ตำรวจตรวจที่เกิดเหตุพบว่า ทั่วบริเวณด้านหลังสำนักงาน มีแต่กองเลือดและกระจุกเส้นผมของ "รักษิณา" ที่ถูกสุนัขกัดและวิ่งหนีมาล้มลงตรงนั้น ก่อนจะถูกรุมกัดจนเสียชีวิตอยู่ใกล้ๆ กรงขังพวกมัน และยังพบรอยเลือดของเหยื่อพิตบูลรายอื่นๆ หยดเป็นทาง นอกจากนี้ ยังพบสุนัขพันธุ์ไทยชื่อ "เจ้าแจ๊ก" ที่ถูกหมาพิตบูลขย้ำตายจมเขี้ยวอีก 1 ตัว
เซ่นความดุร้ายของสุนัขสายพันธุ์ "อเมริกันพิตบูลเทอร์เรีย"
นางเจริญศรีย้อนเหตุการณ์ให้ฟังว่า เลี้ยงสุนัขไว้เฝ้าโรงสี 11 ตัว เป็นสุนัขพันธุ์ไทย 7 ตัว พันธุ์อเมริกันพิตบูลเทอร์เรีย 4 ตัว ที่ดุคือสุนัขพันธุ์พิตบูลเทอร์เรีย ชื่อ จูม่ง อายุ 2 ปี, โคล่า อายุ 1 ปี เป็นตัวผู้ และ แพนด้า ตัวเมีย อายุ 1 ปี ปกติจะปล่อยออกจากกรงในตอนค่ำ แต่วันเกิดเหตุงานยุ่ง จึงลืมปล่อย ซึ่งตอนเที่ยงคืน น.ส.รักษิณา ลูกสะใภ้ ได้ลงไปปล่อยสุนัขออกจากกรง เลยถูกสุนัขทั้ง 3 ตัว ที่อาจเครียดเพราะอากาศร้อน ตรงเข้ากัดจนตาย ส่วนสุนัขพันธุ์ไทยอีกตัวชื่อ "เจ้าแจ๊ก" คงเข้าไปช่วยเลยถูกกัดไปด้วย
"ตอนเกิดเหตุฉันกำลังเลี้ยงหลานอยู่ ตอนนั้นเห็นลูกสะใภ้หายไปนานผิดปกติ จึงอุ้มหลานออกเดินตาม เมื่อมาถึงด้านหลังสำนัก งาน ก็ถูกสุนัขทั้ง 3 ตัว ซึ่งไม่รู้โผล่มาจากไหน รุมกัดจนสู้ไม่ไหว จึงอุ้มหลานใส่หลังกระบะรถที่จอดอยู่ข้างกรง และร้องเรียกให้คนช่วย แต่หลานก็ยังไม่วายโดนกัดจนได้ จนกระทั่งสามีกับลูกชายได้ยินเสียงจึงวิ่งออกมาดู โดยที่ลูกชายก็โดนกัดไปอีกราย สุดท้ายสามีจึงใช้ปืนยิงหมาตายไป 2 ตัว แต่ก็หนีไปได้ 1 ไม่น่าเชื่อว่าสุนัขพวกนี้จะดุร้ายขนาดนี้ เพราะปกติแล้วลูกสะใภ้จะคุ้นเคยกับพวกมันมาก นี่แสดงว่าสุนัขอาจจะเครียดที่ปล่อยจากกรงช้า และอากาศร้อนอบอ้าวเลยไล่กัดคนอย่างบ้าคลั่ง" นางเจริญศรี กล่าวเสียงสั่น
คดีนี้ตำรวจไม่ได้ตั้งข้อหาใคร เนื่องจากเป็นเหตุสุดวิสัย อีกทั้งคนในบ้านยังอยู่ในอาการเศร้าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เป็นฝันร้ายของครอบครัว "หล่อเลิศรัตน์" ที่คาดไม่ถึง!!
