คม-ชัด-ลึก
น้ำป่าจากดอยสุเทพทะลักท่วมเมืองเชียงใหม่-แม่ริม น้ำท่วมอุโมงค์ใต้ดินถนนวงแหวนแม่เหียะ รถยนต์ขับเข้าไปจมน้ำเพียบ ถนนอีกหลายสายถูกน้ำท่วม-ดินถล่มทับ หัวหน้าอุทยานสุเทพ
เผยเหตุน้ำท่วมตัวเมืองเชียงใหม่มาจากฝนตกหนัก ไม่เกี่ยวไนท์ซาฟารีบุกรุกป่า ด้าน ผอ.สถาบันเพื่อสิทธิชุมชน เผยต้นเหตุมีสิ่งปลูกสร้างผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด ที่เชิงดอย รวมทั้งโครงการไนท์ซาฟารี-พืชสวนโลก หวั่น 2 หมู่บ้าน ถูกดินถล่มซ้ำรอยอุตรดิตถ์ กรมอุตุฯ ประกาศเตือน 16 จังหวัดภาคเหนือ-อีสาน ระวังน้ำท่วมฉับพลัน
น้ำป่าจากดอยสุเทพ-ปุย ทะลักท่วมเมืองเชียงใหม่ครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 31 กรกฎาคม ได้เกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องใน อ.สันทราย อ.แม่ริม และ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จนกระทั่งเช้าวันเดียวกันมีน้ำป่าจากบนดอยสุเทพ-ปุย ไหลหลากมาตามลำห้วยและไหลเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้าน ในพื้นที่ทั้ง 3 อำเภอ โดยเฉพาะในเขต อ.เมือง น้ำได้ท่วมถนนเชียงใหม่-หางดง ขาเข้าเมือง ระดับน้ำสูง 40 เซนติเมตร ทำให้การจราจรติดขัดตั้งแต่เวลา 06.00 น. และมีรถจอดเสียหลายคัน
ขณะที่ถนนสุเทพ บริเวณตลาดต้นพยอม สี่แยกรินคำ ถนนห้วยแก้ว ต.สุเทพ ถนนนันทาราม ถนนสุริยวงศ์ สี่แยกหายยา ต.หายยา มีระดับน้ำท่วมขังสูง 50 เซนติเมตร ส่วนถนนเชียงใหม่-ลำพูน บริเวณ ต.หนองหอย มีน้ำท่วมขังสูง 30 เซนติเมตร และยังมีถนนอีกหลายสายที่ถูกน้ำท่วมขัง กระจายทั่วทั้ง อ.เมือง โดยเฉพาะในชุมชนศรีปิงเมือง ตลาดประตูก้อม มีชาวบ้านได้รับผลกระทบไม่ต่ำกว่า 1,000 ครัวเรือน
ส่วนที่ อ.แม่ริม บ้านเรือนชาวบ้านหมู่ 3, 4 ต.ดอนแก้ว ก็ถูกน้ำท่วมขังสูง 30-50 เซนติเมตร ชาวบ้านต้องขนของหนีน้ำกันอย่างอลหม่าน บางส่วนขนของหนีน้ำไม่ทัน ทรัพย์สินได้รับความเสียหายจำนวนมาก
รถยนต์จมน้ำในอุโมงค์แม่เหียะ
ขณะเดียวกันน้ำมีท่วมขังในอุโมงค์แม่เหียะสูงมากกว่า 2 เมตร ทำให้ผู้ใช้รถบนถนนวงแหวนในช่วงเช้าที่ไม่รู้ว่าในอุโมงค์มีน้ำท่วมขัง ขับรถเข้าไปด้วยความเร็วทำให้รถจมลงในน้ำหลายคัน แต่โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
พ.ต.ต.ชาติไทย ชูไทย สารวัตรจราจรเขตใต้ จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า หลังรับรายงานได้มีการประสานหน่วยเคลื่อนที่เร็วไปเปิดทางเร่งสูบระบายน้ำออกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมกับติดป้ายงดใช้ชั่วคราว จนกว่าระดับน้ำจะลดลง จึงจะเปิดให้ใช้ได้ตามปกติ
ดินถล่มปิดถนนแม่มาลัย-ป่าแป๋
นายปราโมทย์ อิ่มเพชร นายช่างแขวงการทางเชียงใหม่ 3 กล่าวว่า เมื่อเวลา 08.00 น. ได้รับรายงานมีดินภูเขาลื่นไถลลงมาปิดถนนแม่มาลัย-ป่าแป๋ บริเวณ ต.ป่าแป๋ อ.แม่แตง ทำให้เหลือช่องทางจราจรเพียงครึ่งช่องทาง รถขนาดใหญ่ไม่สามารถผ่านไปมาได้ จึงให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการนำรถแทรกเตอร์เข้าไปปรับเส้นทางจนสามารถใช้ได้หนึ่งช่องทางจราจร
"ริมถนนฝั่งซ้ายจากแยกแม่มาลัย อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ไปถึง อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน กว่า 100 กิโลเมตร ส่วนใหญ่จะเป็นภูเขาตลอดเส้นทาง เมื่อเกิดฝนตกติดต่อกันนานๆ ทำให้ดินอุ้มน้ำไม่ไหวและลื่นไถลลงปิดเส้นทาง ขณะที่ด้านขวาของถนนเป็นเหวลึก เมื่อมีดินถล่มลงมาจึงทำให้ไม่มีทางเลี่ยง" นายปราโมทย์ กล่าว
