สาวเสิร์ฟเฮง แจ็กพอต 29 ล.

"สูงเป็นประวัติการณ์ถึง 2,460 ล้าน"


สำนักงานสลากฯ เจอแจ็กพอตเจ๊งเกือบพันล้าน ในการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลและสลากเลขท้าย 3 ตัว 2 ตัว หรือหวยบนดิน งวดประจำวันที่ 1 ส.ค. ซึ่งมีนายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการสลาก และ พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ ผอ.สำนักงานสลากฯร่วมเป็นสักขีพยานนั้น ผลปรากฏว่า เลขท้ายที่ออกมางวดนี้ ได้ส่งผลให้สำนักงานสลากฯต้องขาดทุนครั้งมโหฬาร คิดเป็นเงินเกือบพันล้านบาท สร้างความตกตะลึงให้บรรดาผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานสลากฯเป็นอย่างยิ่ง

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลการจำหน่ายสลากหวยบนดินพบว่า จากกระแสเลขมงคลซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูงได้ส่งผลให้ยอดการขายหวยบนดินในงวดนี้สูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ถึง 2,460 ล้านบาท โดยเหล่านักเสี่ยงโชคต่างทุ่มแทงเลขท้าย 3 ตัวตรงเลข 960 มาเป็นอันดับหนึ่ง คิดเป็นเงินจำนวน 12.3 ล้านบาท รองลงมาคือเลข 916 จำนวน 5.4 ล้านบาท

"54 ทุ่มแทงเยอะสุด"


ประเภท 3 ตัวโต๊ดเลข 960 มียอดแทง 8.7 ล้านบาท รองลงมาคือเลข 916 มียอดแทง 3.6 ล้านบาท ประเภทเลขท้าย 2 ตัวบน เลข 54 มียอดแทงสูงอันดับหนึ่ง คิดเป็นเงิน 19.6 ล้านบาท รองลงมาคือเลข 45 ยอดแทง 15.6 ล้านบาท ขณะที่เลขท้าย 2 ตัวล่าง อันดับหนึ่งคือเลข 54 คิดเป็นเงิน 14.7 ล้านบาท รองลงมาคือเลข 57 เป็นเงิน 13.7 ล้านบาท

ทันทีที่ผลการออกรางวัลจบสิ้นลง ประชาชนในห้องออกรางวัลสลากถึงกับส่งเสียงเฮลั่น เนื่องจากเลขท้าย 54 นั้นเป็นเลขมงคล ที่เซียนหวยทุ่มแทงกันช่วงนี้ของทุกปี ตรงข้ามกับสีหน้าของคณะผู้บริหารสำนักงานสลากฯ ที่ต่างทำหน้าเบ้ส่ายหัวไปตามๆกัน เนื่องจากเมื่อคำนวณยอดจ่ายเงินรางวัลแล้วพบว่า ประเภทเลขท้าย 2 ตัวบนคือเลข 54 ที่เป็นเลขมงคล และมีประชาชนทุ่มแทงมากที่สุดในงวดนี้นั้น สำนักงานสลากฯ ต้องจ่ายเงินรางวัลเฉพาะเลขท้ายตัวนี้สูงถึง 1.3 พันล้านบาท ขณะที่เลขท้าย ประเภท 3 ตัวบน 654 มียอดจ่ายเงินรางวัลสูงถึง 800 ล้านบาทเศษ รองลงมาคือเลขท้าย 2 ตัวล่าง 88 ซึ่งเป็นเลขเบิ้ล มียอดจ่ายสูงถึงกว่า 450 ล้านบาท


"ขาดทุนครั้งใหญ่ที่สุด กว่า 930 ล้านบาท"


อย่างไรก็ตาม เมื่อรวมยอดจ่ายเงินรางวัลทั้งหมดแล้ว เป็นเงินรวมกันกว่า 2.9 พันล้านบาทเศษ หลังหักค่าบริหารจัดการต่างๆ สำนักงานสลากฯ ประสบภาวะขาดทุนครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่ขายหวยบนดินมา 3 ปี รวมเป็นเงินถึง 930 ล้านบาทเศษ ถือเป็นการขาดทุนงวดที่ 4 ในรอบปี 2549 ชนิดเซียนอยู่รูหมูอยู่ตึก อย่างไรก็ตาม เมื่อตรวจสอบสถิติของการขาดทุนในรอบปีปรากฏว่า สำนักงานสลากฯ ขาดทุนในงวดประจำวันที่ 1 พ.ค. คิดเป็นเงิน 282 ล้านบาท ตามด้วยงวดวันที่ 16 พ.ค. ขาดทุนเป็นเงิน 112 ล้านบาท และงวดวันที่ 1 มิ.ย. ขาดทุนเป็นเงิน 15 ล้านบาท

ภายหลังการออกรางวัลเสร็จสิ้นลง ผู้สื่อข่าวได้ เข้าไปสอบถามผู้บริหารสำนักงานสลากฯ ซึ่งทั้งนายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลัง และ พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ ผอ.สำนักงานสลากฯ ต่างเปลี่ยนสีหน้าเป็นยิ้มแย้มแจ่มใส กล่าวเพียงสั้นๆ ว่าแม้จะขาดทุนมาก แต่สำนักงานสลากฯ ก็ไม่มีปัญหาอะไร จากนั้นก็เดินทางกลับทันที


"เงินสะสมงวด 16 ส.ค."


