สลดแม่เฒ่าวัย 76 โดนกองขยะทับตายอนาถในบ้านตัวเอง กว่าคนจะไปพบศพ
ก็ส่งกลิ่นเน่าแล้ว เผยแยกจากบ้านมาอาศัยเพิงใต้สะพานคนเดียว นิสัยชอบตระเวนเก็บขยะจากที่ต่างๆ มากองไว้หน้าบ้านในบ้าน โดยไม่ได้เก็บไว้ขายด้วย นานๆ จึงเอาขยะที่สะสมไว้ไปทิ้งสักที จนชาวบ้านกล่าวหาว่าสติไม่ดี แฉขยะที่ทับผู้ตาย กองสูงประมาณ 1 เมตร ตอนตร.ไปพบศพ มีแต่หน้ากับมือโผล่ออกมา
เหตุการณ์เศร้าสลดเกิดขึ้นเมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 1 เม.ย. พ.ต.ต.นพดล ทาบึงกา พนักงานสอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งมีเหตุคนเสียชีวิตภายในบ้านไม่มีเลขที่ ติดกับสะพานดำ ถนนสายสถานีรถไฟ-วัดพนัญเชิง ม.12 ต.กะมัง อ.พระนครศรีอยุธยา จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ. สมบัติ ชูชัยยะผกก. หน่วยกู้ภัยอยุธยารวมใจ ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
พบบ้านเป็นเพิงไม้ชั้นเดียวขนาดกว้างยาว 3 เมตรติดกับสะพาน มีกลิ่นเน่าเหม็นคลุ้งกระจาย ที่หน้าบ้านมีกองขยะจำนวนมาก เช่นเดียวกับภายในบ้านก็มีกองขยะอยู่ด้วย โดยมีใบหน้าและมือโผล่มาจากกองขยะที่อยู่ในบ้าน
จึงให้เจ้าหน้าที่ช่วยกันขนย้ายขยะที่มีความสูงกว่า 1 เมตรออก จึงพบผู้ตายชื่อน.ส.สวง แสงแก้ว อายุ 76 ปี บ้านเดิมอยู่เลขที่ 78 ม.12 ต.กะมัง อ.พระนครศรีอยุธยา ตามร่างกายไม่พบบาด แผลถูกทำร้าย คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2-3 วัน โดยสาเหตุคาดว่าเพราะถูกขยะทับตาย
จากการสอบถามนางวันทนา เขม่นกิจ อายุ 57 ปี น้องสาวของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า พี่สาวหนีออกจากบ้าน ไปอาศัยหลับนอนอยู่ใต้สะพานโดยไม่ยอมกลับเข้าบ้าน ตนจึงมาปลูกบ้านที่เป็นเพิงดังกล่าวไว้ให้พักอาศัยหลับนอน พี่สาวชอบไปเก็บขยะตามสถานที่ต่างๆ มาเก็บเอาไว้ จนเมื่อมีจำนวนมากจะขนไปทิ้งสักครั้ง
โดยไม่ยอมเอาไปขายที่ไหนด้วย บางครั้งตนต้องแอบขนเอาไปทิ้งอยู่เป็นประจำ ทำอยู่ในลักษณะนี้มานานแล้ว ส่วนเรื่องอาหารการกินทางบ้านได้นำมาส่งให้เป็นประจำ บางครั้งพี่สาวจะไปหาที่บ้านเพื่อรับประทานอาหาร ล่าสุดเพิ่งจะได้รับเงินสงเคราะห์จากเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา จำนวน 500 บาท การที่พี่สาวมาเก็บขยะทุกวัน
เนื่องจากเป็นคนรักความสะอาด ไม่อยากเห็นบ้านเมืองสกปรก จนชาวบ้านเลื่องลือกันว่าเป็นคนสติฟั่นเฟือน สงสารพี่สาวมากไม่คิดว่าจะต้องมาตาย เพราะถูกกองขยะโค่นทับ