เรคกูเลเตอร์ถกเครียดลดค่าเอฟที



นายดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานคณะกรรมการกำกับกิจการไฟฟ้า (เรคกูเลเตอร์) เปิดเผยว่า เรคกูเลเตอร์ได้พิจารณาอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) ที่จะเรียกเก็บในบิลค่าไฟฟ้าของประชาชนในงวดใหม่ (พ.ค.-ส.ค. 52) แล้วเบื้องต้น


ก่อนที่จะมีการหารือตัวเลขขั้นสุดท้ายอีกครั้งในสัปดาห์นี้ โดยในหลักการจะคงค่าเอฟทีไว้ไม่เปลี่ยนแปลง แม้ว่าเอฟทีที่แท้จริงจะต้องปรับลดลงเนื่องจากจะนำเงินส่วนที่ลดดังกล่าวคืนให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่แบกภาระค่าเอฟทีไว้ก่อนหน้านี้ 20,000 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ค่าเอฟทีที่จะเรียกเก็บในงวดเดือน พ.ค.-ส.ค.หากพิจารณาจากปัจจัยการผลิตจะพบว่า ราคาก๊าซธรรมชาติที่เป็นเชื้อเพลิงหลักได้ปรับลดลง 16 บาทต่อล้านบีทียู รวมกับค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงเล็กน้อย

ส่งผลให้ค่าเอฟทีเบื้องต้นสามารถปรับลดลง 15.54 สตางค์ (สต.) ต่อหน่วยจากปัจจุบัน แต่เนื่องจากก่อนหน้านี้ กฟผ.ต้องแบกรับภาระไว้แทนประชาชน 20,000 ล้านบาท จากการปรับขึ้นค่าเอฟทีไปก่อนหน้านี้ แต่รัฐบาลมีนโยบาย ให้ตรึงค่าเอฟทีไว้ทำให้การจัดเก็บไม่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง จึงมีภาระหนี้สะสมดังกล่าว ดังนั้นเรคกูเลเตอร์จึงเห็นว่า เมื่อสามารถปรับลดค่าเอฟทีได้จึงให้กันเงินส่วนที่จะลดลงไปใช้หนี้คืน กฟผ.ก่อน ซึ่งก็จะทำให้ค่าเอฟทีในงวดเดือน พ.ค.-ส.ค.ยังคงเก็บในอัตราปัจจุบันคือ 92.55 สต.ต่อหน่วย


ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ค้าน้ำมันทุกรายจะทำการปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ลง 50 สต./ลิตร ยกเว้น อี 85 ซึ่งจะมีผลตั้งแต่ 29 เม.ย.เป็นต้นไป


เนื่องจากราคาน้ำมันในตลาดโลกได้ ปรับลดลงต่อเนื่องตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ผู้ค้าน้ำมันก็ยังไม่ได้มีการปรับลดราคาในทันที เนื่องจากต้องการรักษาระดับค่าการตลาดไว้ในระดับสูงโดยเฉพาะกลุ่มเบนซินค่าการตลาดเฉลี่ยสูงกว่า 3 บาท/ลิตร นายมนูญ ศิริวรรณ นักวิชาการด้านน้ำมันกล่าวว่า ราคาน้ำมันตลาดโลกปรับตัวลดลงมีปัจจัยมาจากภาวะเศรษฐกิจเป็นหลัก ประกอบกับช่วงนี้มีปัจจัยอื่นๆเข้ามาเสริมให้ลดลงมากขึ้น

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์