พิษเสื้อแดงทำยอดตกงานพุ่ง 2 ล้าน

สศช.ยันจีดีพีปี 52 ติดลบ 2.5-3.5% นายสมเกียรติ อนุราษฎร์ กรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวหลังประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ว่า


ภาคเอกชนเป็นห่วงปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองอย่างมาก เพราะผลการประท้วงได้กระทบต่ออัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยในปี 52 เดิมที่ประเมินไว้ติดลบ 2% อาจเป็นลบ 4.5% ส่งผลให้แรงงานไทยว่างงานเพิ่มจากเดิมคาดการณ์ไว้ 1 ล้านคนเป็น 2 ล้านคน ดังนั้นรัฐบาลต้องเร่งสร้างความสงบในประเทศโดยเร็วเพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนและผู้บริโภค
 
นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า

ที่ประชุมได้เสนอแนวทาง 6 ข้อ ให้ทุกฝ่ายร่วมกันแก้ไข เช่น สนับสนุนกระบวนการปฏิบัติที่จะนำไปสู่ความสงบสุขภายในประเทศ, บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและเสมอภาค, เร่งรัดการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในสังคม, สนับสนุนให้มีมาตรการเร่งด่วนเพื่อฟื้นฟูภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของประเทศ โดยอาศัยสื่อต่างประเทศและการประชุมนานาชาติ, สนับสนุนให้นำประเด็นความขัดแย้งทางการเมืองเข้าสู่กระบวนการรัฐ สภา และสนับสนุนการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งโดยไม่ใช้ความรุนแรง
 
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 16 เม.ย. นายกรัฐมน ตรีได้เชิญภาคเอกชนทั้ง ส.อ.ท. สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทยและตัวแทนจากสมาคมด้านท่องเที่ยว

มาชี้แจงเหตุผลถึงการที่รัฐบาลยังไม่ตัดสินใจยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินในสถานการณ์ร้ายแรง ใช้เวลาหารือนาน 20 นาที ซึ่งภาคเอกชนต่างเข้าใจและเห็นใจการทำงานของนายกฯ โดยเฉพาะภาคท่องเที่ยวแม้ว่าจะได้รับผลกระทบโดยตรงก็ตาม โดยนายกฯ ชี้แจงว่าสถานการณ์การชุมนุมยังไม่เรียบร้อย จึงจำเป็นต้องคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ไว้ก่อน แต่ยืนยันว่าจะยกเลิกโดยเร็วที่สุด

รายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่า ในช่วงบ่ายวันที่ 17 เม.ย. นายกฯ ได้เรียกประชุมทีมเศรษฐกิจชุดเล็ก

ประกอบด้วยนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกฯ นายกรณ์ จาติกวณิช รมว. คลัง นายบัณฑูร สุภัควณิช ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ปลัดกระทรวงการคลัง และผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อ หารือถึงผลกระทบด้านเศรษฐกิจจากเหตุการณ์ชุมนุม เพื่อออกมาตรการมากระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป เบื้องต้น สศช. ได้ประเมินว่าจะทำให้เศรษฐกิจหดตัวลดลงอีกจากเดิมที่ประเมินล่าสุดว่าไม่ขยายตัว (0%) หรือหดตัว 1% เป็นหดตัวถึง 2.5-3.5%
 
นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ได้รายงานให้ที่ประชุม ครม. รับทราบผลกระทบทางเศรษฐกิจจากเหตุการณ์ชุมนุมที่เกิดขึ้น

โดยระบุว่าหากการเมืองยังไม่มีเสถียรภาพอยู่ต่อไปอาจทำให้ประเทศสมาชิกอาเซียนและประเทศ คู่เจรจาอาจเป็นกังวลที่จะเข้าร่วมประชุม รมต. เศรษฐกิจอาเซียน ที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมในวันที่ 13-16 ส.ค.นี้ ที่กรุงเทพฯ และยังส่ง  ผลต่อการฟื้นฟูภาพลักษณ์ของประเทศ จากการสอบถามประเทศคู่ค้าสำคัญและ 15 ประเทศ ที่ เข้าร่วมประชุมอาเซียน เช่น จีน และญี่ปุ่น ที่มีมูลค่าการส่งออกถึง 52% ของการส่งออกของไทย ซึ่งยังคงสั่งซื้อสินค้าและเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในไทย