ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (27 ก.พ.) ว่า จากภาวะภัยแล้งและเริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูร้อน
ซึ่งแหล่งน้ำหลายแห่งได้เริ่มแห้งขอดจนปลาชนิดต่างๆ ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำหรับผลิตปลาร้าหายาก ประกอบกับตั้งแต่ปี 2551 ต่อเนื่องจนถึงปีนี้ วัตถุดิบผลิตปลาร้า เช่น น้ำตาลทราย เกลือและข้าวคั่วมีราคาสูงขึ้น ส่งผลให้ขณะนี้ ราคาขายปลาร้าในตลาดหลายแห่งในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเริ่มขยับสูงขึ้นเฉลี่ยกิโลกรัมละ 5-10 บาท โดยเฉพาะปลาร้าที่ขายและผลิตจากจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึงส่วนใหญ่ผู้ผลิตต้องซื้อปลาจากภาคกลางและประเทศเพื่อนบ้าน
นายสุคนธ์ ศรีสุกลาง เจ้าของแผงขายปลาร้าตลาดย่าโม ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา
ราคาปลาร้าที่รับมาจากจังหวัดต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะรับมาจาก จ.ขอนแก่นและพระนครศรีอยุธยาในช่วงเดียวกันของปีนี้เปรียบเทียบกับเมื่อปีที่ผ่านมา อยู่ที่ราคาปี๊บละ 180 บาท โดย 1 ปี๊บ บรรจุ 20 กิโลกรัม แต่มาในปีนี้ ราคาอยู่ที่ปี๊บละ 200 บาท เจ้าของแผงขายปลาร้าในตลาดยาโม กล่าวต่อว่า แหล่งผลผลิตได้บอกล่วงหน้ามาแล้วว่าต่อจากนี้ราคาของปลาร้าจะขยับตัวสูงขึ้นอีกเนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงหน้าแล้ง อากาศร้อนจัด ทำให้แหล่งน้ำต่างๆ แห้งขอดเร็วกว่าปกติ ส่งผลให้ปลาหายากกว่าทุกๆ ปีที่ผ่านมา นอกจากนั้น ราคาของวัตถุดิบส่วนผสมต่างๆ มีราคาแพงขึ้นกว่าปีที่แล้ว จึงทำให้ปีนี้ราคาปลาร้าจำเป็นต้องปรับตัวสูงขึ้น
นางศิริพร ภวภูตานนท์ แม่ค้าขายส้มตำภายในค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 อ.เมือง จ.นครราชสีมา กล่าวว่า
ขณะนี้ราคาขายปลีกปลาร้าปรับตัวสูงขึ้นจากเดิมกิโลกรัมละ 5 บาท จากเดิมกิโลกรัมละ 20-30 บาท เป็นกิโลกรัมละ 25-40 บาท อีกทั้งเครื่องปรุงต่างๆ ก็มีราคาสูงส่งผลให้ต้นทุนสูงขึ้น จึงทำให้ต้องขยับราคาส้มตำขึ้นจากเดิม ซึ่งขายราคาครกละ 20 บาท มาเป็นครกละ 25 บาท เพื่อให้สามารถประกอบอาชีพต่อไป