วันนี้ (26 ก.พ.) สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า องค์การอนามัยโลก หรือดับเบิลยูเอชโอ
ออกแถลงการณ์ว่า มีรายงานพบเชื้อมาลาเรียที่สามารถทนทานสารสกัดอาร์ติมิซินินได้บริเวณพรมแดนรอยต่อระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งสารอาร์ติมิซินิน เป็นสารสกัดที่ได้จากต้นชิงเฮา สมุนไพรจีนชนิดหนึ่ง และได้รับการยอมรับจากผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ว่าเป็นยาต้านมาลาเรียที่ได้ผลดีที่สุดในขณะนี้ โดยมักจะถูกใช้ร่วมกับยาตัวอื่น ๆ เพื่อป้องกันเชื้อดังกล่าว
จากรายงาน ระบุว่า เชื้อมาลาเรียนี้ ยังสามารถทนทานต่อยาต้านมาเลเรียตัวอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นคลอโรควิน ซัลฟาด็อกซิน-ไพรีเมธามิน รวมถึงยาเมฟโฟลควิน ที่ถูกใช้เป็นยาต้านไวรัสมานานหลายปี
ความเสี่ยงดังกล่าวใกล้เคียงกับตอนที่มีการค้นพบ “ซูเปอร์บัก” ที่สามารถทนทานและดื้อยาปฏิชีวนะได้เลยทีเดียว ซึ่งหากยังไม่สามารถหาวิธีปราบปรามหรือหยุดยั้งซูเปอร์มาลาเรียตัวนี้ได้ มันจะแพร่ระบาดไปยังประเทศอื่น ๆ ที่มีพรมแดนติดกันอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อความพยายามของหลายฝ่ายในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคมาลาเรีย
ได้รับความช่วยเหลือจากเงินบริจาค 22.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 787 ล้านบาท ที่ได้รับจากมูลนิธิบิล และเมลินดา เกตส์ การแพร่ระบาดของโรคมาลาเรียได้ลดลงอย่างมากในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา แต่มันก็ยังเป็นสาเหตุสำคัญที่คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกมากกว่า 1 ล้านคนทุก ๆ ปี