พ่อเฒ่ายึดแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงของ “ในหลวง” ใช้วิธีออมเงินโดยเก็บไว้ในกระบอกไม้ไผ่แทนกระปุกรายนี้เปิดเผยเมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 21 มี.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า
ที่บ้านเลขที่ 14 หมู่ 6 ต.พิกุลออก อ.บ้านนา จ.นครนายก จัดทำบุญเลี้ยงพระในโอกาสที่เจ้าของบ้านทุบกระปุกเพื่อนำเงินฝากธนาคาร จึงเดินทางไปตรวจสอบพบว่าเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ด้านหน้าวางโต๊ะจีนเลี้ยงแขกที่มาร่วมงานหลายโต๊ะ โดยมีแขกมาร่วมงานหลายสิบคน ในจำนวนนี้มีนายไพรัตน์ ทับทิมทอง ผจก.ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาขาบ้านนา จ.นครนายก รวมอยู่ด้วย พบนายสมจิตร เกตุนิล อายุ 78 ปี เจ้าของบ้าน กับนางสังเวียน ทองกุศล อายุ 72 ปี และนางลัดดา ทองกุศล อายุ 64 ปี ทั้งสองเป็นพี่น้องกันและเป็นภรรยาของนายสมจิตรทั้งคู่ คอยรับแขกที่มาร่วมงาน เมื่อทราบความประสงค์ของผู้สื่อข่าวทั้งหมดให้การต้อนรับขับสู้เป็นอย่างดีพร้อมเชื้อเชิญให้เข้าไปนั่งในบ้าน
ออมเงินแสน ในกระบอกไผ่
นายสมจิตร เจ้าของบ้านเปิดเผยถึงที่มาของการจัดงานเลี้ยงว่าตนเองอดีตเป็นผู้ใหญ่บ้าน มีลูกสาว 2 คน เกิดกับนางสังเวียน โดยลูกคนโตชื่อนางยุพเยาว์ กาญจนเกษตร อายุ 55 ปี รับราชการเป็นครูโรงเรียนเขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว
ส่วนคนเล็กชื่อนางอำนวย หล่อใจ อายุ 51 ปี ทั้งคู่แยกไปมีครอบครัวหมดแล้ว ปล่อยให้ตนกับภรรยาอีก 2 คน คือนางสังเวียนและนางลัดดา ปัจจุบันเป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ต.พิกุลออก อยู่บ้านด้วยกัน 3 คน ที่ผ่านมาลูกสาวทั้ง 2 คน คอยส่งเสียให้เงินทองไว้ใช้จ่ายเดือนละ 3,000-4,000 บาท เพราะเห็นว่าตนและภรรยาแก่แล้ว แต่ตนไม่ได้เก็บ ให้มาเท่าไหร่ก็ใช้หมด ไม่เคยเก็บออมไว้เลย ต่อมาคิดขึ้นได้ว่าหากยังใช้จ่ายอยู่แบบนี้สุดท้ายก็ไม่มีเงินเก็บ จึงปฏิบัติตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัว โดยหากระบอกไม้ไผ่ตงตัดเป็นท่อนขนาด 3 ปล้อง ยาว 1.50 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 15 ซม. เจาะรูใต้ข้อไม้ไผ่แต่ละปล้อง 3 ปล้อง จากนั้นนำเงินที่ลูกสาวส่งมาให้รวมทั้งเงินจากการขายพรมเช็ดเท้า หยอดเก็บไว้ในกระบอกไม้ไผ่น้อยบ้างมากบ้างแล้วแต่โอกาส โดยเริ่มเก็บมาตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.51 ที่ผ่านมา
ประกอบกับสังเกตเงินที่เก็บไว้เต็มกระบอกไม้ไผ่จนหนักยกแทบไม่ขึ้น จึงตัดสินใจเลือกเอาฤกษ์วันนี้เป็นวันผ่ากระบอกไม่ไผ่เอาเงินออกมา พร้อมทำบุญเลี้ยงพระเพล และเชิญญาติพี่น้องเพื่อนบ้านมาเป็นสักขีพยานด้วย อย่างไรก็ตาม ภายหลังเปิดเผยรายละเอียดนายสมจิตรพร้อมญาติๆได้ยกกระบอกไม้ไผ่ ออกมาจากห้องนอน จากนั้นนำมีดพร้ามาผ่ากระบอกไม้ไผ่ พบว่าภายในมีธนบัตรทั้งฉบับละ 1,000 บาท 500 บาท 100 บาท 20 บาท รวมทั้งเหรียญ 10 บาท และ 5 บาท จำนวนมาก เมื่อนับรวมกันแล้วยอดเงินทั้งหมดจำนวน 163,847 บาท ทำเอาเพื่อนบ้านถึงกับตะลึง โดยนายสมจิตรกล่าวเสริมว่า เงินเหล่านี้จะแบ่งใช้หนี้ ธ.ก.ส.จำนวน 50,000 บาท ส่วนที่เหลือจะนำไปฝากธนาคาร พร้อมฝากบอกถึงประชาชนทั่วประเทศว่าอยากให้ทุกคนหันมาเก็บออมตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง จะมีเงินเก็บไว้ใช้จ่ายในยามชรา ไม่ลำบากในบั้นปลายของชีวิต