เปิดตัวดญ.9ขวบ เก่งอังกฤษทึ่งพูด-อ่านคล่อง

เพชรที่แม่สรวยยากจน-บ้านแตกต้องอยู่กับยาย!เผยอยากเป็นครู

ทึ่งเด็กเก่งวัยแค่ 9 ขวบพูด-อ่านอังกฤษคล่อง เผยอยู่ในโครงการเสาะหาและพัฒนาเด็กที่มีความสามารถพิเศษ เป็นด.ญ.เรียนป.4 โรงเรียนในแม่สรวย จ.เชียงราย ประวัติน่าเวทนาพ่อ-แม่แยกทางตั้งแต่เด็ก ต้องอยู่กระท่อมกับยายวัย 64 ที่ตาเป็นต้อมองเห็นข้างเดียว แต่มีความขยันจนสอบได้ที่ 1 เป็นประจำ หนูน้อยบอกโตขึ้นอยากเป็นครู พยาบาลและทหารและอยากเรียนสูงๆ


เมื่อวันที่ 25 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.เชียงราย ว่าภายหลังจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

ได้กล่าวในรายการนายกฯ ทักษิณพบประชาชน เกี่ยวกับเด็กนักเรียนที่อยู่ในโครงการเสาะหาและพัฒนาเด็กที่มีความสามารถพิเศษคือ ด.ญ.กชกร อินธร หรือ "น้องอัน" วัย 9 ขวบ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านป่าแดด ต.ป่าแดด อ.แม่สรวย จ.เชียงราย มีฐานะยากจนแต่เรียนภาษาอังกฤษเก่งนั้น

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 137 หมู่บ้านกลางทุ่ง หมู่ 3 ต.ป่าแดด อ.แม่สรวย ซึ่งเป็นบ้านของเด็กพบว่าสภาพความเป็นอยู่มีฐานะยากจนและน่ารันทดอย่างมาก เพราะด.ญ.กชกรอาศัยอยู่กับยายคือนางชุม ลือสนั่น วัย 64 ปี ที่เป็นโรคตาขวาเป็นต้อกระจกมองเห็นด้านเดียวเพียงลำพังสองคน เนื่องจากตาเสียชีวิตไปนานหลายสิบปีแล้ว ส่วนพ่อและแม่ของเด็กก็แยกทางกันตั้งแต่อายุได้เพียง 4 ขวบ ทำให้ยายเลี้ยงดูหลานไปตามยถากรรมคอยหาซื้อข้าวสารกรอกหม้อไปวันๆ




ยายชุมเล่าถึงความหลังว่าหลังจากพ่อกับแม่เลิกทางกันต่างฝ่ายต่างก็แยกกันไปทำงานนอกภูมิลำเนา

โดยนางสมทรัพย์ ลือสนั่น อายุ 36 ปี ซึ่งเป็นลูกของตนและแม่ของด.ญ.กชกร ก็ไปทำงานอยู่ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ดังนั้น เมื่อหลานเข้าเรียนระดับอนุบาล 1-2 ที่โรงเรียนเดียวกัน ตนก็ให้ขี่หลังลัดทุ่งนาไปโรงเรียนเพราะบ้านอยู่ไกลจากหมู่บ้านราว 1-2 กิโลเมตร ปัจจุบันอยู่ชั้นประถมศึกษาก็ได้ซื้อจักรยานให้หลานขี่ลัดถนนกลางทุ่งนาไปเรียนเป็นประจำทุกวัน

ยายชุม กล่าวว่า รู้สึกภาคภูมิใจที่หลานอยู่ในครอบครัวที่ไม่มีพ่อแม่อยู่ด้วยยายก็แก่ทำงานเลี้ยงดูเขาไม่ไหว แต่เขากลับเป็นเด็กดีไม่เกเรแม้จะเล่นร่าเริง ไปตามประสาแต่เมื่อเบื่อก็มักชอบอ่านหนังสืออยู่เป็นนิจไม่เล่นซุกซนเกินเวลา

เมื่อถึงเวลาเรียนก็ตั้งใจครูทุกคนก็ชื่นชมให้ฟังอยู่เสมอเพราะเขาจะสอบก็ได้ที่หนึ่งในรายวิชาต่างๆ เป็นประจำ

