จากการที่มีกระแสวัยรุ่นและผู้ใหญ่ไทยอยากมีผิวขาวใสและไร้ริ้วรอยเหี่ยวย่น จนมีการใช้ผลิตภัณฑ์และเทคนิคต่างๆ ที่อาจเป็นอันตรายได้ จนสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาต้องออกมาเตือนอยู่เสมอ
นายแพทย์ประวิตร พิศาลบุตร แพทย์โรคผิวหนัง ที่ปรึกษาประจำคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า
ค่านิยมอยากมีผิวขาวจัดนั้นไม่เหมาะสมสำหรับคนไทยที่อยู่ในภูมิอากาศที่มีแสงแดดจัดทั้งปี ใต้ผิวหนังมีเม็ดสีเพื่อทำหน้าที่ป้องกันแสงแดด คนผิวขาวมีเม็ดสีขนาดเล็ก จึงได้รับผลเสียจากแสงแดดมากกว่า ผลเสียทันทีคือ ทำให้โรคผิวหนังจำนวนมากกำเริบ เช่น ผิวไหม้แดด ผิวคล้ำลง โรคเอสแอลอีที่มีอาการปวดข้อและมีผื่นแดงรูปปีกผีเสื้อที่แก้ม สิว เริม ฝ้า-กระเข้มขึ้น ผลเสียระยะยาวคือ ผิวเหี่ยวแก่ และมะเร็งผิวหนัง คนไทยจัดว่าเป็นชาติพันธุ์ที่มีผิวสวย และเหมาะสมกับการดำรงชีวิตอยู่แล้ว จึงพบเสมอว่า เวลาคนไทยอายุเกิน 30 ปีจะเข้าบาร์ที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในต่างประเทศ จะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าเพราะดูเด็กกว่าเกณฑ์เฉลี่ยของฝรั่ง
นพ.ประวิตร กล่าวว่า
กระแสคลั่งอยากมีผิวขาวนั้น ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นจากค่านิยมที่จะต้องเป็นเจ้าคนนายคน ต้องนั่งทำงานในห้องแอร์ และการตีความสำนวนไทย “คบคนให้ดูหน้า ซื้อผ้าให้ดูเนื้อ” ผิดพลาด โดยเข้าใจว่าเน้นที่หน้าตา ทั้งที่ความหมายจริงนั้นเน้นจิตใจมากกว่า และส่วนหนึ่งมาจากการโหมโฆษณาเครื่องสำอางทำให้ผิวขาวที่มีงบโฆษณาสูงมาก บริษัทเครื่องสำอางจึงควรแสดงความรับผิดชอบโดยการพิมพ์ผลเสียของแสงแดดไว้ที่กล่องบรรจุ เช่นเดียวกับที่ซองบุหรี่มีคำเตือนว่า การสูบอาจทำให้เป็นมะเร็งปอด และการสูบบุหรี่ทำให้แก่เร็ว
นพ.ประวิตร กล่าวว่า
ยาและเทคนิคปรับลีลาชีวิต (lifestyle drugs) ที่นิยมกัน เช่น ยาปลูกผม ยาลดไขมัน ยาทำให้ผิวขาว ยาฉีดลบรอยย่น (คือสารพิษโบทูลินัม) ปัจจุบันพบกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการคลั่งอยากรับการฉีดสารพิษโบทูลินัม (botulinophilia) จัดว่าอาการคลั่งชนิดนี้เป็นข้อห้ามของการฉีดยาตัวนี้ พบว่าการใช้ยาและเทคนิคปรับลีลาชีวิตมากเกินไป อาจเป็นความผิดปกติทางจิตใจที่เรียกว่า body dysmorphic disorder ซึ่งผู้ป่วยจะกังวลว่ามีความผิดปกติของผิวหนัง หรืออวัยวะไม่ได้สัดส่วน บางคนกังวลเรื่องผมบาง ขนดก รูขุมขนโต ผิวไม่ขาว หน้าเหี่ยวย่น
ที่น่าเป็นห่วงคือ
พบอาการซึมเศร้ารุนแรงในผู้ป่วยกลุ่มนี้ได้บ่อยและมีแนวโน้มจะฆ่าตัวตายสูง แพทย์เองก็ต้องวินิจฉัยผู้ป่วยที่คลั่งการใช้ยาและเทคนิคปรับลีลาชีวิต ที่มีอาการทางจิตร่วมด้วยให้ได้เร็วที่สุด ห้ามให้การรักษาโดยการจ่ายยา, ผ่าตัด หรือใช้เทคนิคการเสริมความงามอื่นๆ แก่ผู้ป่วยโรคนี้ เพราะจะยิ่งเป็นการตอกย้ำให้ผู้ป่วยมั่นใจว่าตนเองมีความผิดปกติทางรูปลักษณ์จริง และขาดโอกาสในการได้รับการเยียวยาทางจิตใจ
หมอเตือนให้ระวังกระแสคลั่งยา มีผลร้ายต่อกายและใจ
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ หมอเตือนให้ระวังกระแสคลั่งยา มีผลร้ายต่อกายและใจ