ศพของน.ส.รักษิณา ญาตินำไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดท่าตะโก จ.นครสวรรค์ ท่ามกลางความสลดหดหู่ เจ้าของสุนัขพิตบูลฝากไปยังผู้เลี้ยงสุนัขพันธุ์ทั้งหลายด้วยความห่วงใย ว่าอย่าประมาทกับสุนัขที่เลี้ยงไว้ ต้องระมัดระวังให้ดี โดยเฉพาะเด็กและผู้หญิงไม่จำเป็นอย่าให้เข้าใกล้ เพราะอาจเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นได้
น.สพ.อลงกรณ์ มหรรณพ น.สพ.ช่วยราชการสำนักพระราชวัง ออกมาให้คำแนะนำการเลี้ยงสุนัขในช่วงหน้าร้อนและช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง ว่า ขอให้เจ้าของสุนัขเป็นผู้สังเกตพฤติกรรมสุนัขของตนเอง โดยผู้เลี้ยงทุกคนจะต้องมีแหล่งเย็นให้กับสุนัข และรู้จักธรรมชาติของสายพันธุ์สุนัขที่เลี้ยงไว้ อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นขอให้สังเกตอาการร้อนของสุนัข หากพบว่าสุนัขอ้าปากหายใจ ลิ้นมีสีแดง ปลายลิ้นมีน้ำลายใสๆ หยดตลอดเวลา จมูกมีน้ำเกาะ มีน้ำมูกใสๆ ไหลจากจมูก หายใจหอบขึ้นลงเห็นได้ชัด แสดงว่าสุนัขร้อนจัด ต้องหาทางช่วยโดยทำได้หลายวิธี เช่น เปิดพัดลม ใช้กระบอกฉีดน้ำแบบฝอยฉีดช่วย หรือสุนัขบางพันธุ์อาจให้ลงแช่น้ำหรือให้อาบน้ำก็ได้ แต่ต้องไม่ให้เย็นจนเกินไป เพราะสัตว์อาจป่วยเป็นปอดบวมเฉียบพลันได้ นอกจากนี้ ในสัตว์ที่ไม่ชอบน้ำ เช่น แมว อาจใช้ผ้าชุบน้ำเย็นลูบตามตัวได้
น.สพ.อลงกรณ์ กล่าวอีกว่า เจ้าของสุนัขจะเป็นผู้ที่รู้คนแรก ว่าสุนัขของตนเองร้อนหรือรู้สึกเครียด ซึ่งความเครียดอาจไม่ได้เกิดจากอากาศเพียงอย่างเดียว อาจเกิดจากสภาวะอื่นได้ เช่น เลี้ยงในกรงเล็ก ไม่ได้ทำความสะอาด หรือถึงเวลาปล่อยแล้วไม่ปล่อย สัตว์จะเกิดไม่สบายและเครียดได้ ในกรณีที่เจ้าของไม่ใส่ใจในกรงเลี้ยง มีอุจจาระ ปัสสาวะ หรือเศษอาหารตกหล่น ยิ่งสะสมและเพิ่มความเครียดให้กับสัตว์เลี้ยงมากขึ้น
นอกจากนี้ หากสัตว์ถูกแหย่ขณะที่อยู่ในกรงขัง เมื่อหลุดออกจากกรงขัง โอกาสที่จะวิ่งเข้าไล่กัดนั้นมีมาก ทั้งนี้ ขอแนะนำผู้ที่รักสุนัข ไม่ควรนำสุนัขพันธุ์ต่างประเทศที่กรมปศุสัตว์ห้ามเข้ามาเลี้ยง ซึ่งสุนัขพันธุ์พิตบูลและร็อตไวเลอร์ เป็นพันธุ์ที่ห้ามนำเข้ามาเลี้ยง
"ร็อตไวเลอร์เป็นสุนัขที่ถูกฝึกเพื่อเฝ้ายามแทนคน ส่วนพันธุ์พิตบูลเทอร์เรียถูกฝึกมาเพื่อกีฬากัดสุนัขโดยเฉพาะ ดังนั้น แม้ว่าเราจะเลี้ยงอย่างดี ฝึกให้เชื่องอย่างไรก็ยังควรเฝ้าระวังอยู่ หากคนไทยต้องการเลี้ยงสุนัขขอให้เลือกเลี้ยงสุนัขพันธุ์ไทยจะดีกว่า" หมออลงกรณ์ กล่าว
การเลี้ยงสัตว์ต้องมาพร้อมความรับผิดชอบต่อสังคม
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
