นางสาวบุษบา จิราธิวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัทเซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า การปิดห้างฯและศูนย์การค้าในเครือ 5 แห่ง
คือ เซนและเซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลลาดพร้าว เซ็นทรัลชิดลม เซ็นทรัลปินเกล้า และสีลมคอมเพล็กซ์ 1 วัน ในวันที่ 13 เม.ย. ที่ผ่านมา ค้าปลีกในกลุ่มของเซ็นทรัลฯได้รับผลกระทบเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งไม่น่าถึง 10 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีสาขารอบนอกจำนวนมาก และปัญหาความไม่สงบทางการเมือง ทำให้ลูกค้าหันไปใช้บริการศูนย์การค้านอกเมืองมากขึ้น โดยสาขาแจ้งวัฒนะ มียอดลูกค้าเข้าใช้บริการเพิ่มขึ้นถึง 20-30%
ด้านนายรณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ รองประธานอาวุโสฝ่ายการเงินและบริหาร บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารโรงแรมและรีสอร์ตในเครือเซ็นทารา กล่าวว่า
วิกฤติการเมืองที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบกับการดำเนินธุรกิจโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์แอทเซ็นทรัลเวิลด์ และโรงแรมโซฟิเทล เซ็นทาราแกรนด์ กรุงเทพเป็นอย่างมาก โดยโรงแรมโซฟิเทลเซ็นทาราแกรนด์ กรุงเทพ มีอัตราการเข้าพักลดลงทันทีเหลือเพียง 40% จากที่มียอดจอง 70-80% ขณะที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์แอทเซ็นทรัลเวิลด์ มีอัตราการเข้าพักแค่ 30-40% จากเดิมที่มียอดจองเต็ม 100% คาดว่าหลังเหตุการณ์คลี่คลาย 6-9 เดือน หรือประมาณไตรมาส 4 นักท่องเที่ยวน่าจะเด้งกลับมา
ขณะที่นายอนวัช องค์วาสิฎฐ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจโรงภาพยนตร์ บริษัทเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การปิดโรงหนังในเครือ 7 สาขา คือ สยามพารากอน รัชโยธิน ปินเกล้า 2 จุด เอส-พลานาด อีจีวีเมโทรโพลิส และอีจีวีลาดพร้าว ในวันที่ 13 เม.ย.ที่ผ่านมา ส่งผลให้ยอดรายได้จากการขายตั๋วหนังของบริษัทหายไป 15-20%