ปรับเงินเดือน 6 รัฐวิฯ

แฉพฤติกรรมผู้บริโภคที่นำ"เช็คช่วยชาติ"ไปจับจ่ายใช้สอบในห้างดัง ส่วนใหญ่เลือกซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย ผอ.อาวุโส “เดอะมอลล์กรุ๊ป”

เผย มีลูกค้าผู้หญิงถึงร้อยละ 70 ส่วนใหญ่ซื้อสินค้าความงาม ทั้งเครื่องสำอาง เสื้อผ้า เครื่องประดับ ด้านผู้บริหารเครือเซ็นทรัล ชี้ สัดส่วนลูกค้าชายหญิงใกล้เคียงกัน แต่สินค้าขายดีสุดอันดับแรก เป็นเครื่องสำอาง ส่วนห้างท็อปส์ เผย 4 สินค้าท็อปฮิตในกลุ่มอุปโภคบริโภค น้ำอัดลม-อาหารพร้อมกิน-เครื่องปรุง-ของสด ขณะที่นโยบายต้นกล้าอาชีพเริ่มกร่อย “กอร์ปศักดิ์” สั่งยุบรวมหลักสูตรซ้ำซ้อน พนง.รัฐวิสาหกิจ เกรดเอ 6 แห่ง เฮ ครส.สวนกระแสเศรษฐกิจ อนุมัติเพิ่มเงินเดือน-สวัสดิการเพียบ แบงก์ออมสินเงินเดือนขึ้นร้อยละ 12.5 ขณะที่ กฟผ.-กทพ.-กปน.-กคช.-การท่าเรือฯ ได้เพิ่มค่าห้อง-อาหารโรงพยาบาล ส่วน พนง.รสก. ทำงานครบ 15 ปี ได้เพิ่มค่าทำงานดีเป็น 300 วัน “ไพฑูรย์” เตรียมชงเข้า ครม.อนุมัติ
 
ความคืบหน้ากรณีนโยบาย “เช็คช่วยชาติ” 2,000 บาท ของรัฐบาล เมื่อวันที่ 3 เม.ย.

นายชำนาญ เมธปรีชากุล ผู้อำนวยการใหญ่อาวุโสสายการตลาด บริษัท เดอะมอลล์กรุ๊ป จำกัด กล่าวถึงลูกค้าที่นำเช็คช่วยชาติมา ซื้อของในห้างฯ ว่า ที่ผ่านมามีลูกค้าสตรีนำเช็คช่วยชาติ มาจับจ่ายซื้อสินค้าที่ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ และในเครือคิดเป็นร้อยละ 70 ในจำนวนนี้มีลูกค้าสตรีที่เลือกซื้อสินค้าเกี่ยวกับความสวยความงาม อาทิ เครื่องสำอาง เสื้อผ้า เครื่องประดับ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 30
 
ด้าน น.ส.บุษบา จิราธิวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า

บริษัทในเครือเซ็นทรัล อาทิ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล, โรบินสัน, ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต ฯลฯ เปิดรับเช็คช่วยชาติ มาตั้งแต่วันที่ 26  มี.ค. ถึงวันที่ 2 พ.ค.นี้ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 30 ล้านบาท โดยสัดส่วนลูกค้าผู้หญิง กับผู้ชายค่อนข้างใกล้เคียงกัน ผู้หญิงอยู่ที่ร้อยละ 60 ผู้ชายร้อยละ 40 ประเภทสินค้า 3 อันดับแรกที่กลุ่มผู้รับเช็คช่วยชาติเลือกซื้อมากที่สุด คือ 1.เครื่องสำอาง 2.เสื้อผ้าวัยรุ่น โดยเฉพาะแผนกยีน รองเท้า กระเป๋า ซึ่งเป็นสินค้าที่ไม่ฉูดฉาดนัก เป็นรุ่นที่ใส่ได้นาน และ 3.สินค้าเด็ก มีตัวเลขรวมเช็คช่วยชาติจากห้างสรรพสินค้าทั้งสองแห่งประมาณ 5,000 ฉบับ
 
นายโยธิน ธรรมจำรัส ผู้บริหารท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต กล่าวว่า ในส่วนของสินค้าอุปโภคบริโภค ที่ลูกค้านำเช็คช่วยชาติมาซื้อในท็อปส์ฯ สูงสุด 4 อันดับแรก
ได้แก่ 1.กลุ่มเครื่องดื่มน้ำอัดลมขนาดลิตร 2.กลุ่มอาหารปรุงสำเร็จรูป ทั้งในรูปพร้อมรับประทาน แช่แข็ง และอาหารพร้อมปรุง 3.กลุ่มเครื่องปรุง อาทิ น้ำตาลทราย น้ำมันพืช และซอสปรุงรส และ 4.อาหารสด โดยเฉพาะเนื้อหมู เป็นต้น

ด้านนายปั้น วรรณพินิจ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กล่าวว่าตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.-2 เม.ย.

