รวบแก๊งตร.โจร อุ้มเหยื่อรีดทรัพย์ ยัดข้อหาค้ายา-ขู่วิฯ

"คนร้ายแก๊งนี้จะถูกดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันปล้นและกรรโชกทรัพย์ ถึงแม้ผู้ต้องหาจะพยายามให้การปฏิเสธก็ตาม แต่ก็คงหนีไม่พ้นพยานหลักฐานที่เรามี คดีนี้ซ้อนแผนจับกุมคนร้ายเอาไว้ได้ ขณะที่พวกนี้ร่วมกันข่มขู่กรรโชกทรัพย์เหยื่อ แล้วขู่จะพาไปยิงทิ้ง แต่เหยื่อไหวตัวทัน เลยมาแจ้งเจ้าหน้าที่ซ้อนแผนจับกุม"

คือ คำกล่าวของพ.ต.ต.กิตติศักดิ์ พฤกษ์สุวัฒน์ สว.สส.สน.บางพลัด ที่อธิบายที่มาการจับกุมคนร้ายแก๊งปล้นและกรรโชกทรัพย์ที่มีผู้ต้องหาถึง 4 ราย ซึ่ง 1 ในนั้นเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดกก.ศสส.ภาค 7 ที่เป็นหัวหน้าแก๊ง นำทีมอุ้มเหยื่อไปรีดทรัพย์แล้วขู่เอาไปยิงทิ้งหากไม่จ่าย

สุดท้ายเลยถูกตำรวจซ้อนแผนจับกุมจนได้

พฤติการณ์ของแก๊งอุ้มรีดแก๊งนี้ ลงมือขับรถปาดหน้ารถของเหยื่อ ก่อนถือปืนลงไปอุ้มขึ้นรถเพื่อปลดทรัพย์สินได้ไปหลายหมื่นบาท เท่านั้นยังไม่พอ ยังบังคับให้เหยื่อกดเอทีเอ็มเอาเงินไปได้อีกกว่า 8 หมื่น แล้วจึงปล่อยตัวไป แต่ก็ยังไม่หนำใจ โทรศัพท์ไปขู่เอาเงินอีกนัดมารับเงินในเขตท้องที่สน.บางพลัด เหยื่อจึงอาศัยจังหวะเข้าแจ้งความให้ตำรวจไปดักซุ่มยังจุดนัดหมาย

สุดท้ายก็โดนรวบเอาไว้ได้ยกแก๊ง

ย้อนไปดูเหตุการณ์ครั้งนี้ เกิดขึ้นตอนค่ำวันที่ 22 มี.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่นายอนิรุทธ์ ศรีสลับ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 117 ซ.จรัญฯ 79 แขวงและเขตบางพลัด กทม. กับ นายพุทนะ ทองพันธ์ อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 577 ซ.จรัญฯ 79 แขวงและเขตบางพลัด กทม. กำลังขับรถเก๋งฮอนด้าแจ๊ซ สีดำ ผ่านมาถึงบริเวณปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 79 จู่ๆ ได้มีรถแท็กซี่ สีบรอนซ์คาดสีชมพู ขับปาดหน้าอย่างกระชั้นชิดบังคับให้จอด

จากนั้นได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์ 3 คน วิ่งกรูลงมาจากรถพร้อมใช้อาวุธปืนจี้บังคับให้ไปนั่งด้านหลัง ก่อนที่จะขับรถมุ่งหน้าไปตามถนนวิภาวดีฯ ช่วงที่อยู่บนรถคนร้ายอ้างตัวเป็นตำรวจได้รับรายงานจากสายมาว่านายอนิรุทธ์กับนายพุทนะ มีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด หากไม่อยากโดนจับก็ให้หาเงินมาให้ ถ้าไม่ยอมก็จะยัดยาและถูกจับกุม

แต่ถ้าตุกติกอาจถูกทำวิสามัญฆาตกรรมเอาได้ง่ายๆ

ในห้วงนาทีที่ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร นายอนิรุทธ์กับนายพุทนะเกิดกลัวตาย จึงยอมปลดทรัพย์สินเป็นเงินสดจำนวน 4,000 บาท แหวนทอง 1 สลึง 1 วง และ 2 สลึงอีก 1 วง นาฬิกาอีก 1 เรือน รวมถึงโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง 1 เครื่อง ให้คนร้ายไป แต่ทว่าพวกนี้ก็ยังไม่พอใจ ขับรถเข้าไปในปั๊มน้ำมันคาลเท็กซ์ ริมถนนวิภาวดีฯ บังคับให้กดเงินจากตู้เอทีเอ็ม อีก 45,000 บาท รวมมูลค่าทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไป 80,500 บาท ก่อนที่พวกมันจะยอมปล่อยตัวเหยื่อทั้ง 2 ลงจากรถบริเวณปั๊มน้ำมัน

