เม็กซิโกหวั่น หวัดหมูระบาด

หนึ่งในข่าวใหญ่ข้ามสัปดาห์ที่สังคมโลกติดตามให้ความสนใจใกล้ชิด คือ กรณีโรค "ไข้หวัดใหญ่หมู" (Swine Flu) สายพันธุ์ใหม่ระบาดหนักในกรุงเม็กซิโกซิตี เมืองหลวงประเทศเม็กซิโก และระบาดลามเข้าไปในพื้นที่ทางใต้ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีพรมแดนติดกัน พบผู้ป่วยนับพันราย ทำให้องค์การอนามัยโลกหวั่นเกรงว่าโรคอาจแพร่กระจายออกจากแถบอเมริกา เพราะสามารถติดต่อได้จาก "คนสู่คน!"

ข้อมูลจากศูนย์ควบคุมโรค สหรัฐ หรือ "ซีดีซี" ระบุว่า สายพันธุ์ไวรัสไข้หวัดใหญ่หมู หรือเรียกตามประสาชาวบ้านว่า "ไข้หวัดหมู" ที่ระบาดในเม็กซิโกซิตีและสหรัฐนั้นจัดอยู่ในกลุ่ม "A/H1N1" ซึ่งยังไม่เคยตรวจพบมาก่อน

ลักษณะเด่นของไวรัสดังกล่าวมี "หน่วยพันธุกรรม" (ยีน) ของไวรัสไข้หวัดนกที่พบในทวีปอเมริกาเหนือ ไข้หวัดใหญ่ที่พบในคน และไข้หวัดหมูที่พบบ่อยในทวีปเอเชียและยุโรป รวมอยู่ในเชื้อเดียวกัน

จุดเริ่มต้นที่ไปที่มาการระบาดเชื่อว่าเริ่มช่วงกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมาในเขตเม็กซิโกซิตี

จนถึงปลายสัปดาห์พบผู้เสียชีวิต 60 กว่าคน ล้มป่วย 1,000 กว่าคน

เคราะห์ยังดีที่ยาต้านไวรัสบางชนิด เช่น ทามิฟลูและรีเลนซ่า ยังพอต้านทานโรคได้

แต่ทางการเม็กซิโกแนะนำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิด เช่น จับไม้จับมือหรือจูบทักทาย

พร้อมสั่งปิดสถานที่สาธารณะชั่วคราวเพื่อป้องกันโรคแพร่ระบาด และสั่งทหารไปเดินแจกผ้าปิดจมูกปิดปากให้ประชาชนตามท้องถนน

ข้อน่าสังเกตของการระบาดครั้งนี้ก็คือ เป็นการระบาดนอกฤดูไข้หวัดใหญ่ ซึ่งส่วนมากจะสิ้นสุดช่วงปลายเดือนมีนาคม

นอกจากนั้น ผู้ป่วยส่วนใหญ่ยังเป็นคนหนุ่มสาวมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงดี

แต่อาจติดเชื้อง่ายเพราะคนกลุ่มนี้อยู่ในที่สาธารณะ เป็นวัยทำงาน และพบปะผู้คนมากกว่าคนในกลุ่มอายุอื่น

โรคไข้หวัดใหญ่หมูเป็นโรคระบบทางเดินหายใจที่เกิดขึ้นในหมู เกิดจากไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ "A" หมูที่ติดเชื้อจะมีไข้ขึ้นสูง แต่ส่วนมากไม่ป่วยหนักถึงตาย

มักระบาดหนักช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วงต่อไปจนถึงฤดูหนาว เหมือนกับโรคไข้หวัดใหญ่ที่ระบาดในสังคมมนุษย์เรานั่นเอง

ตามปกติ ไวรัสไข้หวัดใหญ่หมูไม่ติดคน ยกเว้นคนที่มีประวัติสัมผัสหมูโดยตรง

และเมื่อคนติดเชื้อมาแล้วจะสามารถแพร่โรคไปติดคนอื่นๆ ได้เช่นกัน

มีความเป็นไปได้ว่าสภาพภูมิประเทศกรุงเม็กซิโกซิตี ที่มีมลพิษทางอากาศสูง มีประชากรหนาแน่น โรงงานตั้งกระจุกตัว ระบบขนส่งมวลชนแออัดยัดเยียด เป็นปัจจัยทำให้เชื้อตัวนี้ระบาดในคนง่ายขึ้น ผ่านการไอ-จามใกล้ๆ กันเป็นหลัก

หรือไปสัมผัสวัสดุ-สิ่งของที่มีเชื้อไวรัสเปื้อนอยู่ แล้วเอามือมาจับปากหรือจมูก

เฉพาะในสหรัฐ ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2549-กุมภาพันธ์ 2552 พบรายงานผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่หมูแค่ 12 ราย

แต่หลังเกิดการระบาดในเม็กซิโก พบชาวอเมริกันติดโรคนี้แล้ว 8 ราย

แสดงให้เห็นว่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่เกิดกลายพันธุ์จนตัวมันปรับตัวมีภูมิต้านทานต่อสภาพแวดล้อมได้ดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม ประชาชนที่บริโภคหมูไม่ต้องตื่นตูมกับข่าวนี้เกินกว่าเหตุ

เพราะการกินเนื้อหมูที่ปรุงสุก สะอาด และผ่านกรรมวิธีได้มาตรฐาน จะไม่มีโอกาสติดเชื้อไข้หวัดหมูเด็ดขาด

แต่ถ้ายังกังวล ให้ปรุงเนื้อหมูด้วยอุณหภูมิไม่น้อยกว่า 75 องศาเซลเซียส

หรือถ้าจะสบายใจจริงๆ ให้ใช้อุณหภูมิ 100 องศา สามารถฆ่าได้ทั้งไวรัสและเชื้อแบคทีเรียที่ปนเปื้อนอยู่ในเนื้อหมู

รวมถึงเชื้อแบคทีเรียอันตราย "สเตรพโตคอค คัส ซูอิส"

น.พ.คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ ผอ.สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ให้ความมั่นใจในประเด็นนี้เช่นกัน ระบุว่า

แม้เป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์หมู แต่ไม่เกี่ยวกับหมู

จึงไม่อยากให้คนไทยที่รับทราบข่าวแตกตื่น

กลัวการสัมผัสหรือทานหมู

คำแนะนำเบื้องต้นสำหรับผู้ที่เป็นกังวล ให้ปฏิบัติตนเหมือนการป้องกันไข้หวัดธรรมดา

1. เมื่อเป็นหวัดเวลาจามจะต้องใช้ผ้าเช็ดหน้าปิด

2. หมั่นล้างมือ

และ 3. หากมีอาการรุนแรง ไข้ไม่ลดภายใน 2 วัน ควรรีบพบแพทย์ทันที

โดยเฉพาะบุคคลที่เพิ่งเดินทางกลับจากชาติที่มีการแพร่ระบาด