มีผู้ประกันตนที่มาขอรับเช็คช่วยชาติแล้วมากกว่า 4 ล้านคน เป็นเงินกว่า 8,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตามในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ สปส.จะหยุดให้บริการจ่ายเช็คตั้งแต่วันที่ 10-14 เม.ย.และจะเปิดให้บริการใหม่อีกครั้งในวันที่ 15 เม.ย.และหลังจากวันที่ 15 เม.ย. สปส.จะให้บริการในวัน และเวลาราชการเท่านั้น 
  
ส่วนนโยบาย “ต้นกล้าอาชีพ” ช่วยเหลือคนตกงาน นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหาในการดำเนินการโครงการต้นกล้าอาชีพแล้ว

เพื่อให้โครงการนี้เดินหน้าได้ต่อเนื่อง แม้จะล่าช้าไปบ้าง 1-2 สัปดาห์ แต่ยืนยันว่าไม่ล้มเหลวแน่นอน ที่สำคัญยังเป็นการเพิ่มทักษะและฟื้นฟูให้แรงงานมีงานทำ ซึ่งเป็นมาตรการสำคัญในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาล ทั้งนี้ยอมรับว่าหลักสูตรฝึกอบรมที่มีมากกว่า 900 หลักสูตรนั้นมากเกินไป ตนสั่งการให้ยุบรวมโดยนำหลักสูตรที่ใกล้เคียงกันมาไว้ด้วยกันเพื่อให้ชั้นเรียนมีขนาดใหญ่ขึ้น ส่วนหลักสูตรใดที่ไม่เป็นที่สนใจก็ยกเลิกไป ทำให้การเปิดอบรมบางหลักสูตรต้องล่าช้าออกไปเป็นวันที่ 5, 7 และ 10 เม.ย. ซึ่งเจ้าหน้าที่จะส่งข้อความสั้นแจ้งไปยังผู้ฝึกอบรมให้ชัดเจนอีกครั้ง
 
ที่กระทรวงแรงงาน นายไพฑูรย์ แก้วทอง รมว.แรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรม การแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (ครส.) กล่าวภายหลังการประชุมครส.ว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้พนักงานรัฐวิสาหกิจ 6 แห่ง

ได้รับเงินเดือน และสวัสดิการเพิ่มขึ้นจากเดิม ตามที่มีการเสนอมา ประกอบด้วย 1.ธนาคารออมสิน ปรับโครงสร้างเงินเดือนพนักงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.5 ของเงินเดือน เพราะขณะนี้เงินเดือนของพนักงานต่ำกว่าพนักงานในกลุ่มธุรกิจเดียวกัน 2.พนักงานการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ตั้งแต่ระดับ 9 ขึ้นไปได้รับการเปลี่ยนวิธีพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือน จากขั้นวิ่งเป็นแบบร้อยละ 3.พนัก งานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ปรับสวัสดิการค่าห้อง และค่าอาหารในกรณีเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลทั้งของรัฐ และเอกชน เฉพาะพนักงานที่เข้างานก่อนวันที่ 1 ต.ค. 2548 รวมถึงบิดา-มารดา จาก 800 บาท เป็น 1,000 บาทต่อวัน
 
นายไพฑูรย์ กล่าวต่อว่า 4.พนักงานการท่าเรือแห่งประเทศไทย รวมถึงพนักงานบำนาญ ได้รับการปรับสวัสดิการค่าห้อง และค่าอาหารจากวันละ 800 บาท เป็น 1,200 บาทต่อวัน 5.พนักงานการประปานครหลวง (กปน.) และ 6.การเคหะแห่งชาติ (กคช.) ปรับสวัสดิการค่าห้องและค่าอาหารเป็นวันละ 1,200 บาท เช่นกัน นอกจากนี้ที่ประชุม ยังเห็นชอบให้ปรับขึ้นค่าตอบแทนความดีความชอบของพนักงานรัฐวิสาหกิจ ที่ทำงานครบ 15 ปี จากเดิมที่ให้ค่าตอบแทนเป็นเงิน 240 วัน เพิ่มเป็น 300 วัน โดยจะเสนอความเห็นให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาเพื่ออนุมัติอีกครั้ง.

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์