สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 5 มี.ค. ว่า
ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ อนุมัติแผนการที่จะใช้เงิน 75,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ บรรเทาปัญหาของประชาชนที่บ้านกำลังจะถูกยึด ซึ่งล่าสุดมีตัวเลขระบุว่า เจ้าของบ้านประมาณ 20% ในสหรัฐ เป็นหนี้จากการจำนองมากกว่ามูลค่าบ้าน แผนการนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการกระตุ้นการเคหะ มูลค่า 275,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่ประกาศเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งจะช่วยเจ้าของบ้านสามารถปรับโครงสร้างหนี้ให้สามารถผ่อนชำระต่อไปได้
ทั้งนี้ มีรายงานว่า
มีบ้านที่จำนองเมื่อสิ้นปี2551 ที่ผ่านมา ประมาณ 8.3 ล้านหลัง เจ้าของไม่สามารถหาเงินมาผ่อนชำระต่อไปได้ และคาดว่า จะยิ่งมีเพิ่มขึ้น หากมูลค่าบ้านลดลงไปอีก
รายงานระบุต่อว่า
สำหรับแผนการล่าสุดของ รัฐบาลสหรัฐ มีเป้าหมายผ่อนคลายภาระให้กับเจ้าของบ้านที่มีความต้องการเงินเร่งด่วน ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ผู้ที่ผิดนัดชำระหนี้ หรือเสี่ยงต่อการผิดนัดชำระหนี้บ้าน สามารถเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขในสัญญาจำนอง อีกทั้งเป็นการเสนอเงินสด เพื่อจูงใจธนาคารหรือบริษัทสินเชื่อที่อยู่อาศัยให้ช่วยประชาชนลดการผ่อนชำระรายเดือนลงมา แผนการนี้จำกัดเฉพาะกรณีบ้านเดี่ยวที่มีมูลค่าไม่เกิน 730,000 ดอลลาร์สหรัฐ