กลัวคนไม่กินหมู เปลี่ยนชื่อใหม่-หวัดเม็กซิโก

กลัวคนไม่กล้ากินหมู เปลี่ยนชื่อ เรียกใหม่ "ไข้หวัดหมู"เป็น "ไข้หวัดเม็กซิโก" ระบุไม่เกี่ยวกับหมู แต่ติดจากคนสู่คน กระทรวงสาธารณสุขสั่งเข้มรับมือ-ป้องกัน ติดเครื่องเทอร์โมสแกนในสนามบินนานาชาติทั้ง 3 แห่ง สุวรรณภูมิ ภูเก็ต เชียงใหม่ พร้อมจัดทีมแพทย์ประจำพบผู้โดยสาร คนใดมีไข้เกิน 37 องศา กักตัวรอดูอาการทันที

ด้านนายกสมาคมผู้เลี้ยงหมูออกแถลงการณ์เรียกร้องรัฐบาลยกเลิกนำเข้าเครื่องในหมูจากต่างประเทศ ขณะที่ไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่เริ่มระบาดไปถึงยุโรปแล้ว พบผู้ป่วยและผู้ต้องสงสัยติดเชื้อที่สเปน-อิสราเอล องค์การอนามัยโลกจี้ทั่วโลกเฝ้าระวัง ชี้ถ้าลุกลามเข้าไปในคนหนุ่มสาวจะเป็นอันตรายต่อมนุษยชาติ

-สธ.เปลี่ยนชื่อเป็นหวัดเม็กซิโก

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 27 เม.ย. ที่กรมควบคุมโรค นายวิทยา แก้วภราดัย รมว. สาธารณสุข เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินทางด้านสาธารณสุข โดยมีองค์การอนามัยโลก ตัวแทนกรมควบคุมโรคสหรัฐอเมริกา กรมปศุสัตว์ องค์การเภสัชกรรม แพทย์จากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล และตัวแทนด่านตรวจคนเข้าเมือง เข้าร่วมประชุม

นายวิทยา กล่าวว่า ที่ประชุมมีความเห็นสอดคล้องว่าจะเรียกชื่อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ดังกล่าวที่ระบาดในประเทศเม็กซิโกและสหรัฐอเมริกา และแคนาดา ว่าชื่อโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ระบาดในเม็กซิโก ซึ่งองค์การอนามัยโลกอยู่ระหว่างการสอบสวนโรคดังกล่าวภายใน 48 ชั่วโมง และจะสรุปชื่อเรียกอย่างเป็นทางการอีกครั้ง เนื่องจากโรคดังกล่าวไม่ใช่โรคไข้หวัดใหญ่ที่ติดจากหมู แต่เป็นโรคไข้หวัดใหญ่ในคนที่ติดต่อจากคนสู่คน ขณะนี้ยืนยันว่าโรคดังกล่าวยังไม่มีการแพร่เข้ามาในไทย จึงขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก อีกทั้งโรคดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับการติดจากหมูด้วย ในส่วนการเตรียมความพร้อมของกระทรวงสาธารณสุข กรมควบคุมโรค ได้ติดตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิเทอร์โมสแกนเนอร์ที่สนามบินนานาชาติทุกแห่งทั่วประเทศ พร้อมทั้งมีมาตรการป้องกันเฝ้าระวังบุคคลที่เดินทางมาจากประเทศที่มีการระบาด อาทิ เม็กซิโก สหรัฐ แคนาดา ฯลฯ หากองค์การอนามัยโลกประกาศยกระดับความรุนแรงของสถานการณ์โรค