ระดมหน่วยงานแก้น้ำท่วม
กระทั่งเมื่อเวลา 10.00 น. วันเดียวกัน นายวิลาศ รุจิวัฒนพงศ์ รองผู้ว่าฯ จ.เชียงใหม่ ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุมด่วนที่ศูนย์ฏิบัติการป้องกันและแก้ปัญหาน้ำท่วม จ.เชียงใหม่ พร้อมกับสั่งการให้เจ้าหน้าที่งานบรรเทาสาธารณภัยเข้าให้ความช่วยเหลือในพื้นที่มีจุดท่วมขัง รวมทั้งประสานอาสาสมัครฝ่ายปกครองและเทศบาลนครเชียงใหม่สมทบกำลังกับตำรวจจราจรในการอำนวยความสะดวกให้ชาวบ้าน
นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ กล่าวว่า น้ำป่าที่ไหลบ่าจากดอยสุเทพ-ปุย นี้มีความรุนแรงและรวดเร็วมาก ทำให้ระบบระบายน้ำจากคลองชลประทานเข้าคูเมือง เพื่อผ่านลงไปในแม่น้ำปิงไม่ทัน โดยหลังจากน้ำเริ่มเข้าท่วมในเวลา 03.00 น. ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายของเทศบาลกว่า 300 คน พร้อมอุปกรณ์เครื่องมือที่มีอยู่ออกให้การช่วยเหลือชาวบ้าน พร้อมเปิดศูนย์แจกจ่ายกระสอบทรายในบริเวณสนามกีฬาเทศบาลนครเชียงใหม่
ชลประทานสั่งปิดประตูน้ำ
นายแสนรัตน์ เบญจพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 1 กล่าวว่า สำนักชลประทานได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ปิดประตูระบายน้ำจากคลองแม่แตง ที่เชื่อมต่อกับคลองชลประทานแล้ว เพื่อไม่ให้น้ำจากคลองแม่แตงไหลเข้าสมทบกับน้ำในคลองชลประทาน เนื่องจากปริมาณน้ำในคลองชลประทานมีระดับสูงจนไม่สามารถรับน้ำได้อีก เพราะในช่วงกลางดึกน้ำจากดอยสุเทพไหลลงสู่คลองชลประทาน พร้อมกับนำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ไปตั้งที่บริเวณสะพานข้ามคลองชลประทาน หน้าทางเข้าโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีและโครงการพืชสวนโลกเพื่อช่วยระบายน้ำที่เอ่อล้นท่วมพื้นถนนและบ้านเรือนชาวบ้าน
นายแสนรัตน์ กล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้เกิดน้ำท่วมเชียงใหม่ มีด้วยกัน 3 สาเหตุคือ พื้นที่ในเขตเทศบาลไม่สามารถระบายน้ำได้ทัน สาเหตุที่ 2 คือ น้ำที่ไหลลงมาจากดอยสุเทพ และน้ำปิงที่ไหลมาจากพื้นที่ต้นน้ำทางตอนเหนือใน อ.เชียงดาว และอ.แม่แตง ไหลมาสมทบ
"ยอมรับว่าจากประสบการณ์น้ำท่วมเมื่อปี 2548 แม้จะมีการวางแผนรับมือและมีแผนดำเนินโครงการต่างๆ เพื่อแก้ไขน้ำท่วม แต่ก็ยังไม่สามารถดำเนินการได้ในทันที เพราะโครงการหลักๆ บางโครงการ แม้จะได้รับงบประมาณแล้ว เช่น โครงการก่อสร้างพนังกั้นน้ำ โครงการสร้างฝาย ฯลฯ แต่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะติดปัญหาต่อต้านจากชาวบ้าน" นายแสนรัตน์ กล่าว
"ไนท์ซาฟารี"ยันไม่ใช่ต้นเหตุทำน้ำท่วม
นายอุปถัมภ์ ภวภูตานนท์ ณ มหาสารคาม ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักบริหารเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เปิดเผยว่า สาเหตุที่เกิดน้ำท่วมครั้งนี้มาจากปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างหนักในเขตตัวเมือง ไม่ได้มีสาเหตุจากโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ซึ่งก็ชี้แจงประเด็นนี้ไปหลายครั้งแล้วว่าพื้นที่ของโครง การแม้จะตั้งอยู่บริเวณเชิงดอยสุเทพ แต่ไม่ได้มีการก่อสร้างกีดขวางทางน้ำที่ไหลมาจากดอยสุเทพ
"ถึงแม้ไม่มีไนท์ซาฟารี ที่ผ่านมาเชียงใหม่ก็ประสบปัญหาน้ำท่วม สาเหตุมาจากแม่น้ำปิงล้นตลิ่งและไหลเข้าท่วมพื้นที่ในเขตตัวเมืองเป็นหลัก ทั้งนี้ปัญหาน้ำท่วมที่เกิดจากฝนตกหนักถือเป็นเรื่องปกติ ซึ่งในส่วนของโครงการไม่ได้มีแผนเตรียมการหรือรับมือกับปัญหาน้ำท่วม เพราะอยู่ในพื้นที่สูงอยู่แล้ว" นายอุปถัมภ์ กล่าว