ทั้งคู่จึงรีบเดินทางเข้าแจ้งความ

การรีดทรัพย์ไม่ได้จบสิ้นเพียงแค่นี้ ต่อมาวันที่ 25 มี.ค. คนร้ายยังได้โทรศัพท์ติดต่อนายอนิรุทธ์ เรียกให้ออกมาหาที่ปากซอยจรัญฯ 79 เพื่อข่มขู่เอาเงินอีก โดยย้ำว่าถ้าไม่ออกมาพบจะเดือดร้อน นายอนิรุทธ์จึงยอมออกมาพบกลุ่มคนร้ายและถูกกรรโชกเงินสดไปอีก 8,000 บาท โดยคนร้ายขู่บอกให้เตรียมเงินไว้อีก 10,000 บาท แล้วนำไปให้ที่ปั๊มน้ำมันบางจาก ใกล้ปากซอยจรัญฯ 79

เมื่อเห็นช่องว่าจะเล่นงานโจรกลุ่มนี้ได้ นายอนิรุทธ์จึงแจ้งไปยังพ.ต.ต.กิตติศักดิ์ ให้นำกำลังมาซุ่มรอจับกุม เมื่อถึงเวลานัดหมายคนร้าย 4 คน จึงขับรถเก๋งฮอนด้าแจ๊ซ สีดำ มายังจุดนัดหมาย ตำรวจจึงบุกเข้าชาร์จจับกุมเอาไว้ได้ ประกอบด้วย ส.ต.ท.สรพงษ์ อินจันทร์ ผบ.หมู่ กก.ศสส.ภาค 7 นายรุ่งเรือง ธรรมรักษ์ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17 /8 ถ.วิภาวดีฯ ซ.7 แขวงและเขตจตุจักร กทม. นายจตุพล หม้อเหล็ก 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49 ม.6 ต.เที่ยงแท้ อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท และนายอาทิตย์ เพชรนิล อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10/2 ม.6 ต.ด่านซ้าย อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ พร้อมยึดของกลางรถเก๋งฮอนด้าแจ๊ซเอาไว้พร้อมกับแผ่นป้ายทะเบียนปลอม

ตำรวจจึงแจ้งข้อหาร่วมกันปล้นและกรรโชกทรัพย์เอาไว้ก่อน

ในตอนแรกกลุ่มผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ เนื่องจากจำนนด้วยหลักฐานเป็นทรัพย์สินที่ยึดไปจากผู้เสียหายครั้งแรก ประกอบด้วย บัตรเอทีเอ็ม แหวน นาฬิกา โทรศัพท์มือถือ แต่เมื่อนำตัวส่งให้พ.ต.ต.ประจำ หนุนนาค สวส.สน.บางพลัด สารวัตรเจ้าของคดี ผู้ต้องหากลับให้การปฏิเสธ และยืนยันจะขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนก็ยังมั่นใจในพยานหลักฐานที่มีอยู่ ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถเอาผิดคนร้ายแก๊งนี้ได้อย่างแน่นอน เจ้าหน้าที่จึงสรุปสำนวนส่งฟ้อง พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง รวมทั้งเกรงว่าหากได้รับการประกันตัวไปจะไปก่อกวนยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานอื่น นอกจากนี้ ตำรวจสน.บางพลัด ยังประสานไปยังผู้บังคับบัญชาของส.ต.ท.สรพงษ์ ให้รับทราบเรื่องเพื่อให้ตั้งกรรมการสอบสวนความผิดทางอาญาอีกด้วย และที่สำคัญ เจ้าหน้าที่ยังจะได้ขยายผลอีกว่า คนร้ายแก๊งนี้เคยก่อเหตุที่อื่นอีกหรือไม่ เนื่องจากพฤิตกรรมแบบนี้เคยมีเหยื่อเข้าร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่หลายราย

ใครสงสัยตกเป็นเหยื่อขอดูตัวได้ที่สน.บางพลัด