เอเอฟพีรายงานว่า เมื่อ 23 เม.ย. เกิดเหตุการณ์แย่งความสนใจจากประเด็นการเมืองในการเยือนอินโดนีเซียของนายนาจิบ ราซัก นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย
เมื่อหญิงอินโดนีเซียรายหนึ่งเรียกร้องให้ผู้นำมาเลเซียช่วยลูกสาวที่ถูกเจ้าชายมาเลเซียในรัฐกลัน ตันกักตัวไว้ทารุณทั้งทางร่างกายและจิตใจ นางเดซี ฟาจารินา แม่ของน.ส.มาโนฮารา โอเดเลีย พีโนต์ นางแบบสาวชาวอินโดนีเซีย วัย 17 ปี ที่แต่งงานกับเจ้าชายมาเลเซียเมื่อปีก่อน เปิดแถลงข่าวที่สำนักงานสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ด้วยอารมณ์สะเทือนใจ ขณะที่นายราซักไม่อนุญาตให้นักข่าวอินโดนีเซียตั้งคำถามถึงชะตากรรมของระหว่างการพบปะกับประธานาธิบดีสุศีโล บัมบัง ยุดโธโยโน ที่ทำเนียบรัฐบาล ในกรุงจาการ์ตา
"ดิฉันขอเรียกร้องให้ท่านนาจิบช่วยสอบสวนเพื่อปกป้องสิทธิ์ของพวกเราและเพื่อพิสูจน์ความจริงด้วย ดิฉันเพียงแค่ขอให้ปล่อยตัวลูกสาว ในฐานะแม่ ดิฉันมีสิทธิ์ที่จะพบหน้าลูก" ฟาจารินา กล่าว
นางฟาราจินา กล่าวว่า ตนถูกห้ามเข้ามาเลเซียเพื่อไปพบลูก
ทั้งที่เดินทางไปถึงสนามบินแล้วเมื่อ 19 มี.ค. แต่เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองบอกว่าตนเป็นบุคคลที่ถูกห้ามเข้าประเทศอย่างเคร่งครัด จากนั้นวันที่ 21 มี.ค.เมื่อโทรศัพท์คุยกับลูกสาว ลูกร้องไห้และทุกข์ใจมากเมื่อเอ่ยถึงชีวิตครอบครัว
หญิงอินโดนีเซียเล่าว่า พบลูกสาวครั้งสุดท้ายเมื่อเดือนก.พ. ตอนไปแสวงบุญด้วยกันที่ซาอุดี อาระเบีย
เจ้าชายฉุดลากลูกสาวตนขึ้นเครื่องบินส่วนตัวไป โดยทิ้ง ตนไว้ที่สนามบินเมืองเจดดาห์ ต่อมาคนในราชวงศ์มาเลเซีย ขอให้ตนเลิกติดต่อลูกแลกกับอพาร์ตเมนต์มูลค่า 35 ล้านบาท ซึ่งตนไม่รับ เพราะไม่ได้ขายลูกสาว ด้านดาอี บัชเตียร์ ทูตอินโดนีเซียประจำมาเลเซีย กล่าวว่า เคยสอบถามเรื่องนี้ไปแล้ว คนที่วังกลันตันบอกว่า นางแบบสาวสบายดี แต่ที่วังไม่อนุญาตให้แม่ของหญิงสาวเข้าเยี่ยม