พบซากกระดูกกลางลานสปริงเวย์ลำปาว คาดเป็นฟอสซิลไดโนเสาร์

ฮือฮาพบซากกระดูกสัตว์โบราณ โผล่กลางช่องระบายน้ำ เขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ คาดเป็นฟอสซิลไดโนเสาร์ อายุกว่า 350 ล้านปี ขณะที่หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำส่งชุดตรวจสอบเฝ้าสถานที่ หวั่นชาวบ้านแห่ขุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 24 กรกฎาคม มีชาวบ้านพบซากกระดูกของสัตว์โบราณ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นฟอสซิลไดโนเสาร์ ที่บริเวณช่องระบายน้ำหรือสปริงเวย์ ท้ายอาคารฝายน้ำล้น เขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ หลังรับรายงานจึงเดินทางไปตรวจสอบ พบชาวบ้านจำนวนมาก ทยอยเข้าไปในบริเวณที่พบกระดูก ซึ่งติดอยู่ในชั้นหินทั้งสองฝั่งของช่องทางระบายน้ำ ห่างจากสะพานสปริงเวย์ประมาณ 500 เมตร

ทั้งนี้ ซากกระดูกที่พบมีลักษณะคล้ายกับกระดูกขาของสัตว์ขนาดใหญ่ ยื่นออกมาจากชั้นหินประมาณ 30 ซม. ชาวบ้านได้แกะชิ้นส่วนดังกล่าวออกไปจนเหลือแต่ส่วนที่ถูกฝังอยู่ในชั้นหิน นอกจากนี้จากการสำรวจยังพบซาก กระดูกชิ้นเล็กชิ้นน้อยกระจัดกระจายตามโขดหิน และชั้นหินทั้งสองฝั่งของทางระบายน้ำจำนวนมาก

นายสายยันต์ สาวิสิทธิ์ อายุ 29 ปี ผู้ที่พบกระดูกเป็นคนแรก กล่าวว่า เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ตนและเพื่อนอีก 4 คนเข้ามาจับกิ้งก่าเพื่อนำไปรับประทาน ระหว่างนั่งพักเหนื่อยใต้ร่มไม้ซึ่งติดกับช่องทางระบายน้ำสปริงเวย์ ก็เหลือบไปเห็นซากกระดูก และเมื่อเข้าไปดูใกล้ๆ และสัมผัสดูก็พบว่าเป็นกระดูกจริงๆ จากนั้นจึงแจ้งตำรวจ สภ.ต.ลำปาว เพื่อให้มาตรวจสอบ

เมื่อก่อนผมเคยพบกระดูกหลายชิ้นมาแล้ว แต่เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยและนำเรื่องนี้ไปเล่าให้คนอื่นฟัง แต่ก็ไม่มีใครเชื่อ จนกระทั่งมาพบกระดูกชิ้นนี้ ซึ่งมีขนาดใหญ่ และคาดว่าน่าจะเป็นกระดูกขาของไดโนเสาร์ ที่มีอายุมากกว่า 350 ปี เพราะใน จ.กาฬสินธุ์ มีการขุดพบฟอสซิลของไดโนเสาร์อยู่ที่ภูกุ้มข้าว ซึ่งมีอายุมากถึง 350 ปีเช่นกัน" นายสายยันต์ กล่าว

นายสายยันต์ กล่าวอีกว่า หลังพบกระดูกชิ้นดังกล่าวจึงนำเรื่องไปเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง จากนั้นชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างทยอยมาดูพร้อมกับขุดซากกระดูกติดไม้ติดมือกลับบ้าน จนทำให้กระดูกที่พบครั้งแรกที่ค่อนข้างสมบูรณ์ แต่ขณะนี้ถูกขุดจนเหลือแต่ส่วนที่ติดอยู่ในชั้นหินเท่านั้น

อยากให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรีบมาตรวจสอบให้เร็วที่สุด เพราะถ้าเป็นกระดูกหรือฟอสซิลของไดเสาร์จริงๆ ก็จะเป็นสถานที่ขุดพบแห่งใหม่ใน จ.กาฬสินธุ์ และที่สำคัญถ้าปล่อยไปเรื่อยๆ จะมีชาวบ้านมาดูเพิ่มขึ้น และมีการขุดและแกะซากกระดูกจนเสียหาย" นายสายยันต์ กล่าว

ด้านนายปูชนีย์ จำเริญศักดิ์ศรี หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทานลำปาว กล่าวว่า หลังทราบว่ามีชาวบ้านพบซากกระดูก ซึ่งคาดว่าจะเป็นฟอสซิลของไดโนเสาร์ จึงเดินทางไปตรวจสอบ ซึ่งก็พบว่าเป็นซากกระดูกจริงๆ โดยมีทั้งชิ้นเล็กๆ และชิ้นใหญ่ กระจายอยู่ทั่วไปตามช่องทางระบายน้ำ ของอาคารฝายน้ำล้น แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นซากกระดูกของสัตว์ชนิดใด ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบเสียก่อน

ขณะนี้เราส่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไปเฝ้าบริเวณที่พบซากกระดูกแล้ว เนื่องจากเกรงว่าจะมีชาวบ้านที่เดินทางไปดูจะมีการขุดทำลาย ซึ่งต้องรอจนกว่าเจ้าหน้าที่ธรณีวิทยามาตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม การพบซากกระดูกครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรก เพราะทุกๆ ปีจะมีการปล่อยน้ำออกจากฝายน้ำล้น ทำให้น้ำท่วม แต่ปีนี้ปริมาณน้ำมีน้อยจึงไม่ได้ปล่อยน้ำ จนมีชาวบ้านไปพบกระดูกดังกล่าว" นายปูชนีย์ กล่าว

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ข่าวสด