ส่วนรางวัลแจ็กพอตหวยบนดิน ซึ่งมีเงินรางวัลสะสมถึง 118 ล้านบาทเศษนั้น ผลปรากฏว่ามีผู้ถูกรางวัล โดยเป็นผู้ซื้อสลากหวยบนดินใบละ 20 ซึ่งจะได้รับเงินร้อยละ 25 เป็นเงินทั้งสิ้น 29.573 ล้านบาท ทำให้เงินรางวัลสะสมแจ็กพอตในงวดวันที่ 16 ส.ค. มีจำนวน 108.71 ล้านบาท โดยผู้โชคดีที่ถูกแจ็กพอต ได้ซื้อสลากที่ร้านของนายกมล ทัศนวิภาส อายุ 55 ปี

ตัวแทนจำหน่ายหวยบนดิน ร้านศรีเจริญชัย เลขที่ 26/1-2 ซ.สุขุมวิท 71 แขวงพระโขนงเหนือ เขตทวีวัฒนา ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริงในเย็นวันเดียวกันนี้ เมื่อไปถึงพบว่ามีชาวบ้านกำลังจับกลุ่มแสดงความยินดีกับผู้โชคดีที่ถูกแจ็กพอตกันจนแน่นร้าน ทราบชื่อคือนางภัททาพร วรรณประภา หรือนุช อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 125 ม.4 ต.นาเจริญ อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี ทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟร้านอาหารญี่ปุ่นในซอยสุขุมวิท 26

"ชอบซื้อหวย เป็นประจำ"


นางภัททาพรหญิงสาวผู้โชคดี เปิดเผยด้วยความดีใจที่สุดในชีวิตว่า ปกติจะเป็นคนชอบซื้อหวย โดยเป็นลูกค้าประจำของร้านศรีวัฒนา และจะซื้อหวยทุกงวดประมาณงวดละ 400-500 บาท สำหรับงวดนี้ตั้งใจเล่นเลขเบิ้ล 99 และ 33 เมื่อหวยออกรู้ว่าไม่ถูกก็ไม่ได้สนใจ และเกือบจะทิ้งสลากหวยไปแล้ว บังเอิญมีคนในตลาดเตือนว่าให้ ตรวจรางวัลแจ็กพอตด้วย จึงนำสลากที่ไม่ถูกรางวัลมาพลิกดูด้านหลังปรากฏว่าถูกรางวัลแจ็กพอต แต่ยังไม่แน่ใจจึงโทรศัพท์ไปสอบถามสำนักงานสลากฯ และได้รับคำยืนยันว่าถูกแจ็กพอตจริงๆ ซึ่งตนถึงกับร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ

สาวมหาเฮงกล่าวด้วยว่า ฐานะครอบครัวไม่ร่ำรวย ทุกวันนี้อยู่กับสามีชื่อนายสุรินทร์ ทะสุมา อายุ 21 ปีที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง และเพิ่งแต่งงานมาหมาดๆ เมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา โดยต่างคนต่างช่วยกันทำมาหากิน เพราะทำงานอยู่ที่ร้านอาหารญี่ปุ่นทั้งคู่ หลังจากได้เงินมาแล้ว ตั้งใจจะแบ่งส่วนหนึ่งนำไปทำบุญ อีกส่วนแบ่งให้ พ่อแม่ของตนและของแฟน

"เพื่อความปลอดภัยจะไปแจ้งลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน"


ที่เหลือเก็บไว้เป็นทุนของชีวิตในอนาคต โดยยืนยันว่าจะไม่ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย ส่วนงานนั้นคิดว่าจะกลับไปทำงานที่ร้านอาหารญี่ปุ่นเหมือนเดิม แต่ก็ได้คิดถึงอนาคตของตัวเองเหมือนกัน โดยวาดฝันไว้ว่าเมื่อถึงจุดหนึ่ง อยากจะมีร้านขายเสื้อผ้าเป็นของตัวเองและอยากจะปลูกบ้านไว้ที่ จ.อุบลราชธานี 1 หลัง เผื่อกลับไปใช้ชีวิตในยามแก่เฒ่า แต่ยังไม่คิดจะมีลูกเพราะอายุยังน้อยอยู่ ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยจะไปแจ้งลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.พระโขนง ก่อนไปรับเงินรางวัลในวันที่ 2 ส.ค. ต่อไป


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์