โดยเฉพาะภาษาอังกฤษเขาจะเก่งมาก เพราะหลังกลับจากเรียนและเล่นกับเพื่อนแล้วหลานก็จะกลับไปทำการบ้านและอ่านหนังสือตั้งแต่เย็นถึงค่ำมืดจนยายนอนหลับก่อนทุกครั้งเขาจึงจะเข้านอน

"หลานชอบอ่านหนังสือทุกเรื่องไม่เฉพาะภาษาอังกฤษนะ มักจะยืมหนังสือโรงเรียนมาอ่าน


นานๆ ไปหนังสือหมดคุณครูเห็นก็ให้ยืมส่วนตัวมาครั้งละ 2-3 เล่ม ทุกวันนี้ก็หายืมจากรุ่นพี่หรือผู้ใหญ่ที่รู้จักอยู่เสมอ ส่วนแม่ของเขาก็ดีนะคอยส่งเงินมาให้ครั้งละ 1,000-2,000 บาทสม่ำเสมอ และยังหาซื้อกระเป๋าเป้ใส่หนังสือ เมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา

เขารู้ว่าลูกเรียนเก่งก็ซื้อแผ่นวีซีดีสอนภาษาอังกฤษเป็นการ์ตูนไม่เครียดให้ลูกเปิดดู เพราะที่บ้านมีเครื่องเล่นที่อาเขาซื้อเอาไว้ให้เครื่องหนึ่งเขาก็ดูจากนั้นก็เก่งขึ้นมาเอง" ยายชุม กล่าวและว่า ปัจจุบันพอมีเงินให้หลานไปเรียนวันละ 20 บาท ขัดสนพอสมควร เพราะที่นาที่มีอยู่ 2 ไร่ก็ให้คนอื่นเช่าขาดเอาเงินมาใช้เมื่อราว 10 ปีก่อนหมดแล้ว ดังนั้น จึงดีใจที่หลานได้เข้าโครงการของรัฐบาลเพราะหวังว่าจะช่วยเหลือส่งให้เขาเรียนสูงๆ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทุกวันนี้ ด.ญ.กชกร จะขี่จักรยานไปเรียนก่อนเวลา 08.00 น. และเลิกเรียนประมาณ 15.30 น. เพราะจะอยู่เรียนพิเศษภาษาอังกฤษกับครูรับสอนให้ที่โรงเรียนต่ออีกราว 30 นาที จึงกลับบ้านช้ากว่าคนอื่นๆ

ซึ่งด้วยความที่เรียนเก่งและนิสัยน่ารักร่าเริงจึงเป็นที่รัก ใคร่ของครูอาจารย์และชาวบ้านในละแวกนั้นมาก และเมื่อทดลองให้อ่านเขียนตามวิชาที่เรียนมาโดยเฉพาะวิชาภาษาอังกฤษก็จะเห็นได้ชัดเจนว่ามีสติปัญญาในการเรียนรู้เหนือกว่าเด็กในวัยเดียวกันมาก อย่างไรก็ตามสำหรับการช่วยเหลือด้านทุนการศึกษานั้นพบว่าส่วนใหญ่อาศัยครูอาจารย์ในโรงเรียนช่วยค้ำจุนเท่านั้น โดยโครงการยังคงเข้าไปให้การช่วยเหลือน้อยมาก

ด.ญ.กชกร กล่าวว่า โตขึ้นอยากเป็นครู พยาบาล หรือทหาร หรือพูดอีกอย่างคืออยากเป็นทุกๆ อาชีพจึงตั้งใจเรียน เมื่อจบจากโรงเรียนบ้านป่าแดดในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก็อยากไปเรียนต่อที่โรงเรียนสามัคคีวิทยาคม ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำจังหวัด แต่เพราะไม่มีเงินซื้อหนังสืออ่านก็หายืมจากครูและรุ่นพี่ซึ่งทุกคนก็ใจดีให้ยืมมาตลอด ทุกวันนี้ก็ยืมหนังแปลภาษาอังกฤษ-ไทย หรือดิคชันนารีจากครูที่โรงเรียนมาใช้


แหล่งที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์