ซีพีสอนมวยกู้วิกฤติเศรษฐกิจ

นายอาชว์ เตาลานนท์ รองประธานกรรมการ เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยกำลังได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจโลกที่รุนแรงมากขึ้น

และยังหาจุดต่ำสุดไม่เจอ เพราะเศรษฐกิจโลกกำลังย่ำแย่เหมือนกับในช่วง 60 ปีก่อนที่เศรษฐกิจโลกถดถอยมาก ประกอบกับเศรษฐกิจไทยพึ่งพาส่งออกและท่องเที่ยวสูงมาก ดังนั้นเศรษฐกิจไทยจึงมีโอกาสเข้าสู่ภาวะซึมยาวต่อเนื่องไป 3-5 ปีข้างหน้า และไม่ฟื้นตัวเร็วในช่วงปลายปีนี้ตามที่รัฐบาลคาดการณ์ไว้ ประกอบกับนโยบายที่รัฐประกาศออกมาฟื้นฟูเศรษฐกิจเป็นการแก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ตรงจุด และเป็นมาตรการ  ระยะสั้นมากกว่า ทั้งให้เงิน 2,000 บาทแก่คนที่มีรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาท รวมทั้งการอัดฉีด  เงินงบกลางปีเข้าสู่ระบบกว่า 100,000 ล้านบาท และใช้เงินงบประมาณประจำปี 2552 รวมกว่า 1.9 ล้านล้านบาท ซึ่งไม่เชื่อมั่นว่าจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจไทยได้
 
สำหรับอัตราการขยายตัวของเศรษฐ กิจไทย (จีดีพี) ในปีนี้ คาดว่ามีโอกาสติดลบ 2-3%

และหากรัฐยังไม่สามารถพลิกฟื้นให้เศรษฐกิจกลับมาขยายตัวได้ อาจมีโอกาสติดลบถึง 4% และทำให้ คนตกงานได้ถึง 1.5 ล้านคน ซึ่งต้องการให้รัฐใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ  ทั้งระยะกลางและระยะยาว น.ส.ดวงมณี วงศ์ประทีป ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงกรณีที่มูดี้ส์ อีโคโนมิค ดอทคอม แผนกวิจัยเศรษฐกิจ การเงินและอุตสาหกรรม ของมูดี้ส์ อะนาไลซิส ระบุว่าเศรษฐกิจไทยแย่สุดในเอเชียนั้น ไม่เป็นความจริง ซึ่งจะทำความเข้าใจกับมูดี้ส์ว่าเอาตัวเลขไหนมาประเมิน โดยเห็นว่าเศรษฐกิจไทยไม่ได้แย่กว่าที่อื่น เช่น ไตรมาส 4/51 จีดีพีไทยติดลบ 4.3% แต่ไต้หวันติดลบ 8.4% ขณะที่ส่งออกของไทยติดลบ 26.5% ส่วนไต้หวันติดลบ 44.1% เกาหลีติดลบ 32.8% สิงคโปร์ติดลบ 40%
 
นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ กล่าวภายหลังมอบนโยบายให้ทูตพาณิชย์ไทยทั่วโลกว่า มอบนโยบายให้ทูตพาณิชย์ต้องทำงานหนักเป็น 2 เท่า เพื่อให้การส่งออกของไทยขยายตัวเป็นบวก

แต่ต้องยอมรับว่าเศรษฐกิจทั่วโลกตกต่ำลงมาก โอกาสที่มูลค่าการส่งออกสินค้าไทยในปีนี้จะติดลบเป็นไปได้สูง แต่กระทรวงพาณิชย์จะประคับประคองให้ดีที่สุด เพื่อให้ขยายตัวได้ตามเป้าหมาย 0-3% ส่วนจะได้จริงหรือไม่นั้น คงต้องดูตัวเลขเป็นรายไตรมาส แต่ส่วนตัวเห็นว่าการตั้งเป้าหมายให้สูงไว้เป็นการดี เพราะทำให้คนทำงานมีความพยายามในการทำงานมากขึ้น ส่วนกรณีที่มูดี้ส์ระบุว่า ไทยจะหนักที่สุดในเอเชีย คงพูดเกินจริง เพราะหลายประเทศส่งออกติดลบกว่าไทย.