วานนี้ (23 มี.ค.) นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)
กล่าวถึงจำนวนการผลิตและการส่งออกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของประเทศในเดือนก.พ.52 โดยระบุว่ายอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนก.พ. มีจำนวนทั้งสิ้น 34,361 คัน ลดลงจากเดือนก.พ.51 ร้อยละ 30.7ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 119,477 คัน ลดลงจากเดือนก.พ.51 ร้อยละ 14.80 แต่หากรวม 2 เดือน (ม.ค.-ก.พ. 52) รถยนต์มี ยอดขาย 66,446 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันปี 2551 ร้อยละ 30.3 ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 229,417 คัน ลดลงร้อยละ 19.04
นายสุรพงษ์ กล่าวต่อไปว่า สาเหตุที่ยอดขายรถยนต์และรถจักรยานยนต์ลดลงเนื่องมาจากอำนาจซื้อที่ลดลงจากวิกฤตการเงินของโลกและจากการเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินในประเทศ รวมทั้งราคาพืชผลที่ลดลง
และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่ลดลงมากด้วยส่วนการผลิตนั้น จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนก.พ.52 มีจำนวนทั้งสิ้น 61,067 คัน เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก.พ.51 ลดลงร้อยละ 50.57 มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าในช่วง6 เดือนแรกของปีนี้ จะมีการผลิตรถน้อยลงประมาณร้อยละ 40 เนื่องจากเฉพาะเดือนก.พ.เพียงเดือนเดียวก็มีการผลิตลดลงแล้วประมาณร้อยละ 51 สาเหตุสำคัญมาจากการที่ยอดขายภายในประเทศลดลงประมาณ 34,000คัน หรือกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ และยอดส่งออกลดลงเหลือเพียง 44,000 คัน ซึ่งถือว่าลดลงค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีการส่งออกได้กว่า 66,000 คัน โดยเฉพาะตลาดในยุโรปซึ่งมีคำสั่งซื้อลดลงถึงกว่าร้อยละ 60 ตลาดในเอเชียและออสเตรเลีย ลดลงร้อยละ 47 ซึ่งทุกตลาดที่มีการส่งออกลดลงทั้งหมดยกเว้นตะวันออกกลางที่มียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ทำให้สัดส่วนการส่งออกรถยนต์ไปตลาดตะวันออกกลางเพิ่มขึ้นมาอยู่ในลำดับ 3 โดยมีสัดส่วนอยู่ที่ร้อยละ 21 รองลงมาจากตลาดออสเตรเลียและเอเชีย ซึ่งมีสัดส่วนรวมกันมากกว่าร้อยละ 40
นายสุรพงษ์ กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าสถานการณ์จะเริ่มดีขึ้นในช่วง 6 เดือนหลังของปี
ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลทั่วโลกที่พยายามอัดฉีดเม็ดเงินเข้าระบบ ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์น่าจะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นได้หรืออย่างน้อยที่สุดสถานการณ์ก็จะไม่รุนแรงไปกว่าในขณะนี้
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