นายสุรชัย ท้วมสมบูรณ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย กล่าวว่า หลังจากเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา โดยเฉพาะบริเวณดอยสุเทพ ส่งผลให้น้ำจากดอยสุเทพไหลลงตามแหล่งน้ำและไหลมารวมกับน้ำในคลองชลประทานซึ่งมีปริมาณค่อนข้างมาก ทำให้คลองชลประทานไม่สามารถระบายน้ำได้ทัน จนทำให้น้ำล้นจากคลองชลประทานเข้าท่วมพื้นที่ในเขตตัวเมืองเชียงใหม่หลายจุดด้วยกัน
"ยอมรับว่าปีนี้ฝนตกลงมาค่อนข้างมากกว่าปกติ ทำให้สภาพป่ามีความชุ่มน้ำสูงจนไม่สามารถอุ้มน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างหนักเมื่อคืนที่ผ่านมาได้ แต่ปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้น ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะเกิดจากสภาวะอากาศและฝนที่ตกลงมามากกว่าปกติเท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเข้ามาใช้พื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ของโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี" นายสุรชัย กล่าว
หวั่น 2 หมู่บ้านถูกดินถล่ม
นายชัยพันธ์ ประภาสะวัติ ผู้อำนวยการสถาบันเพื่อสิทธิชุมชน กล่าวว่า ปัจจุบันมีสิ่งปลูกสร้างบริเวณเชิงดอยสุเทพเป็นจำนวนมาก ไม่เว้นแม้แต่คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ก่อสร้างศูนย์วิจัยเกษตรแม่เหียะ ขึ้นที่เชิงดอยสุเทพ ใกล้กับคลองชลประทาน การก่อสร้างโครงการหมู่บ้านจัดสรร โครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี และโครงการพืชสวนโลก ที่เข้าไปแผ้วถางป่าและพัฒนาพื้นที่จนสภาพแวดล้อมเปลี่ยนแปลงไป และโครงการดังกล่าวกลายเป็นเขื่อนกั้นน้ำและเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้น้ำเปลี่ยนทิศทางในการไหล
"ต้องยอมรับว่าเป็นเพราะไม่มีการวางระบบผังเมืองที่ดี เพื่อรองรับการขยายตัวของเมืองที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว รวมทั้งไม่มีการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) จากโครงการที่เข้าไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่ ซึ่งถือเป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำสำคัญที่ตั้งอยู่ใกล้เมืองมากที่สุด และยังอยู่ในเขตป่าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ หน่วยงานต่างๆ ทราบข้อมูลเกี่ยวกับพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมดี แต่กลับมีการเตรียมแผนป้องกันหรือรับมือกับปัญหาน้อยมาก เช่น ท่อระบายน้ำที่วางไว้ใต้ถนนชลประทาน เพื่อระบายน้ำที่ไหลลงมาจากดอยสุเทพ มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเพียง 80 เซนติเมตร หากมีการศึกษาอีไอเอ หน่วยงานที่รับผิดชอบจะไม่วางท่อขนาดนั้นอย่างแน่นอน เพราะทราบดีว่าน้ำที่ไหลมาจากดอยจะต้องมีเศษกิ่งไม้ใบไม้และวัชพืชต่างๆ ลงมาด้วย ซึ่งจะมีปัญหาทำให้ท่อน้ำอุดตัน" นายชัยพันธ์ กล่าว
นายชัยพันธ์ กล่าวอีกว่า พื้นที่ที่น่าเป็นห่วงที่สุดขณะนี้คือ บ้านฟ่อนและบ้านเปา ต.หนองควาย อ.หางดง ซึ่งอยู่ใกล้กับเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ และอยู่ใกล้กับจุดที่จะมีการก่อสร้างอุทยานช้าง ที่เป็นส่วนต่อขยายจากโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ปัจจุบันมีการเข้าไปบุกรุกและแผ้วถางป่าเพื่อเปิดพื้นที่บางส่วนแล้ว จากสาเหตุดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้น้ำไหลลงจากดอยสุเทพเร็วขึ้น เกรงว่าหากมีฝนตกอย่างต่อเนื่องในปริมาณมาก พื้นที่ทั้ง 2 หมู่บ้านอาจเป็นจุดเสี่ยงภัยดินโคลนถล่มเหมือนเคยเกิดขึ้นที่ จ.อุตรดิตถ์ ได้
