นิตยสารฟอร์จูนจัดอันดับบริษัทที่ได้กำไรสูงสุดประจำปี 2008 อันดับ 1 เอ็กซอน ผลงานกำไร 45,220 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทำกำไรได้ตลอด 4 ไตรมาส อันดับ 2 เชฟรอน
นิตยสารฟอร์จูน จัดอันดับบริษัทที่ได้กำไรสูงสุดประจำปี 2008 คัดเลือกมา 10 อันดับแรก ได้แก่
1. เอ็กซอน ผลงานกำไร 45,220 ล้านเหรียญ สหรัฐฯ ทำกำไรได้ตลอด 4 ไตรมาสของปี 2008 แม้ราคาน้ำมันจะผันผวนจากปริมาณการใช้ที่ต่ำลง จนทำให้ราคาน้ำมันในครึ่งปีสุดท้ายลดต่ำ แต่ กลยุทธ์ในธุรกิจโรงกลั่นทำให้ต้นทุนการกลั่นของเอ็กซอนลดต่ำลง แข่งขันได้มากขึ้น
2. เชฟรอน ผลงานกำไร 23,930 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เช่นเดียวกับเอ็กซอน เชฟรอนหันไปปรับกลยุทธ์ในธุรกิจโรงกลั่น ซึ่งทำให้ทำกำไรได้สูงขึ้นถึง 10 เท่าในไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา จนทำกำไรทั้งปีได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ แม้ผลผลิตจากธุรกิจน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจะลดต่ำลงทุกไตรมาสก็ตาม
3. ไมโครซอฟท์ ผลงานกำไร 17,680 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทำกำไรในปี 2008 ได้สูงขึ้นถึง 26% จากยอดขายเถิดเทิงของผลิตภัณฑ์เกม Xbox 360 เซิร์ฟเวอร์ โดยเป้าหมายปีนี้อยู่ที่การเพิ่มกำไรในธุรกิจโฆษณาออนไลน์ และแข่งกับกูเกิลให้เต็มที่มากขึ้น
4. จีอี ผลงานกำไร 17,410 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ปีที่ผ่านมาถือว่าสาหัสสำหรับจีอี เพราะรายได้ลดลง 22% ผลมาจากการขาดทุนในธุรกิจการเงิน จีอีแคปปิตอล
5. วอลล์มาร์ท ผลงานกำไร 13,400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ผลจากการลดราคาสะบั้น และการลดการใช้จ่ายของประชาชนทำให้กำไรของวอลล์ มาร์ทลดลง 5%
เปิด 10 บริษัทแชมป์กำไรยอดเยี่ยม ท่ามกลางวิกฤติเศรษฐกิจมีโอกาส
6. จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ผลงานกำไร 12,940 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ผลกำไรส่วนใหญ่มาจากแบรนด์ที่แข่งแกร่งในกลุ่มอย่างลิสเตอร์รีน นูโทรจีน่า และอาวีโน ขณะที่ธุรกิจยาไม่ค่อยดีนัก แต่คาดว่าจะดีขึ้นในปี 2009
7. เอทีแอนด์ที ผลงานกำไร 12,870 ล้านเหรียญสหรัฐฯ การได้เป็นผู้ขายโทรศัพท์ไอโฟนที่สุดฮิตของแอปเปิ้ล รวมทั้งแบล็กเบอร์รี่เพียงรายเดียว ทำให้เอทีแอนด์ทีทำกำไรได้เพิ่มถึง 8% เพราะทำให้เอทีแอนด์ทีมีเครื่องสมาร์ทโฟนขายมากกว่าคู่แข่งสองเท่า และเพราะเครื่องสมาร์ทโฟน มาพร้อมการใช้งานข้อมูลที่หนักหน่วง รายได้เลยหนักตามไปด้วย
8. ไอบีเอ็ม ผลงานกำไร 12,330 ล้าน เหรียญสหรัฐฯ ทำกำไรได้ติดต่อกัน 5 ปีรวดแล้ว หลังหันมาเน้นหนักในธุรกิจซอฟต์แวร์ เซอร์วิส และเน็ตเวิร์กบนเครื่องพีซี โดยในปี 2008 ทำได้สูงขึ้นถึง 44.1% สูงที่สุดในรอบมากกว่า 10 ปี
9. พร็อกเตอร์ แอนด์ แกมเบิล ผลงานกำไร 12,070 ล้านเหรียญสหรัฐฯ บริษัทเจ้าของแบรนด์ดังอย่าง เครสต์ ไทด์ และแพมเพิร์ส ทำกำไรได้เพิ่มขึ้น 17% โดยมีผลกำไรจากธุรกิจในต่างประเทศเป็นหัวหอกดันมาร์จิ้น เฉพาะยอดขายแพมเพิร์สอย่างเดียว ก็ปาเข้าไป 8,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เข้าไปแล้ว
10. เอชพี ผลงานกำไร 8,330 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ผลจากยอดขายคอมพิวเตอร์รูปลักษณ์ งดงาม และการปรับลดต้นทุน ทำให้กำไรของเอชพีเพิ่มขึ้น 15% เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพประสิทธิผล ซีอีโอยังประกาศด้วยว่า ใน 3 ปีข้างหน้า จะปรับลดพนักงานลงอีก 24,000 คน