เผยเทคนิคออกซิเจนบำบัด ช่วยพัฒนาการรับรู้เด็กออทิสติก

เทคนิค "ออกซิเจนบำบัด" อาจช่วยให้เด็กพิเศษ หรือเด็กออทิสติก มีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้างดีขึ้นและสบตามากขึ้น แต่ต้องศึกษาต่อว่าจะให้ผลในระยะยาวหรือไม่


วารสารบีเอ็มซีพีเดียทริกส์ สหรัฐอเมริกา รายงานผลการศึกษาเบื้องต้นของ ดร.แดน รอสซิกนอล จากศูนย์พัฒนาเด็กระหว่างประเทศ รัฐฟลอริดา ว่า
จากการทดลองกับเด็กออทิสติกอายุ 2-7 ขวบ จำนวน 62 คน ในศูนย์ 6 แห่ง ให้เข้ารับการรักษาด้วย "เครื่องปรับความกดบรรยากาศความดันสูง" เป็นเวลา 1 เดือนรวม 40 ชั่วโมง


สุ่มเลือกเด็กกลุ่มหนึ่งให้ได้รับออกซิเจนความเข้มข้นร้อยละ 24 ภายใต้ความกด บรรยากาศ 1.3 เอทีเอ็ม เด็กอีกกลุ่มได้รับออกซิเจนปกติภายใต้ความกดบรรยากาศ 1.03 เอทีเอ็ม เด็กกลุ่มแรกร้อยละ 80 มีพัฒนาการดีขึ้นทั้งเรื่องการรับรู้ภาษา การมีปฏิสัมพันธ์กับสังคม การสบตา ระบบประสาทสัมผัสและการรับรู้ ในจำนวนนี้ร้อยละ 30 เข้าขั้นดีมาก เทียบกับเด็กกลุ่มหลังที่ดีขึ้นร้อยละ 38 และเข้าขั้นดีมากเพียงร้อยละ 8


ดร.รอสซิกนอล เผยว่า "ออกซิเจนบำบัดความกดบรรยากาศสูง" เริ่มเป็นที่นิยมในสหรัฐ เนื่องจากผู้ปกครองหลายคนที่พอมีกำลังทรัพย์สามารถซื้อเครื่องดังกล่าวที่มีราคา 14,000-17,000 ดอลลาร์ (504,000-612,000 บาท) ตอนแรกตนเองยังไม่เชื่อเท่าใดนักจึงลงมือศึกษาเพิ่มเติม


กระทั่งพบว่าบุตรชาย 2 คนที่เป็นออทิสติกมีพฤติกรรมดีขึ้นหลังได้รับการบำบัดด้วยวิธีนี้ สันนิษฐานว่าเป็นเพราะออกซิเจนช่วยลดอาการอักเสบและเนื้อเยื่อสมองได้รับออกซิเจนไปเลี้ยงมากขึ้น ขั้นตอนต่อไปต้องหาว่าเด็กออทิสติกคนไหนมีแนวโน้มตอบสนองดีเพราะวิธีนี้เสียค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง และต้องศึกษาว่าให้ผลรักษาระยะยาวเพียงใด


ด้านริชาร์ด มิลส์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย มูลนิธิวิจัยออทิสซึมในอังกฤษ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เป็นที่ทราบกันว่าออกซิเจนบำบัดความกดบรรยากาศสูงให้ผลในการรักษาโรคทางระบบประสาท เช่น สมองพิการ ทารกผิดปกติตั้งแต่กำเนิดเพราะมารดาดื่มแอลกอฮอล์ขณะตั้งครรภ์ แต่ยังไม่เคยทราบว่าให้ผลต่อโรคออทิสซึมอย่างไร


ส่วน ศ.ฟิลิป เจมส์ เชี่ยวชาญด้านการรักษาด้วยความกดบรรยากาศสูง มหาวิทยาลัยดันดีในสกอตแลนด์ ชี้ว่าความกดบรรยากาศที่ใช้ในการทดลองไม่ต่างจากความกดบรรยากาศที่ใช้ในห้องโดยสารภายในเครื่องบินขณะอยู่บนพื้นและเตือนว่าวิธีนี้อาจไม่เหมาะกับผู้ป่วยทุกคน เพราะออกซิเจนมีผลต่อการควบคุมยีนและการสร้างเนื้อเยื่อใหม่