วานนี้ (28 มี.ค.) เวลา 13.00 น.นายเดชา นิลวิเชียร รักษาการหัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จ.ตรัง
พร้อมด้วย พ.ต.ท. ทวี จันทร์พลับ สารวัตรสถานีตำรวจน้ำ 2 กองบังคับการ 9 และกำลังเจ้าหน้าที่ประมาณ 10 นาย ร่วมจับกุมกลุ่มผู้ลักลอบขนปะการัง หลังได้รับแจ้งจากสายลับว่า มีนักท่องเที่ยวได้ลักลอบเก็บและขนปาการังเทียม ที่บริเวณหัวสะพานหาดยาว ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง
จากการตรวจสอบพบ นายกุ่ย (ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง) อายุ 55 ปี เป็นชาว จ.นครราชสีมา และเป็นหัวหน้าบริษัททัวร์แห่งหนึ่งในจังหวัดดังกล่าว
ได้ถือกล่องลัง จำนวน 3 กล่อง และมีท่าทีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจสอบพบซากปะการัง เปลือกหอย และกัลปังหา ซึ่งบรรจุอยู่ในกล่องลังดังกล่าว จากการสอบถามนายกุ่ย รับสารภาพว่า ซื้อซากปะการัง และกัลปังหาดังกล่าวาวมาจากชาวบ้าน ในพื้นที่เกาะลิบง และเปลือกหอยบางส่วนเก็บมาจากบริเวณชายหาดบนเกาะลิบง โดยตนได้นำคณะทัวร์จากอบ ต.กะชอน อำเภอพิมาย จ.นครสวรรค์ มาศึกษาดูงานที่ อบต.เกาะลิบง ซึ่งปกติตนได้นำคณะทัวร์มาท่องเที่ยวใน จ.ตรัง เป็นประจำแต่ไม่เคยพบของดังกล่าว และไม่ทราบว่า จะผิดกฎหมายจึงได้ขอซื้อจากชาวบ้าน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตั้งข้อกล่าวหาว่า มีความผิดฐานนำออกซึ่งทรัพยากรธรรมชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท
ทั้งนี้นายเดชา กล่าวว่า ขอให้ชาวประมงที่ออกจับปลาโดยวิธีการระเบิด มีจิตสำนึก
และให้ระลึกว่า การจับปลาดังกล่าวไม่ใช่เพียงแค่ทำลายพันธ์สัตว์น้ำเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบถึงทรัพยากรธรรมชาติโดยทั่วไป เช่นปะการังได้รับความเสียหายและยังทำให้สัตว์น้ำที่มีอยู่หนีไปถิ่นอื่นอีกด้วย