หญิงป่วยมะเร็งสุดปิติ

ในหลวง-พระราชินี ทรงพระเมตตา รับหญิงชาวอยุธยา เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์เผยครอบครัวยากจน

ล้มป่วยเป็นมะเร็งกระดูกไขสันหลังขั้นหนัก ไม่มีเงินรักษาเลยถวายฎีกาก่อนทางสำนักพระราชวังจะตอบรับกลับมา เจ้าตัวเผยหลังได้รับพระมหากรุณาธิคุณมีกำลังใจดีขึ้นมาก เริ่มทำงานบ้าน ดูแลหลานๆ ได้ เชื่อเป็นเพราะพระบารมีของทั้งสองพระองค์

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 21 เม.ย. นางวาสินี ผิวผ่อง นายกเหล่ากาชาด จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมสมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัด

เข้าให้การช่วยเหลือนางมาลี เข็มนาค อายุ 51 ปี ที่บ้านเลขที่ 10/3 ม.5 ต.พุทเลา อ.บางปะหัน จ.พระนคร ศรีอยุธยา หลังจากที่สำนักพระราชวังมีหนังสือที่ รม.0009.5/3583 ข้อความว่าหลังจากที่นางมาลี เข็มนาค มีหนังสือทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา ถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ว่า นางมาลี เข็มนาค ที่ป่วยเป็นมะเร็งที่ไขกระดูกสันหลัง และมีฐานะยากจน สำนักพระราชวังทราบแล้ว

นางมาลีกล่าวว่า บ้านของตนเองเป็นครอบครัวใหญ่พักอาศัยกันอยู่หลายคน มีฐานะขัดสน หากินแต่ไม่พอกิน ตนมาป่วยหนักอีก

โดยเริ่มป่วยมาหลายปีจนกระทั่งเมื่อต้นปี 52 ไปตรวจรักษาที่ ร.พ.พระนครศรีอยุธยา พบว่าป่วยเป็นมะเร็งที่กระดูกไขสันหลัง รู้สึกตกใจมากเพราะพ่อแม่ที่เสียชีวิตไปได้ป่วยเป็นมะเร็งเช่นกัน เมื่อไม่มีเงินและมาเป็นโรคร้าย จึงคิดถึงพระบารมีในหลวงและพระราชินีที่ช่วยเหลือคนไทยทั้งประเทศ จึงเขียนจดหมายถึงสำนักพระราชวัง ด้วยพระบารมีของพระองค์ท่าน ที่ทรงมีพระเมตตาต่อพสกนิกรทุกชนชั้น สำนักพระราชวังมีหนังสือตอบกลับมา และให้ตนเองไปรักษาตัวที่ ร.พ.พระมงกุฎฯ ตั้งแต่เดือนก.พ. ที่ผ่านมา และเมื่อมีการตรวจรักษาอย่างละเอียดแล้ว พบว่าอาการของมะเร็งนั้นหนักแล้ว และจำเป็นต้องรักษาด้วยการฉายรังสี เป็นวิธีการเดียวที่จะบรรเทาอาการได้ ซึ่งตนเองขอไม่รักษาด้วยการฉายรังสี เพราะกลัวมากและขอตัวกลับมารักษาตัวต่อด้วยวิธีทางแพทย์แผนไทยต่อที่บ้าน

นางมาลี กล่าวต่ออีกว่า เป็นที่น่าแปลกใจ เพราะหลังจากตนได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระองค์ท่าน มีกำลังใจดีขึ้นมาก

และอาการป่วยถึงแม้จะไม่หาย แต่ไม่แสดงอาการทำร้ายร่างกายของตนเองให้เจ็บหนัก ทุกวันนี้เริ่มทำงานบ้าน ดูแลหลานในบ้านได้ เชื่อว่าเพราะพระบารมีของสองพระองค์ท่านอย่างแน่นอนที่ทำให้อาการทุเลาขึ้น และครอบครัวของตนเองก็สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน และขอให้ทั้ง 2 พระองค์และพระบรมวงศานุวงศ์ ทรงมีพระชนมายุยิ่งยืนนาน

ด้านนางวาสินี กล่าวว่า คณะแพทย์ ร.พ. พระมงกุฎฯ และสำนักพระราชวัง ได้ประสานงานให้เหล่ากาชาดให้การช่วยเหลือ

และเจรจาเพื่อให้เข้ารับการรักษาด้วยการฉายรังสี แต่นางมาลีกลัวและขอรับการรักษาตามแพทย์แผนไทย ซึ่งการรักษาต้องเป็นไปตามเจตนารมณ์ของคนไข้ และทางร.พ.พระนครศรีอยุธยา จะเข้ามาดูแลรักษาให้การช่วยเหลือเป็นระยะๆ แต่เบื้องต้นเหล่ากาชาด อ.บางปะหัน และอบต.พุทเลา เข้าให้การดูแลด้วยการมอบเงินจำนวน 8,000 บาท ให้ไว้เพื่อทำการรักษา ส่วนเรื่องความเป็นอยู่ของครอบครัว จะเข้าส่งเสริมอาชีพบุคคลในครอบครัวให้มีงานทำเพิ่มรายได้