เมื่อวันที่ 26 มี.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางดึกวันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา เกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มบ้านเรือนราษฎรพังเสียหายในหลายพื้นที่ใน จ.บุรีรัมย์
โดยเฉพาะ อ.เมือง 4 ตำบล 11 หมู่บ้าน บ้านเรือนราษฎรเสียหาย 72 หลังคาเรือน โกดังเก็บของเก่าพังทั้งหลัง ป้ายโฆษณา และต้นไม้หักโค่นล้ม ฟ้าผ่ามีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นผู้หญิง ที่ ต.สวายจีก อ.เมือง นายพรเชษฐ์ แสงทอง ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดรับรายงานเกิดเหตุพายุฤดูร้อนพัดถล่มบ้านเรือนราษฎรพังเสียหาย 275 หลังคาเรือน ใน 15 อำเภอ 31 ตำบล 67 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 340 คน อำเภอที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด ได้แก่ อ.เมือง นางรอง พลับพลาชัย ประโคนชัย บ้านกรวด และ อ.กระสัง ทั้งยังมีวัด โรงเรียน ยุ้งข้าว คอกสัตว์ โรงเรือน เสียหายรวม 24 หลัง กระบือ 42 ตัว ต้นยางพาราของเกษตรกรถูกกระแสลมพัดหักโค่นเสียหายกว่า 6 ไร่ รวมมูลค่าความเสียหาย 780,249 บาท แต่ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
นอกจากนี้ในพื้นที่ ต.แก่งโสภา อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อนเช่นเดียวกัน เมื่อกลางดึกวันที่ 25 มี.ค. โดยลมพายุพัดนานร่วมชั่วโมงพร้อมลูกเห็บที่ตกใส่พื้นที่จนได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง
นายฉลวย บุญอาจ สมาชิก อบต.หมู่ที่ 13 บ้านใหม่เขาน้อย ต.แก่งโสภา อ.วังทอง จ.พิษณุโลก เผยว่า พายุลูกเห็บได้พัดถล่มตั้งแต่เวลาประมาณ 17.00-19.00 น.วันที่ 25 มี.ค.ส่งผลให้พื้นที่บ้านหมู่ที่ 13 ได้รับความเสียหายจำนวนมาก เนื่องจากมีลูกเห็บลูกขนาดเท่าลูกมะนาวหล่นใส่หลังคาบ้านเรือนประชาชน จนหลังคาเสียหายไปประมาณ 100 หลังคาเรือน บ้านที่มีจานดาวเทียมเสียหายไปด้วย นอกจากนี้ พื้นที่ปลูกข้าวโพดของหมู่บ้านร่วม 1,000 ไร่ที่ขณะนี้ออกฝักแล้ว เหลือเวลาเก็บเกี่ยวอีกเพียง 1 เดือน ก็ถูกลูกเห็บถล่มได้รับความเสียหายทั้งหมด
นายจรูญ จันทร์เป อายุ 61 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 13 ต.แก่งโสภา เปิดเผยว่า ระหว่างเกิดพายุลูกเห็บตนกำลังอยู่ในไร่ข้าวโพด
เกิดพายุลูกเห็บตกลงมา ต้องใช้ถังและกะละมังคลุมศีรษะ แต่ก็ถูกลูกเห็บเจาะทะลุเสียหาย ลูกเห็บได้พุ่งใส่แขนขาตนจนเจ็บไปหมด จนกระทั่งไปหลบในใต้ถุนห้างนาได้ เมื่อพายุสงบออกมาสำรวจความเสียหาย พบว่าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ตนปลูกไว้ 10 ไร่เสียหายหมด ขอวิงวอนให้หน่วยงานราชการเข้ามาช่วยเหลือด้วย
นายประเชิญ สิทธิยศ อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50/2 ม.13 ต.แก่งโสภา เจ้าของฟาร์มเลี้ยงหมู ประมาณ 100 ตัว
กล่าวว่า ระหว่างเกิดพายุลูกเห็บถล่มความแรงของพายุทำให้หลังคาฟาร์มหมูแตกและทะลุ ส่งผลให้ลูกเห็บพุ่งเข้าใส่หมูในฟาร์มนานร่วมชั่วโมง จนหมูอายุ 3 เดือนเสียชีวิตและมีอาการแย่ ถูกลูกเห็บพุ่งใส่ตามตัวจนแดงไปหมด ขณะนี้เริ่มมีอาการหงอยคล้ายเป็นไข้แล้ว ตนยังไม่เคยพบพายุลูกเห็บที่รุนแรงเท่าครั้งนี้มาก่อน
ที่ อ.เมืองสตูล เวลา 15.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้เกิดพายุฤดูร้อนพัดบ้านเรือนชาวบ้านในเขตพื้นที่หมู่ 4 บ้านใหม่ และหมู่ 5 บ้านเกาะเนียง ต.ควนโพธิ์
โดยบ้านเรือนราษฎรถูกพายุพัดและต้นไม้ล้มทับบ้านได้รับความเสียหาย 60 หลังคาเรือน เสียหายเกือบทั้งหลัง 7 หลังคาเรือน รถยนต์ของชาวบ้านเสียหาย 1 คัน ส่วนที่สำนักสงฆ์บ้านเกาะเนียง หมู่ 4 พายุพัดต้นไม้ เช่น ต้นพะยอมอายุกว่า 100 ปี โค่นล้มจำนวน 7 ต้น และล้มทับหลังคากุฏิพระฉาย อายุ 60 ปี ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะเล็กน้อย ส่วนที่ร.ร.บ้านใหม่ หมู่ 5 พายุพัดต้นไม้ล้มทับกำแพงโรงเรียนได้รับความเสียหาย มัสยิดบ้านใหม่พายุพัดหลังคามัสยิดซึ่งเป็นหลังคากระเบื้องเสียหายนับสิบแผ่น ในขณะที่ต้นยางพาราของชาวบ้านถูกพายุพัดโค่นล้มประมาณ 20 ไร่ จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ไฟฟ้าดับหมดทั้ง 2 หมู่บ้าน ถูกพายุพัดต้นไม้ล้มทับสายไฟ หลังเกิดเหตุนายกูเนาะ ยาแบโด กำนัน ต.ควนโพธิ์ สำรวจและรายงานสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สตูล เพื่อหาสิ่งของอุปโภคบริโภคไปช่วยเหลือต่อไป