ศูนย์อุทกวิทยาฯ ยันน้ำปิงไม่ล้น
นายปรีชา แย้มเยื้อน หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์และประมวลสถิติ ศูนย์อุทกวิทยาภาคเหนือตอนบน กล่าวว่า ระดับน้ำในแม่น้ำปิงที่จุดวัดพี 1 เชิงสะพานนวรัฐ เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 31 กรกฎาคม อยู่ที่ 1.85 เมตร เวลา 09.00 น. สูงขึ้นเป็น 2.07 เมตร และในเวลา 10.00 น.เพิ่มเป็น 2.20 เมตร
นายปรีชา กล่าวอีกว่า ระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นนี้เป็นผลมาจากมีฝนตกหนักในพื้นที่ทางตอนเหนือ อ.เชียงดาว ซึ่งเป็นอำเภอทางตอนบนของ อ.เมือง ตลอดคืนที่ผ่านมา ทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำปิงเพิ่มขึ้นตามลำดับ อย่างไรก็ตามในช่วงเช้าของวันเดียวกันฝนได้หยุดตก จึงคาดว่าระดับน้ำในแม่น้ำปิงจะเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยและจะสูงไม่ถึง 3.70 เมตร ซึ่งเป็นระดับวิกฤติที่จะเริ่มไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน
อุตุฯ เหนือเตือนรับมือน้ำป่า
นายวรพจน์ คุณาวิวัฒนางกูล เวรพยากรณ์อากาศ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ กล่าวว่า อิทธิพลความกดอากาศต่ำส่งผลให้เกิดฝนตกหนักในอ.เมือง จ.เชียงใหม่ ตั้งแต่ เวลาประมาณ 23.00 น. วันที่ 30 กรกฎาคม จนถึงเวลา 07.00 น. วันที่ 31 กรกฎาคม พบว่า อ.เมือง จ.เชียงใหม่ มีปริมาณฝนสะสมถึง 130 มิลลิเมตร ส่วนใน อ.สันทราย และ อ.แม่ริม มีปริมาณฝนสะสม 50-60 มิลลิเมตร
ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือได้ออกประกาศฉบับที่ 2 (31/2549) เรื่องฝนตกหนักถึงหนักมาก โดยระบุว่า ด้วยความกดอากาศต่ำปกคลุมภาคเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุม ทำให้มีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ในระยะ 1-2 วันนี้ จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยของ จ.เชียงราย จ.พะเยา จ.แม่ฮ่องสอน จ.เชียงใหม่ และ จ.น่าน เตรียมพร้อมป้องกัน ระมัดระวังอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากภัยธรรมชาติจากฝนตกหนักถึงหนักมาก น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลัน น้ำล้นตลิ่ง และดินโคลนลื่นไถลตลอดจนติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด
เตือน 16 จังหวัดเหนือ-อีสาน น้ำท่วมฉับพลัน
กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศฉบับที่ 3 (64/2549) เรื่อง ฝนตกหนักในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนว่า เนื่องจากร่องความกดอากาศต่ำกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน ตาก เชียงราย เชียงใหม่ ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย หนองคาย หนองบัวลำภู อุดรธานี และขอนแก่น จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณพื้นที่ลุ่ม ที่ลาดเชิงเขา และใกล้ทางน้ำไหลบริเวณจังหวัดที่กล่าวมา ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในช่วงวันที่ 31 กรกฎาคม ถึง 2 สิงหาคมนี้ไว้ด้วย ซึ่งกรมอุตุนิยมวิทยาจะแจ้งให้ทราบเป็นระยะๆ ต่อไป