงงาน รายงานให้ ครม.เศรษฐกิจรับทราบสถานการณ์ การเลิกจ้างแรงงานมีแนวโน้มดีขึ้นมาก

โดยจำนวนผู้ประกันตนที่มาขึ้นทะเบียนขอรับประโยชน์ทดแทน กรณีว่างงานลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 หลังจากเพิ่มสูงสุดในเดือน ก.พ. 101,939 คน เหลือ 81,842 คน ในเดือน มี.ค. ขณะที่จำนวนผู้ประกันตนที่กลับเข้าทำงานมีแนวโน้มคงที่เดือนละ 18,000-20,000 คน และคาดว่าภายในเดือน เม.ย.นี้ การเลิกจ้างแรงงานจะลดลงเหลือ 50,000 คนเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการ สศช. ชี้แจงว่า แม้ว่าแนวโน้มการเลิกจ้างแรงงานจะดีขึ้น แต่ต้องติดตามและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เพราะสถานการณ์การเลิกจ้างแรงงานยังไม่สิ้นสุด อัตราการใช้กำลังการผลิตของสถานประกอบการขณะนี้อยู่ที่ระดับ 50% และมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจ

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์