ยิ่งนับวันแก๊งค้ายาบ้ายิ่งมีวิวัฒนาการในการขนส่งยานรก อย่างแยบยล ทำให้บางครั้งมียาบ้าเล็ดลอดสายตาเจ้าหน้าที่ไปอย่างคาดไม่ถึง
เหมือนกับแก๊งค้ายาแก๊งนี้ที่อาศัยความสูงวัย ลักลอบนำยาบ้าจากชายแดนภาคเหนือเข้ามาในประเทศไทย ทำในรูปของทัวร์ไหว้พระ ทัวร์ผู้สูงอายุไปเที่ยวชายแดน แต่ขากลับแอบลักลอบนำยาเสพติดเข้าประเทศอย่างง่ายดาย ผ่านด่านตรวจโดยเจ้าหน้าที่ไม่สงสัย
หารู้ไม่ว่าคนเหล่านี้กำลังขนยาเสพติด!!
ถึงแม้วิธีนี้จะดูแนบเนียน แต่สุดท้ายก็หนีไม่พ้นเงื้อมมือเจ้าหน้าที่ไปได้ เมื่อตำรวจปส. เจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวทหารเรือ และหน่วยป.ป.ส.ได้รับรายงานจากสายถึงพฤติกรรมคนร้าย จึงตั้งด่านสกัดจับกุมเอาไว้ ยึดของกลางได้ทั้งยาบ้าและยาไอซ์ที่ซุกซ่อนนำเข้าประเทศไทย
แก๊งชราค้ายาบ้าจนมุมจนได้!!
ย้อนไปดูการตรวจจับแก๊งค้ายาเสพติดแก๊งนี้ เกิดขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ได้รับรายงานจากสาย ว่า มีแก๊งค้ายาหัวใส คิดวิธีลักลอบขนยาเสพติดในรูปแบบใหม่ โดยใช้การจัดทัวร์เที่ยวต่างจังหวัดบังหน้า ชักชวนผู้สูงอายุเดินทางไปบ่อนหรือไหว้พระ จากนั้นจะลักลอบขนยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านเข้าประเทศไทย
หน่วยปราบปรามยาเสพติดหลายหน่วย ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย รอง ผบ.ตร. ในฐานะ รอง ผอ.ศูนย์ต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด ตร.แห่งชาติ (ศตส.ตร.) พล.ต.ท.วุฒิ ลิปตพัลลภ ผบช.ปส. พล.ร.ท.อภิวัฒน์ ศรีวรรธนะ ผู้ช่วยเสนาธิการทหารเรือ ฝ่ายการข่าว และนายชาติชาย สุทธิกมล ที่ปรึกษาการป้องกันยาเสพติด (ป.ป.ส.) จึงส่งเจ้าหน้าที่ผนึกกำลังติดตามจับกุมในทันใด
การแกะรอยแก๊งยาบ้าจึงเริ่มขึ้น
เจ้าหน้าที่ได้รับรายงานมาว่าหัวหน้าแก๊งค้ายารายนี้ คือ นางดาหวัน อยู่ดี อายุ 68 ปี ร่วมมือกับสามี คือ นายชัยพร ศรีชรัง อายุ 69 ปี ค้ายาบ้ามานานแล้ว และด้วยการที่เป็นคนสูงอายุนี่เอง สองผัวเมียจึงอาศัยความชราเป็นเกราะป้องกันในการขนส่งยานรก ซึ่งตามรายงานระบุว่า ทำมาตั้งแต่ปี 2549 โดยจะอำพรางในลักษณะจัดคณะทัวร์เป็นนักท่องเที่ยว ชักชวนผู้สูงอายุด้วยกันเช่ารถตู้เหมาคันเดินทางเป็นหมู่คณะไปที่อ.แม่สาย จ.เชียงราย และข้ามไปประเทศเพื่อนบ้านเข้าบ่อนกาสิโน เล่นการพนัน หรือไปไหว้พระในพื้นที่ภาคเหนือ
แต่ขากลับจะให้ลูกทัวร์ช่วยกันซุกซ่อนยาบ้าที่รับมาจากพวกว้าแดง ซุกซ่อนมาตามร่างกาย ยัดไว้ตามเสื้อในบ้าง กางเกงในบ้าง เพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัย ที่ผ่านมา จะรอดด่านไปได้ทุกครั้ง เพราะเจ้าหน้าที่คิดว่าเป็นทัวร์ผู้สูงวัย ไม่น่าจะมีอะไร อีกทั้งยังมีเอกสารผ่านแดนไปเล่นพนันอย่างถูกต้องเลยปล่อยให้ผ่านไป
แก๊งยามาแนวใหม่ จัดทัวร์คนชราบังหน้า ขนยาบ้าเข้าประเทศ
โดยหารู้ไม่ว่าในตัวมีแต่ยาบ้าทั้งนั้น!!
เจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามดูพฤิตกรรมแก๊งค้ายาแก๊งนี้อย่างไม่กะพริบตา สืบจนรู้ว่านางดาหวันกับสามีจัดทริปไปทัวร์ไหว้พระอีกครั้ง รวบรวมผู้สูงอายุเกือบ 10 คน เดินทางขึ้นเหนือด้วยกัน ข้ามฝั่งไปประเทศเพื่อนบ้านด้านอ.แม่สาย ตั้งแต่วันที่ 21 มี.ค. เพื่อเล่นพนันและรับยาเสพติด ก่อนจะกลับเข้าประเทศไทยในวันที่ 2 เม.ย. ซึ่งทริปนี้นางดาหวัน นั่งเครื่องบินตามไปสมทบและกลับมาพร้อมรถตู้จากเชียงรายมุ่งหน้ากลับภูมิลำเนาใน จ.ชลบุรี
เมื่อได้รับการยืนยันจากสาย ว่าคนร้ายใช้ยานพาหนะเป็นรถตู้ทะเบียน 1722 กทม. ชุดไล่ล่าที่ประกอบด้วย ตำรวจ ทหาร และเจ้าหน้าที่ป.ป.ส. จึงสะกดรอยตามรถตู้คันดังกล่าวมาถึงด่านตรวจยานพาหนะพยุหะคีรี ต.ย่านมัทรี อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ ในตอนบ่ายของวันถัดไป
เมื่อถึงด่านเจ้าหน้าที่จึงขอตรวจค้นรถในทันใด พบของกลางยายาบ้า จำนวน 60,900 เม็ด และยาไอซ์อีก 1 ก.ก. ซุกซ่อนไว้ตามชุดชั้นใน และกางเกงในของลูกทัวร์ทั้งหลาย จึงควบคุมตัวนางดาหวันกับนายชัยพร พร้อมลูกทัวร์ ประกอบด้วย นายเฉลิม ชิวชาวนา อายุ 69 ปี, นางสมศรี ชิวชาวนา อายุ 61 ปี, นางอุไร จันทร์เจริญ อายุ 57 ปี, นางบุญงาม บุญเลิศ อายุ 43 ปี, น.ส.นิภาพร ปานประสิทธิ์ อายุ 26 ปี, นายศรัทธา ชิวชาวนา อายุ 33 ปี และนายเวสารัตน ชิวชาวนา อายุ 32 ปี ไว้ดำเนินคดีต่อไป
รอดไปได้หลายครั้งแต่คราวนี้จนมุมจนได้
หลังได้ตัวแก๊งค้ายาบ้ารุ่นใหญ่ เจ้าหน้าที่จึงขยายผล พบว่าวงจรอุบาทว์ของพวกนี้ หลังจากนำยาเสพติดเข้าประเทศได้ก็จะนำไปกระจายขายให้กับเอเยนต์อีกทอดหนึ่ง พอได้เงินก็จะโอนเข้าบัญชีเครือข่าย เพื่อไม่ให้น่าสงสัย นอกจากนี้ นางดาหวันกับสามียังเปิดร้านมินิมาร์ท และร้านสังฆภัณฑ์บังหน้าว่าประกอบอาชีพค้าขาย เพื่อฟอกเงิน
เจ้าหน้าที่จึงตามไปอายัดทรัพย์สิน ประกอบด้วย ตู้นิรภัย 2 ตู้ มีเงินสด 509,020 บาท สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร 3.8 ล้านบาท รถยนต์ 6 คัน รถจักรยานยนต์ 2 คัน บ้านพร้อมที่ดิน 4 หลังใน จ.ชลบุรี และทองคำรูปพรรณ จำนวน 5 รายการ รวมมูลค่าทรัพย์สินถึง 17 ล้าน ไว้เป็นของกลาง
มาทำผิดเอาตอนบั้นปลายชีวิตแบบนี้
ไม่รู้จะได้ออกจากคุกตอนไหน!!?