-ชี้เชื้อไวรัสในไทยต่างสายพันธุ์

นายวิทยากล่าวว่า ขณะนี้ได้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินทางด้านสาธารณสุข โดยมี น.พ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน นอกจากนี้ได้ให้สั่งการให้สถานพยาบาลทุกแห่งเตรียมความพร้อมในการมีห้องแยกผู้ป่วย ขณะเดียวกันสธ.ได้กระจายยารักษาโรคไข้หวัดใหญ่ โอเซลทามิเวียร์ที่เคยใช้สำหรับการรักษาโรคไข้หวัดนก ซึ่งเป็นสายพันธุ์เดียวกันกับไข้หวัดใหญ่ โดยจะกระจายไปยังสถานพยาบาลทุกจังหวัด ซึ่งขณะนี้มีการสำรองยาเพียงพอประมาณ 3 แสนราย ซึ่งสามารถเร่งให้อภ.ผลิตสำรองได้ถึง 1 ล้านราย หากเกิดการระบาด ทั้งนี้ มีศูนย์พิสูจน์โรคของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จำนวน 14 แห่งทั่วประเทศ และรถโมบายยูนิต ที่สามารถตรวจวิเคราะห์เบื้องต้นได้ภายใน 4 ชั่วโมง ซึ่งพร้อมที่จะเข้าถึงจุดที่เกิดโรคได้

น.พ.คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค กล่าวว่าเชื้อเอช1 เอ็น1 แม้จะเป็นสายพันธุ์ที่พบในประเทศไทย แต่มีความแตกต่างกัน เพราะสายพันธุ์เดียวกันในประเทศเม็กซิโก ที่มีความรุนแรงมากขึ้น เพราะกลายพันธุ์ ซึ่งเป็นธรรมดาของเชื้อไวรัส ทั้งนี้ จากการตรวจแยกเชื้อของประเทศไทยในสายพันธุ์ดังกล่าว ไม่พบการกลายพันธุ์อย่างมีนัยยะสำคัญ สายพันธุ์ดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับหมู และไม่ได้มีการแพร่ระบาดในหมู แต่เป็นสายพันธุ์ที่อยู่ในคน และติดเชื้อจากคนสู่คน จึงไม่อยากให้ประชาชนแตกตื่น หากเป็นหวัด ก็ไม่ควรสงสัยว่าเป็นไข้หวัดสายพันธุ์เม็กซิโก หากไม่ได้เดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง หรือข้องเกี่ยวกับคนที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง เพราะสายพันธุ์ที่พบในเม็กซิโก ไม่เคยพบในประเทศไทย และสายพันธุ์ดังกล่าวไม่สามารถแยกแยะได้ด้วยการตรวจธรรมดา แต่ต้องส่งเชื้อให้ห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ตรวจสอบอย่างละเอียดเท่านั้น จึงจะทราบว่าเป็นสายพันธุ์ใด

-ระบุรักษาหายได้ภายใน48ช.ม.

ศ.น.พ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์ผู้เชี่ยว ชาญเฉพาะทาง ด้านไวรัสวิทยาคลินิก โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กล่าวว่าเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ที่พบ มีความรุนแรงของโรคน้อยกว่าไข้หวัดนก เพราะมีอัตราการเสียชีวิตเพียง ร้อยละ 6.4 เท่านั้น หรือน้อยกว่า 10 เท่า แต่มีอำนาจการแพร่กระจายเชื้อมากกว่า และรวดเร็วมากกว่า แต่ขณะนี้องค์การอนามัยโลก ยังไม่ได้ประกาศว่าเป็นการติดต่อจากคนสู่คน แต่มีความเป็นได้สูงว่าจะติดต่อจากคนสู่คน เพราะเพียงเวลาแค่ 1 เดือน แต่มีผู้ป่วยมากถึง 1,000 กว่าคน ส่วนไข้หวัดนกมีอัตราการเสียชีวิตสูงถึง ร้อยละ 60 แต่ไม่ติดต่อจากคนสู่คน ส่วนไข้หวัดใหญ่ที่ระบาดในประเทศไทย มีอัตราการเสียชีวิตน้อยมากเพียง 1 ใน ผู้ป่วย 10,000 คนเท่านั้น โดยมีความคล้ายคลึงกับไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอช1 เอ็น1 ในเม็กซิโก ร้อยละ 75

