ฝนถล่มกรุงซัดต้นไม้ ป้ายโฆษณาล้มระเนระนาด ปลิวใส่รถยนต์ บ้านเรือนประชาชนพังเสียหายไปตามๆ กัน เขตบางซื่อ จตุจักร เตา ปูน ประชาชื่น และดอนเมืองโดนอ่วมทั้งลมทั้งฝน หน้าขนส่งหมอชิคต้นไม้ล้มหลายต้น ปลิวไปโดนรถยนต์เสียหายหลายคัน เขตจตุจักรป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ ล้มทับบ้านเรือนพัง 7 หลัง ต้องระดมเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือเป็นพัลวัน หลายท้องที่ไฟฟ้าดับ กรมอุตุฯ ประกาศเตือนระวังพายุฤดูร้อนในช่วงนี้ 7-11 เม.ย. อาจมีอีก
เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 5 เม.ย. ผู้สื่อข่าวราย งานว่า ได้เกิดพายุฝนถล่มกรุงเทพมหานคร บริเวณ กว้าง โดยเฉพาะเขตจตุจักร บางซื่อ พญาไท สร้างความเสียหายแก่บ้านเรือนราษฎร ป้ายโฆษณา และรถยนต์ ที่วิ่งสัญจรไปมาในช่วงที่ฝนตก ส่งผลทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นหลายราย การจราจรติด ขัดหลายเส้นทาง
โดยที่บริเวณถนนกำแพงเพชร หน้าสถานีขนส่งหมอชิต พบว่ามีต้นนนทรีขนาดใหญ่ ความสูงประมาณ 5-7 เมตร ที่ปลูกอยู่สองข้างทาง กว่า 70 ต้น ล้มระเนระนาด ยาวกว่า 3 กิโลเมตร ทำให้การจราจรติดขัดนานนับชั่วโมง เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรต้องทำงานกันอย่างหนัก สำหรับ เจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร ต้องระดมเจ้าหน้าที่เข้าตัดต้นไม้ ที่ล้มกีดขวางการจราจรกันอย่างเร่ง ด่วน
นายสมชาติ นงค์ลักษ์ประเสริฐ อายุ 44 ปี โช เฟอร์แท็กซี่โตโยต้า สีชมพู หมายเลขทะเบียน ทพ-7088 กทม. ของสหกรณ์แท็กซี่ กล่าวว่า ตนขับรถมารับผู้โดยสาร ที่ขนส่งหมอชิตและกำลังไปส่งที่ย่านจรัญสนิทวงศ์ หลังจากนั้นได้ขับรถออกมาบนถนนกำแพงเพชรขาออก ช่วงนั้นพายุ ฝนกำลังตกหนัก ตนได้ขับมาอยู่ช่องเลนซ้ายสุด ขณะนั้นมีรถติดอยู่ ได้ยิงเสียงดังโครมคล้ายมีใครมาทุบรถ ก็พบว่ามีต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มทับรถแท็ก ซี่แล้ว จนกระทั่งเจ้าหน้าที่กทม. ได้นำเลื่อยมาตัดและยกกิ่งไม้ออกให้ พบความเสียหายที่หลังคารถยุบ กระจกด้านหลังแตก
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ห่างจากจุดแรกประ มาณ 200 เมตร พบรถกระบะยี่ห้อนิสสัน นาวาร่า สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน บธ-782 มหาสารคาม ถูกต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มทับบริเวณกระจกมองข้างซ้ายแตก และหลังคาและประตูรถด้านซ้ายยุบ แต่ยังสามารถขับต่อไปได้ ก่อนที่เจ้าของรถจะขับกลับออกไปจากที่เกิดเหตุทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ได้มีพายุฝนตกอย่างหนักทั่วพื้นที่ ในย่านบางซื่อ เตาปูน ประ ชาชื่น บางเขน ดอนเมือง ทำให้การจราจรติดขัดและรถยนต์เกิดอุบัติเหตุชนกัน บางรายถนนลื่นขับตกลงไปในคูน้ำข้างทาง
