คมชัดลึก :สธ.สั่งเฝ้าระวัง ตรวจเข้มสนามบินทุกแห่ง สกัดเชื้อไข้หวัดหมูเม็กซิโกแพร่เข้าไทย
(27เม.ย.) น.สพ.ดร.รุ่งโรจน์ ธนาวงษ์นุเวช ผู้เชี่ยวชาญไข้หวัดหมู ภาควิชาพยาธิวิทยา คณะสัตวแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า หวัดหมูในเมืองไทยมีอยู่แล้ว และโชคดีที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่ไม่รุนแรงเท่ากับเม็กซิโก ประกอบกับระบบการเลี้ยงหมูของบ้านเราดีกว่า ไม่มีการเลี้ยงต่างสายพันธุ์จึงลดโอกาสผสมผสานของเชื้อได้ ประกอบกับไม่มีการทำวัคซีนหมู
ส่วนไข้หวัดหมูเม็กซิโกในบ้านเรายังไม่มี ซึ่งไข้หวัดหมูเม็กซิโกเกิดจากกลายพันธุ์ที่มีการผสมผสานยีนต์ต่างๆ
ซึ่งไข้หวัดหมูเม็กซิโก คาดว่าจะมีเชื้อหวัดนกและหวัดคนไปสู่หมู และจากคนสู่คน กลายเป็นคนเป็นพาหะที่เป็นจุดสำคัญ ซึ่งจุดแรกที่สังเกตได้คือ อาการจะเหมือนไข้หวัด และคนงานส่วนใหญ่ที่เลี้ยงหมูในอเมริกาจะเป็นชาวเม็กซิโก เมื่อคนงานเหล่านี้กลับไปเม็กซิโกอาจมีภูมิต้านทานไม่ดี การรักษาไม่ค่อยดี ต่างจากอเมริกาที่เป็นแล้วหายเพราะมีการรักษาทันท่วงที และมีสุขอนามัยที่ดีกว่า
ส่วนความต่างระหว่างไข้หวัดหมูกับไข้หวัดนกนั้น ไข้หวัดนกจะไปทุกระบบของร่างกาย แต่หวัดหมูจะเฉพาะทางเดินลมหายใจ
เมื่อลมหายใจล้มเหลวก็ตายได้ ทั้งนี้การรับประทานเนื้อหมูไม่มีปัญหาที่น่ากลัว เพราะจะเกิดจากคนในการแพร่โรค ที่เดินทางจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง โดพยเฉพาะจุดที่มีความเสี่ยง ส่วนหมูที่เป็นไข้หวัดหมูจะมีอาการจาม มีน้ำมูก 2-3 วันจะหายป่วยไม่เกินสัปดาห์ ยกเว้นมีการแทรกซ้อนจากอาการอื่น หรือสัตว์ตัวนั้นไม่เคยมีภูมิมาก่อน
ด้านนพ.ไพจิตร์ วธาทิต ประธานศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอุบัติใหม่ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีไข้หวัดหมูว่า ขณะนี้เรามีการเฝ้าระวัง
1.ต้องมีการคัดกรองคนที่มาจากพื้นที่ที่เราสงสัย เพื่อไม่ให้เชื้อเข้าประเทศบริเวณสนามบิน ที่มีผู้โดยสารที่คิดว่ามาจากบริเวณที่ติดเชื้อ 2.สั่งทุกจังหวัดทั่วประเทศให้ติดตามว่าจะมีผู้ป่วยที่น่าสงสัยหรือไม่ 3.จะคุยกับปศุสัตว์ให้ดูเรื่องหวัดหมูมาสู่คน แต่โดยหลักการหมูไม่เกี่ยวข้อง เพราะเป็นการติดเชื้อจากคนสู่คน 4.ถ้ามีผู้ป่วยที่สงสัยต้องแยกผู้ป่วย และ 5.ยา
เราอาจให้แสดงตน หากมีไข้ให้บอก หรือให้ผ่านเครื่องเทอร์โมสแกน เพื่อตรวจดูว่ามีอุณหภูมิร่งกายสูงกว่าปกติหรือไม่ และมาวินิจฉัย หากพบว่ามีไข้สูงหลายวัน ไอ ปวดเมื่อยตามร่างกาย หากไอมากเชื้อจะลงไปที่ปอด ต้องรีบไปพบแพทย์