ศ.น.พ.ยง กล่าวว่า แม้ว่าความรุนแรงของโรคจะน้อยกว่าไข้หวัดนก แต่มีอำนาจการกระจายของโรคมากกว่า สาเหตุที่มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากนั้น ถือเป็นเรื่องธรรมชาติของการระบาดโรคใหม่ ที่ยังไม่ทราบว่าป่วยจากสาเหตุใด และป่วยเพราะอะไร จนถึงขณะนี้นักวิทยา ศาสตร์ยังไม่ทราบต้นตอของการระบาดว่ามาจากสาเหตุใด จึงทำให้การรักษาล่าช้าไม่ทันการณ์ สำหรับการรักษา ใช้แนวทางการรักษาเดียวกับโรคไข้หวัดใหญ่ทั่วไป และสามารถใช้ยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ ซึ่งเป็นยาชนิดเดียวกับยารักษาโรคไข้หวัดนกได้ โดยผู้ป่วยจะต้องได้รับยาต้านไวรัสภายในเวลา 48 ชั่วโมง หลังมีอาการป่วย จึงจะได้ผล

-สั่งกรมปศุสัตว์-ฟาร์มเฝ้าระวัง

วันเดียวกัน นายธีระ วงศ์สมุทร รมว. เกษตรและสหกรณ์ แถลงข่าวยืนยันว่าในประเทศไทยยังไม่มีการตรวจพบเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ชนิดเอช 1 เอ็น 1 ตามที่ระบาดในเม็กซิโก และสหรัฐอเมริกา แต่เพื่อความไม่ประมาทได้วางมาตรการให้เฝ้าระวังและเตรียมความพร้อม เข้มงวดการนำเข้าสุกรจากต่างประเทศ ให้กรมปศุสัตว์แจ้งไปยังปศุสัตว์จังหวัด และผู้เลี้ยงสุกรทั้งรายใหญ่ กลาง และเล็ก หลีกเลี่ยงการเลี้ยงสัตว์ปีก ร่วมกับสุกรในพื้นที่เดียวกัน เพราะอาจจะเกิดการผสมพันธุ์ของไวรัสสัตว์ปีก และสุกร จนเกิดการกลายพันธุ์ได้ รวมทั้งผู้เลี้ยงสุกรที่เป็นไข้หวัดควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสุกรในฟาร์ม แจ้งทางสมาคมผู้เลี้ยงสุกรช่วยประชาสัมพันธ์ ให้ผู้เลี้ยงช่วยสังเกตอาการสุกร หากพบความผิดปกติให้แจ้งสัตวแพทย์ หรือกรมปศุสัตว์ทันที และสั่งการให้กรมปศุสัตว์ตั้งวอร์รูมติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ไข้หวัดหมูอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้คาดว่าจะไม่มีผลกระทบต่อการบริโภคภายในประเทศ เพราะไม่ได้นำเข้าพ่อแม่พันธุ์ และผลิต ภัณฑ์สุกรจากเม็กซิโก และสหรัฐอเมริกา ขณะที่ปัจจุบันนำเข้าพ่อแม่พันธุ์สุกรจากทางยุโรป และนำเข้าเครื่องในสุกรจากออสเตรเลีย และเกาหลี

นายทฤษดี ชาวสวนเจริญ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า ไวรัสที่พบในสุกรของไทยมีโครงสร้างทางพันธุกรรมหรือยีน ไม่เหมือนกับไวรัสที่ระบาดในเม็กซิโก ไข้หวัดหมูในไทยจะทำให้สุกรมีอาการเซื่องซึม ไอ จาม น้ำมูกไหล น้ำหนักลด เหมือนกับคนเป็นไข้หวัด และอาการจะดีขึ้นเอง ยืนยันว่าไข้หวัดในสุกรไม่ติดต่อมาสู่คน แต่หากสุกรรับไวรัสจากสัตว์ปีก และคนรวมกันอาจจะมีการกลายพันธุ์ได้ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยอย่าเลี้ยงสัตว์ปีกปะปนกับสุกร และควรพ่นยาฆ่าเชื้อโรคในคอกอย่างสม่ำเสมอ ขณะที่การบริโภคต้องรับประทานอาหารที่ปรุงสุก เพราะไวรัสถูกทำลายได้ด้วยความร้อน