ที่บริเวณป้ายรถประจำทาง หน้าธนาคารกรุงไทย สาขาประชานิเวศน์ 1 ได้มีต้นไม้ขนาดใหญ่หักโค่นลงมาขวางถนนประชานิเวศน์ 1 ที่ใช้สัญจรไปมา ทำให้การจราจรในช่วงนั้นติดขัด เป็นเหตุให้รถไม่สามารถสัญจรได้อย่างสะดวก ถัดไปบริเวณหน้าสวนสาธารณะ สามเหลี่ยมประชานิเวศน์1 ต้นไม้ขนาดใหญ่หลายต้น หักโค่นลงมาทับช่องทางการจราจรเช่นกัน ทำให้รถเมล์และรถอื่นๆ ไม่สามารถสัญจรไปมาได้ในช่องทางด้านซ้าย จนกระทั่งเวลาผ่านไปฝนได้หยุดตก จึงมีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร นำเครื่องมือมาตัดกิ่งไม้ที่หักโค่นเพื่อเปิดช่องการทางการจราจรให้รถสัญจรไปมาได้สะดวก นอก จากนี้ ระหว่างที่เกิดฝนฟ้าคะนองขึ้นมานั้น ฟ้าได้ผ่าลงมาที่ห้องสืบสวนสน.ประชาชื่น ทำให้อุปกรณ์ การสื่อสารภายในห้องมีกลิ่นไหม้จนไม่สามารถใช้การได้ทั้งหมด
พายุถล่ม ต้นไม้หัก ป้ายโค่น อ่วมกรุง
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ ล้มทับบ้านเรือนประชาชน จำ นวนหลายหลังคาเรือน ภายในชุมชนเคหะเจริญชัย ถ.กำแพงเพชร 7 แขวงและเขตจตุจักร จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ พบว่าชุมชนดังกล่าวอยู่ใกล้กับหมู่บ้านบ้านกลางกรุง ประชาชื่น โดยบ้านที่ได้รับความเสียหาย เป็นบ้านไม้ 2 ชั้น จำนวน 7 หลัง ถูกโครงเหล็กของป้ายโฆษณา หมู่บ้านจัด สรรแห่งหนึ่ง ซึ่งมีขนาดสูงประมาณตึก 5 ชั้น ล้มใส่จนหลังคาและผนังชั้น 2 ของบ้านได้รับความเสียหาย โดยหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัย จากสถานีดับเพลิงลาดยาว ได้รีบรุดมาที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งประสานเจ้าหน้าที่การไฟ ฟ้าให้ตัดไฟฟ้า จากนั้นจึงแจ้งเจ้าหน้าที่เขตจตุจักร ให้มาช่วยดำเนินการรื้อถอนและติดต่อเจ้าของป้ายโฆษณาดังกล่าว มาดำเนินการชดใช้ค่าเสียหาย ต่อไป
นางกานดา จั่นจินดา อายุ 39 ปี เจ้าของบ้านเลขที่ 14/54 ซึ่งโชคร้ายถูกป้ายล้มทับบ้านจนพังยับทั้งหลัง เปิดเผยว่า ตนมีอาชีพเก็บของเก่าขาย โดยก่อนเกิดเหตุนอนเล่นอยู่ในบ้าน พร้อมด้วย นายแสงทอง จั่นจินดา อายุ 59 ปี สามี และ ด.ญ.ศิริกัญญา จั่นจินดา อายุ 3 ขวบ บุตรสาว ช่วงนั้นมีฝนตกลงมาและมีลมกระโชกแรงมาก สักพักก็มีเสียงดังโครม จากนั้นก็มีเหล็กทะลุหลัง คาลงมาจนบ้านพัง โดยสามีตนถูกเหล็กทับที่ไหล่ได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ยังกัดฟันพากันคลานออกมาจากซากบ้านได้อย่างปลอดภัย ทั้งนี้ ป้ายดังกล่าวมีอายุหลายปีแล้ว เพราะตนมาอยู่ 10 กว่าปี ป้ายดังกล่าวก็ตั้งอยู่ก่อนแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า จากการสังเกตบริเวณฐานโครงเหล็กของป้ายดังกล่าว พบว่ายังคงยึดติดแน่นอยู่ในพื้นดิน ไม่ได้ถูกถอนตามขึ้นไปด้วย คาดว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากอายุของโครงเหล็กที่ใช้งานมาหลายปี ทำให้จุดยึดต่างๆ เริ่มจะไม่แข็งแรง พอมาเจอลมแรงมากจึงไม่สามารถต้านทานได้ โดยจากการสอบถามผู้ที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ลมที่พัดมาอย่างแรง มีลักษณะม้วนตัวคล้ายพายุหมุน ซึ่งเมื่อมาปะทะกับป้ายก็ทำให้ป้าย โอนเอนไปมา ก่อนที่จะล้มครืนลงมาในที่สุด
