เมื่อ 24 มี.ค. หนังสือพิมพ์จุงอัง อิลโบของเกาหลีใต้ รายงานความคืบหน้ากรณีนักข่าวสาวชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย 2 คน ถูกทางการเกาหลีเหนือจับตัวไปว่า
เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองเกาหลีเหนือ เค้นสอบปากคำทั้งคู่และพยายามกล่อมให้ยอมรับสารภาพว่าเป็นสายลับ
ด้านกระทรวงการต่างประเทศจีนแจ้งว่า
นายมิตช์ คอสส์ ตากล้องชาวอเมริกันอีกคนที่ตอนแรกร่วมเดินทางไปกับสองสาว เดินทางออกจากจีนไปแล้ว หลังแจ้งให้ทราบว่า สองนักข่าวหญิงถูกเจ้าหน้าที่ชายแดนเกาหลีเหนือจับตัวไป
แหล่งข่าวในหน่วยข่าวกรองของเกาหลีใต้เปิดเผยว่า
นักข่าวหญิง ยูนา ลี เชื้อสายเกาหลี และลอร่า หลิง เชื้อสายจีน ของสถานีข่าวเคอร์เรนต์ทีวีที่ถูกจับตัวไปเมื่อ 17 มี.ค. ถูกส่งตัวไปยังบ้านพักรับรองแขกของเจ้าหน้าที่ความมั่นคงระดับสูงของเกาหลีเหนือที่ชานกรุงเปียงยาง และสอบสวนเพื่อให้รับสารภาพว่าเป็นสายลับเข้ามาสืบข้อมูลของเกาหลีเหนือ เพื่อที่จะถ่ายทำเป็นวิดีโอเทปมาตอบโต้สหรัฐ
ทั้งนี้ เกาหลีเหนือชี้ว่าทั้งคู่ข้ามแม่น้ำตูเหมิน พยา ยามบุกรุกเข้าไปยังดินแดนเกาหลีเหนือจากพรมแดนจีน ขณะที่เกาหลีเหนือมีแผนจะปล่อยดาวเทียมสื่อสารราววันที่ 4-8 เม.ย.นี้ แม้จะถูกสหรัฐและเกาหลีใต้ทัดทาน เพราะเชื่อว่า เนื้อแท้แล้วเป็นการทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกล
วันเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีเหนือ แถลงท่าทีข่มขู่ประชาคมโลก ว่า
หากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเคลื่อนไหวในท่าทีเป็นศัตรูกับเกาหลีเหนือ กรณีที่เกาหลีเหนือจะยิงดาวเทียมของตนเอง จะถือเป็นการละเมิดข้อตกลงจากการเจรจา 6 ฝ่ายเมื่อ 19 ก.ย.2548 ที่ระบุให้ทุกฝ่ายเคารพซึ่งกันและกัน และหากข้อตกลงดังกล่าวถูกละเมิดแล้ว การเจรจา 6 ฝ่ายก็จะไม่เหลืออีกต่อไป
ด้านสำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า
ผู้แทนรัฐบาลสหรัฐ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นนัดหารือรับมือเกาหลีเหนือ ในวันศุกร์นี้ที่กรุงวอชิงตัน