-ติดตั้งเครื่องวัดไข้ 3 สนามบิน

นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผอ.การท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เปิดเผยว่า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ได้จับมือกับด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ กระทรวงสาธารณสุข ติดตั้งเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิเทอร์โมสแกน (Thermo Scan) เพื่อตรวจผู้โดยสารทุกคนที่เดินทางจากต่างประเทศผ่าน ทสภ. โดยติดตั้งไว้ที่ชั้น 2 บริเวณทางเข้าจุดตรวจหนังสือเดินทางผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ ซึ่งผู้โดยสารทุกคนจะต้องเดินผ่านเครื่องตรวจจับอุณหภูมินี้ โดยได้มีการกำหนดอุณหภูมิปกติไว้ที่ 36 องศาเซลเซียส และหากพบผู้โดยสารมีอุณหภูมิสูงกว่าที่กำหนด หน้าจอเครื่องคอมพิวเตอร์จะปรากฏแถบสีแดงขึ้นมาทันที พร้อมกับมีเสียงดังเตือนถึงความผิดปกติ จากนั้นแพทย์จากกระทรวงสาธารณสุขจะตรวจร่างกายเบื้องต้น และซักถามประวัติของผู้โดยสารรายนั้นๆ ก่อนส่งไปตรวจซ้ำที่สถาบันบำราศนราดูรอีกครั้งหนึ่ง เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

เมื่อเวลา 14.45 น. นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข และคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายเสรีรัตน์ เดินทางไปตรวจเยี่ยมการเฝ้าระวังโรคที่ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นวันแรกที่มีการนำเครื่องตรวจวัดอุณหภูมินำมาติดตั้งบริเวณประตูทางเข้าก่อนจะถึงด่านตรวจคนเข้าเมือง ทั้งประตูนักท่องเที่ยวทั่วไป และประตูสำหรับแขกพิเศษ และลูกเรือ รวมจำนวน 3 จุด รวมถึงยังติดตั้งเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิ ที่สนามบินนานาชาติเชียงใหม่ และภูเก็ตด้วย

-ระดมหมอประจำด่านวันละ 10

นายเสรีรัตน์กล่าวว่า จากนั้นจะมีทีมแพทย์ประจำด่านตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งมีประมาณ 9-10 คนต่อวัน เป็นผู้ตรวจวิเคราะห์อาการนักท่องเที่ยวทันที หากพบว่าต้องสงสัยติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ดังกล่าวจะต้องส่งตัวนักท่องเที่ยวกลับประเทศ หรือให้พักรักษาที่สถาบันบำราศนรา ดูรหรือไม่นั้นให้เป็นดุลพินิจของแพทย์ อย่างไรก็ตาม หากองค์การอนามัยโลกประกาศเพิ่มระดับความรุนแรงของการแพร่ระบาดของโลก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจะเพิ่มมาตรการเฝ้าระวังโรคเข้มข้นขึ้น โดยการจัดจุดจอดพิเศษสำหรับเครื่องบินจากประเทศกลุ่มเสี่ยง เพื่อผ่านการตรวจคัดกรองโรคอย่างละเอียด

"ขณะนี้เจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานจะเริ่มแจกบัตรคำเตือนสุขภาพสำหรับผู้ที่เดินทางมาประเทศไทย ของกรมควบคุมโรค ให้ผู้ที่มาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง โดยระบุคำแนะนำเรื่องการรักษาสุขภาพ หากภายใน 14 วันมีอาการป่วยให้พบแพทย์ และยื่นบัตรคำเตือนให้กับแพทย์ ซึ่งแพทย์จะทราบว่าเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากกลุ่มเสี่ยงทันที เพื่อให้การวินิจฉัยโรคถูกต้องและรวดเร็ว" นายเสรีรัตน์กล่าว

