เมื่อวันที่ 6 เม.ย. ศ.พ.ญ.บุญมี สถาปัตยวงศ์ ประธานคณะอนุกรรมการจัดสอบคัดเลือกระบบรับตรงของกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (กสพท.) ปีการศึกษา 2552
เปิดเผยว่ากสพท. ได้ประมวลผลการคัดเลือกระบบรับตรงของ กสพท. เรียบร้อยแล้ว และประกาศผลผ่านเว็บไซต์ กสพท. www.cotmes.org และผ่านทางเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยในกลุ่ม กสพท. ทั้ง 12 แห่ง ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยขอนแก่น(มข.) มหาวิทยาลัยเชียงใหม่(มช.) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์(มธ.) มหาวิทยาลัยนเรศวร(มน.) คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล(มม.) คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มม. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มอ.) มหาวิทยาลัยรังสิต วิทยาลัยแพทยศาสตร์กรุงเทพ มหานครและวชิรพยาบาล และวิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า ตั้งแต่วันที่ 5 เม.ย.เวลาประมาณ 18.00 น.
ซึ่งปีนี้มีจำนวนผู้ผ่านการคัดเลือกทั้งสิ้น 1,491 คน จากผู้สมัครทั้งหมดประมาณ 22,000 คน
ทั้งนี้ ขอให้ผู้สมัครสอบทุกคนต้องตรวจสอบรายชื่อด้วยตนเอง เพราะสถาบันแต่ละแห่ง จะกำหนดวันและเวลาสอบสัมภาษณ์ไว้ในเว็บไซต์ ซึ่งหากผู้มีรายชื่อสอบสัมภาษณ์ไม่ไปแสดงตนตามเวลาที่กำหนด จะถือว่าสละสิทธิ์การเข้าศึกษาต่อใน กสพท. และจะไม่มีสิทธิ์เข้ารับการคัดเลือกในรอบที่ 2 หากมีการเปิดรับถ้าสถาบันรับไม่เต็มจำนวนหรือมีผู้สละสิทธิ์ โดยการสอบสัมภาษณ์นั้น มหา วิทยาลัยเกือบทุกแห่ง คาดว่าเริ่มดำเนินการในวันอังคารที่ 7 เม.ย.นี้
"ถ้ารับนักศึกษาไม่ได้ตามที่ตั้งเป้าไว้ กสพท. จะคัดเลือกผู้มีสิทธิ์เข้ารับการสัมภาษณ์ และตรวจร่างกายเพิ่มเติมจากผู้สมัครเดิม โดยจะให้สิทธิ์เฉพาะผู้ที่ยังไม่ได้รับการคัดเลือกเข้าศึกษาในสถาบันใดๆ และเมื่อได้รายชื่อผู้มีสิทธิ์เข้าศึกษาแล้ว กสพท.จะส่งรายชื่อผู้ได้รับคัดเลือก ไปยังสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.) เพื่อตัดสิทธิ์จากระบบแอดมิชชั่นเพื่อป้องกันรายชื่อซ้ำซ้อน" ศ.พ.ญ.บุญมี กล่าวและว่า คะแนนในปีนี้ต่ำกว่าปีที่ผ่านมาเล็กน้อย แต่ถ้าเปรียบเทียบทั้งหมด ไม่ได้แตกต่างจากปีที่ผ่านมามาก เนื่องจากปีนี้คะแนนการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นสูง (เอเน็ต) ต่ำ ซึ่งการสอบคัดเลือกกลุ่ม กสพท. ต้องใช้สัดส่วนคะแนนเอเน็ตร้อยละ 70 ทำให้คะแนนของผู้ผ่านการคัดเลือกเข้าศึกษาต่อในกลุ่มกสพท.ต่ำไปด้วย ส่วนนักเรียนที่ได้คะแนนสอบสูงสุดอันดับแรก คือ นายสิทธิ์ อัศววรฤทธิ์ นักเรียนจากโรงเรียนเตรียมอุดม ศึกษา ได้คะแนน 79.1271 จาก 100 คะแนนเต็ม ซึ่งเลือกเข้าเรียนต่อในคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ
ด้านนายสิทธิ์ อัศววรฤทธิ์ อายุ 18 ปี นักเรียนร.ร.เตรียมอุดมศึกษา ซึ่งเป็นผู้สอบได้ที่ 1 ในกลุ่มกสพท.และที่ 1 คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ
เปิดเผยถึงเคล็ดลับการเรียนว่าเตรียมตัวให้พร้อมสอบเสมอ และเหนือสิ่งอื่นใดการจะทำอะไรก็ตามให้ดีได้ต้อง 1.มีความสุข 2.ทำให้ดีที่สุด และถ้าจะเรียนให้ดี ก็ต้องมีความสุขกับการเรียน และตั้งใจเรียนให้ดีที่สุด สำหรับนายสิทธิ์ เป็นบุตรชายของ น.พ.วิชิต อัศววรฤทธิ์ แพทย์ผู้ชำนาญการพิเศษ สาขาอายุรกรรม โรงพยาบาลสิงห์บุรี และ ทพ.ญ.สุจินดา อัศววรฤทธิ์ มีพี่ชายคือ นายพฤทธิ์ อัศววรฤทธิ์ ปัจจุบันเป็นนิสิตชั้นปีที่ 3 คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ส่วนน้องชาย คือ นายสรรค์ อัศววรฤทธิ์ ปัจจุบัน นักเรียนชั้น ม.5 ร.ร.เทพศิรินทร์