หลังพบเป็นตัวเร่งฮอร์โมนสู่วัยหนุ่มสาวเร็วผิดปกติ
เมื่อวันที่ 10 มี.ค. ที่ศาลาว่าการ กทม. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวภายหลังการประชุมคณะผู้บริหารว่า ในปีงบประมาณ 52 กทม.โดยสำนักการศึกษา (สนศ.) ได้รับการจัดสรรงบอุดหนุนรัฐบาลเพื่อเป็นค่าอาหารเสริมหรือนม เป็นเงิน 276,350,100 บาท
โดยขณะนี้ กทม.ได้จัดสรรงบประมาณดังกล่าวรวมกับงบของ กทม.อีก 119,673,400 บาท รวมเป็นงบประมาณทั้งสิ้น 396,023,500 บาท ทั้งนี้ ได้กระจายลงไปทั้ง 50 เขตเพื่อดำเนินการจัดซื้อนมแล้วตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา ที่ได้เห็นชอบราคากลางของนม
โดยนมพาสเจอร์ไรส์ ชนิดถุงอยู่ที่ 6.26 บาท และนมยู.เอช.ที.ชนิดกล่องอยู่ที่ราคา 7.55 บาท อย่างไรก็ตาม กทม.มีนโยบายที่จะจัดสรรงบในการจัดซื้อนมให้กับนักเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ทุกคนตามราคากลางจำนวน 230 วัน ขณะที่นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และ 6 จำนวน 200 วัน โดย กทม.ได้มีการตรวจสอบคุณภาพและควบคุมคุณภาพของนมมาโดยตลอด
“กทม.มีนโยบายที่จะไม่จัดซื้อนมรสหวาน โดยจะจัดซื้อเฉพาะนมรสจืดเท่านั้น เนื่องจากนมรสหวานจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนเพศในเด็กหญิงและเด็กชายเร็วขึ้น โดยจะเป็นตัวเร่งทำให้เด็กเข้าสู่วัยหนุ่มสาวเร็วกว่าปกติ รวมทั้งมีไขมันสะสมในร่างกายสูงซึ่งไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพด้วย” ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าว