นายเสรีรัตน์กล่าวว่า สำหรับเครื่องบินที่มาจากประเทศเม็กซิโกมาถึงไทยโดยตรงนั้นยังไม่มี แต่จะมีประชาชนที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงไปต่อเครื่องที่ประเทศอื่น ซึ่งในวันนี้มี 8 เที่ยวบินที่มาจากประเทศเสี่ยง คือ โตเกียว ชิคาโก ลอสแองเจลิส ดูไบ ปารีส เท็กซัส ลอนดอน และแฟรงก์เฟิร์ต มีผู้โดยสารประมาณ 2,000-3,000 คน และในแต่ละวันจะมีจำนวนเที่ยวบินไม่เท่ากัน ทั้งนี้ ตลอดทั้งวันจะมีเที่ยวบินเข้าประเทศไทยประมาณ 500 เที่ยวต่อวัน นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยประมาณ 38,000 คน

น.พ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จะรอดูสถานการณ์จากองค์การอนามัยอีกครั้ง หากมีการเลื่อนระดับความรุนแรงคงจำเป็นต้องทำเอกสารคู่มือแจกประชาชนเพื่อความเข้าใจโรคดังกล่าว รวมถึงวิธีการป้องกัน ซึ่งเป็นการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ทั่วๆ ไป แจกประชาชนประมาณ 1 แสนเล่ม

- พาณิชย์สั่งตรวจเครื่องในหมู

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมรับมือโรคไข้หวัดหมูที่กำลังแพร่ระบาดในประเทศเม็กซิโก ว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 28 เม.ย. นี้ ทางกระทรวงสาธารณสุขจะรายงานภาพรวมของสถานการณ์และนำเสนอว่าแต่ละหน่วยงานจำเป็นต้องเตรียมการอย่างไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามว่าเกรงว่าจะมีการแพร่ระบาดเข้ามาในประเทศไทยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เราต้องดูแลไม่ให้มีการแพร่ระบาดเข้ามา

ด้านนายศิริพล ยอดเมืองเจริญ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลกระทบต่อการนำเข้าส่งออกเนื้อสุกรและชิ้นส่วนของไทย จากกรณีไข้หวัดหมูระบาดในต่างประเทศว่า ตนได้ประสานไปยังทูตพาณิชย์ในประเทศที่พบการระบาดให้ติดตามและรายงานสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ส่วนด้านการนำเข้าเนื้อสุกรและชิ้นส่วนจากต่างประเทศ นั้นพบว่ามีจำนวนไม่มาก ในส่วนของเนื้อสุกรคาดว่าไม่มีการนำเข้า หรือหากนำเข้าก็ปริมาณที่น้อยมาก แต่ยอมรับว่าไทยมีการนำเข้าเครื่องในสุกรจากต่างประเทศ ส่วนใหญ่นำเข้าจากประเทศออสเตรเลียตามพันธกรณีขององค์การการค้าโลก และเกาหลี ซึ่งขณะนี้ได้หารืออย่างใกล้ชิดกับกรมปศุสัตว์ให้เข้มงวดการตรวจสอบสุขอนามัยนำเข้าเครื่องในหมูจากต่างประเทศ ด้านการส่งออกเนื้อสุกร ยังไม่มีรายงานว่าประเทศใดประกาศห้ามนำเข้าเนื้อหมูจากไทย จากเหตุวิตกกังวลเรื่องไข้หวัดหมูระบาด

-สมาคมผู้ค้าหมูจี้เลิกนำเข้า

นายสุรชัย สุทธิธรรม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ กล่าวว่าสมาคมได้ออกแถลง การณ์และส่งหนังสือข้อเรียกร้องไปยังกระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงพาณิชย์ ให้ระงับการนำเข้าเครื่องในหมูจากต่างประเทศอย่างเร่งด่วน เพราะเกรงจะได้รับผลกระทบจากไข้หวัดหมู เนื่องจากประเทศต้นทางที่ไทยนำเข้าเครื่องในหมูอยู่ในโซนเดียวกับประเทศที่พบการระบาด เช่น ออสเตรเลียอยู่ใกล้กับนิวซีแลนด์ที่พบการระบาด

นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ กล่าวต่อว่าส่วนประเทศชิลี และอาร์เจนตินา ซึ่งอยู่ในโซนเดียวกับเม็กซิโกนั้นปัจจุบันไทยไม่ได้มีการนำเข้าเครื่องในหมูโดยตรงจากทั้ง 2 ประเทศ แต่เป็นการนำเข้าผ่านทางประเทศเกาหลี จนปัจจุบันเกาหลีกลายเป็นแหล่งนำเข้ารายใหญ่ที่สุดของไทย สำหรับปริมาณการนำเข้าเครื่องในหมู มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้สมาคมเตรียมที่จะขอความร่วมมือโรงงานแปรรูปเนื้อสุกในไทย เช่น โรงงานไส้กรอก กุนเชียง ให้งดใช้เครื่องในนำเข้ามาเป็นวัตถุดิบในการผลิต เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภคคนไทยอีกด้วย

พ.ญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยถึงมาตรการรับมือการแพร่ระบาดของไข้หวัดหมูว่า อยากฝากไปยังประชาชนว่าการทานเนื้อหมูไม่ได้ทำให้ติดเชื้อโรค ดังนั้นจึงไม่ควรตื่นตระหนกกับโรคดังกล่าวมากเกินไป เพราะขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีผู้ป่วยจากโรคนี้ อย่างไรก็ตาม ขอเตือนให้ประชาชนทั่วไปหลีกเลี่ยงการเข้าอยู่ในสถานที่ชุมนุมชน อาทิ โรงภาพยนตร์ แต่หากมีความจำเป็นก็ขอให้สวมหน้ากากป้องกันเชื้อโรคด้วย

-เชียงใหม่ติดตั้งเครื่องสแกน

เมื่อเวลา 15.30 น. น.พ.วัฒนา กาญจกามล นายแพทย์สาธารณสุขเชียงใหม่ น.พ.ทรงวุฒิ หุตามัย ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 ว่าที่เรืออากาศโท จตุรงคพล สดมณี ผอ.การท่าอากาศยานเชียงใหม่ พร้อมคณะได้ติดตั้งเครื่องเทอร์โมสแกน ที่บริเวณส่วนผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานนานาชาติจังหวัดเชียงใหม่ หลังการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ที่ระบาดในประเทศเม็กซิโก หรือเรียกว่าไข้หวัดหมู

น.พ.วัฒนา เปิดเผยว่าเทอร์โมสแกน เป็นเครื่องตรวจจับอุณหภูมิความร้อนของร่างกายคน ซึ่งตั้ง ไว้ที่ 37.5 องศา หากผู้โดยสารที่เดินทางมาจากต่างประเทศเดินเข้ามายังจังหวัดเชียงใหม่ต้อง ผ่านเครื่องตรวจนี้ หากใครมีอุณหภูมิสูงกว่าที่กำหนดนี้ก็จะเชิญตัวเข้าห้องแยก และตรวจว่าเหตุที่ มีไข้ในร่างกายสูงเพราะเป็นโรคอะไร มีการซักประวัติว่าได้เดินทางไปประเทศเม็กซิโกหรือประเทศใกล้เคียงมาหรือไม่ ซึ่งอาจจะต้องกักตัวไว้ดูอาการ 7 วัน เพื่อรักษาหรืออาจจะพิจารณาส่งตัวกลับประเทศนั้นๆทันที ขึ้นอยู่กับดุจพินิจของแพทย์ที่ทำการรักษาดูอาการ