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวจากกรมอุตุนิยมวิทยา กรณีพายุฝนที่พัดกระหน่ำทั่วกรุงเทพฯ และในหลายจังหวัดของประเทศไทย ว่า จะมีฝนตกต่อไปอีก 1-2 วัน เนื่องจากความกดอากาศสูงจากประเทศจีน ยังคงแผ่ปกคลุมประเทศไทย จึงทำให้เกิดพายุฤดูร้อนทั่วทุกภาคของประเทศ เกิดฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ในระหว่างบ่ายถึงค่ำ บางพื้น ที่อาจเกิดลูกเห็บ ขอให้ประชาชนระวังอันตราย และหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งหรือใต้ต้นไม้สูงเด่น ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่หรือสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง รวมทั้งควรงดใช้เครื่องมือสื่อสารหรือวัตถุ ที่อาจเป็นสื่อนำไฟฟ้าในขณะที่เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง
ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 5 เม.ย. บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีน ยังคงแผ่ปกคลุมประเทศไทย โดยมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองและลมกระ โชกแรงเกิดขึ้นได้ต่อไปอีก สำหรับภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากลมกระโชกแรงในระยะนี้
ส่วนการพยากรณ์อากาศในช่วง 7 วันข้างหน้า เป็นดังนี้ ช่วงวันที่ 5-6 เม.ย. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมทะเลจีนใต้และประเทศไทย ตอนบนมีกำลังอ่อนลง เป็นตามลำดับ และมีลมใต้กับลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยและอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนน้อยลงและอากาศร้อนขึ้น ส่วนภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย
หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 7-11 เม.ย. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีน จะแผ่เสริมลงมาปกคลุมด้านตะวันออกของประเทศไทย ในขณะที่บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อน ลักษณะเช่นทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และอาจมีลูกเห็บตกได้บางพื้นที่ โดยในวันที่ 7-11 เม.ย. ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อน
กรมอุตุนิยมวิทยา ได้รายงานว่า ปริมาณฝนสะสมสูงสุดที่พบเมื่อวันที่ 5 เม.ย. ตั้งแต่เวลา 07.00 น.-19.00 น. คือภาคตะวันออกที่สถานีอบต.ซากบก จังหวัดระยอง มีปริมาณน้ำฝน 86.5 ม.ม. รองลงมาที่อบต.คลองพลู จังหวัดชลบุรี ปริมาณน้ำฝน 80.5 ม.ม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ อบต.โนนสะอาด จังหวัดสกลนคร 63.5 ม.ม. กรุงเทพและปริมณฑล มากที่สุดอยู่ที่ อบต. นพรัตน์ จังหวัดนนทบุรี 48.0 มม. ภาคใต้อบต. ท่าซอม จังหวัดนครศรีธรรมราช 58.5 ม.ม. ภาคเหนือที่อบต.คลองลานพัฒนา จังหวัดกำแพงเพชร 11.0 ม.ม.