- มีผู้ต้องสงสัยติดเชื้อที่ฮ่องกง

วันเดียวกัน สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้ากรณีโรคไข้หวัดใหญ่หมู หรือไข้หวัดหมูสายพันธุ์ใหม่ระบาดหนักในเขตกรุงเม็กซิโกซิตี เมืองหลวงเม็กซิโก ก่อนข้ามพรมแดนลามเข้าไปยังบางพื้นที่ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา มีผู้เสียชีวิตและล้มป่วยนับพันคน ว่า สเปนเป็นชาติแรกในทวีปยุโรป ที่ตรวจพบคนติดเชื้อไข้หวัดหมูสายพันธุ์ใหม่ดังกล่าว นอกจากนั้น ยังพบผู้ต้องสงสัยติดเชื้อในอีกหลายประเทศ ได้แก่ นิวซีแลนด์ ฝรั่งเศส อิสราเอล และเขตบริหารพิเศษฮ่องกงของจีน

สำหรับสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่หมูระบาดในทวีปอเมริกา เริ่มจากกรุงเม็กซิโกซิตี นายโฮเซ่ แองเจล คอร์โดวา รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขเม็กซิโก แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์ว่า จนถึงช่วงค่ำวันอาทิตย์ มีผู้เสียชีวิตและต้องสงสัยว่าเสียชีวิตเพราะติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่หมู 103 ราย สาเหตุเพราะป่วยแล้วมาพบแพทย์ช้าไป ส่วนกลุ่มผู้ติดเชื้อและต้องสงสัยว่าติดเชื้อมี 1,614 ราย ในจำนวนนี้ยังต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลประมาณ 600 ราย

สภาพบรรยากาศในเม็กซิโกซิตี ในวันอาทิตย์แทบกลายเป็นเมืองร้าง ชาวบ้านส่วนใหญ่เก็บตัวอยู่ในบ้านตามคำแนะนำของรัฐบาล การแข่งขันฟุตบอลในสนามกีฬาแอซเทค ความจุ 105,000 ที่นั่ง โล่งทั้งสนาม ส่วนคนที่ออกมานอกบ้านต่างสวมผ้าปิดปากปิดจมูกเพื่อความปลอดภัย ประธานาธิบดีฟิลิเป คาลเดรอน ขอให้ประชาชนอยู่ในความสงบ อย่าตื่นตระหนก และให้ความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคต่างๆ ขณะที่ธนาคารโลกอนุมัติเงินกู้ฉุกเฉิน 7 พันล้านบาท ให้รัฐบาลเม็กซิโกนำไปใช้ป้องกันโรคนี้

-สหรัฐประกาศภาวะฉุกเฉิน 5 รัฐ

ที่สหรัฐอเมริกา นายจอห์น เบรนเนน ที่ปรึกษางานป้องกันมาตุภูมิประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ติดตามภาวะโรคไข้หวัดใหญ่หมูระบาดอย่างใกล้ชิด และสั่งให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดแผนรับมือเชิงรุก ภายหลังมีชาวอเมริกันติดเชื้อในรัฐนิวยอร์ก แคลิฟอร์เนีย เท็กซัส แคนซัส และโอไฮโอ รวมกัน 20 ราย ส่งผลให้รัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข เพื่อให้การประสานงานแก้ไขปัญหาคล่องตัวขึ้น

ที่แคนาดา ทางการแถลงว่าพบผู้ป่วยในรัฐโนวาโคเทียและบริติช โคลัมเบีย ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่หมู 6 ราย ทำให้แคนาดาเป็นชาติที่ 3 ในโลก ซึ่งยืนยันข่าวพบผู้ป่วยโรคนี้

ในทวีปยุโรป นายทรินิแดด จามีเนซ รัฐ มนตรีกระทรวงสาธารณสุข แถลงว่า มีนักศึกษามหาวิทยาลัยคนหนึ่งล้มป่วย เพราะติดเชื้อไข้หวัดใหญ่หมู จากการสอบประวัติพบว่าเพิ่งเดินทางกลับมาจากเมืองอัลมันซา ทางภาคกลางของเม็กซิโก แต่ภาครัฐควบคุมสถานการณ์ได้ ไม่มีอะไรน่าวิตก และวางมาตรการตรวจสอบบุคคลที่เดินทางมาจากประเทศที่มีความเสี่ยงอย่างเข้มข้น

นายอันดอร์รา วาซิลู กรรมาธิการสุขภาพสหภาพยุโรป (อียู) แถลงว่า ชาวยุโรปควรหลีกเลี่ยงการเดินทางไปเม็กซิโก รวมถึงสหรัฐชั่วคราว ถ้าไม่มีธุระเร่งด่วน อย่างไรก็ตาม ดร.ริชาร์ด เบสเซอร์ รักษาการหัวหน้าศูนย์ควบ คุมโรคสหรัฐ (ซีดีซี) แย้งว่า ปัจจุบันเหตุการณ์ไม่รุนแรงขนาดต้องประกาศห้ามเข้าสหรัฐ ถ้าต้องการประกาศห้ามจริงๆ ควรห้ามเฉพาะการเดินทางไปจุดศูนย์กลางการแพร่ระบาดของโรคมากกว่า เบื้องต้นทั่วสหรัฐมีคนติดเชื้อ 20 ราย และอาการดีขึ้นทุกคน

-"ฮู"เตือนทุกชาติให้เฝ้าระวัง

รายงานระบุว่า ในภูมิภาคตะวันออกกลาง ขณะนี้มีรายงานพบผู้ต้องสงสัยติดเชื้อไข้หวัดใหญ่หมูในอิสราเอลเพียง 1 ประเทศ เป็นชายอายุ 26 ปี เดินทางออกจากเม็กซิโกกลับถึงอิสราเอล เมื่อวันศุกร์ที่ 24 เม.ย. อีกวันถัดมาล้มป่วยมีอาการไข้ขึ้นสูงแต่ไม่ร้ายแรงถึงชีวิต ล่าสุด รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเมืองเนทันยา

สำหรับความเคลื่อนไหวในทวีปเอเชียและภูมิภาคใกล้เคียง ที่ประเทศนิวซีแลนด์ นายโทนี่ ไรอัล รัฐมนตรีสาธารณสุข เผยว่า มีกลุ่มนักเรียนวัยรุ่น 10 คน เพิ่งกลับจากเม็กซิโกและล้มป่วยพร้อมๆ กันด้วยอาการคล้ายติดเชื้อไข้หวัดใหญ่หมู ล่าสุด กำลังรอผลพิสูจน์ตัวอย่างเชื้อจากห้องปฏิบัติการ ส่วนที่เขตบริหารพิเศษฮ่องกง ประเทศจีน นายโทมัส ชาง หัวหน้าศูนย์ป้องกันสุขภาพ กล่าวว่า มีผู้ต้องสงสัยติดเชื้อไข้หวัดใหญ่หมู 3 คนหลังกลับมาจากเม็กซิโกและสหรัฐ แต่ตรวจสอบแล้วพบว่าเพียงติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ทั่วไปเท่านั้น ด้านรัฐบาลจีนและรัสเซียสั่งระงับการนำเข้าผลิตภัณฑ์หมูจากเม็กซิโกและสหรัฐชั่วคราว

วันเดียวกัน ดร.เคอิชิ ฟุคุดะ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายความมั่นคงสุขภาพ ประจำองค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนว่า ทุกชาติต้องเฝ้าระวังการระบาดของโรคให้ดี และคอยทำงานประสานแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน เพราะมีความเป็นไปได้ว่าไวรัสไข้หวัดใหญ่หมูสายพันธุ์ใหม่อาจกลายพันธุ์และทำอันตรายต่อมนุษย์มากขึ้น โดยประชากรกลุ่มที่ต้องคอยจับตาดู คือ กลุ่มคนหนุ่มสาว ซึ่งตามปกติควรมีสุขภาพแข็งแรง ถ้าคนกลุ่มนี้โดนไวรัสเล่นงานเมื่อไหร่นับเป็นสัญญาณเตือนว่าโรคระบาดครั้งใหญ่อาจเกิดขึ้น