วันนี้ (18 ก.พ.) ที่กระทรวงแรงงาน นายไพฑูรย์ แก้วทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ที่มีนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน
ได้ข้อสรุปแนวทางการจ่ายเงิน 2,000 บาท ให้กับผู้ประ กันตนจำนวน 8 ล้านคน โดยจ่ายให้เป็นเช็คคูปองผ่านช่องทาง 3 ช่องทาง คือ 1. เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานของกระทรวงแรงงานจะนำเช็คคูปองไปให้ถึงมือผู้ ประกันตน ในกรณีสถานประกอบ การขนาดเล็กหรือสถานที่ใกล้เคียงกับสำนักงานแรงงานทั่วประเทศ 2. นำเช็คคูปองไปให้กับนายจ้าง สถานประกอบการไปแจกจ่ายลูกจ้างในกรณีสถานประกอบการขนาดใหญ่ที่มีระบบการจ่าย เงินเดือนที่ชัดเจน และ 3. สำนักงานประกันสังคม (สปส.) จะจัดรถโมบายเคลื่อนที่ไปตามจังหวัดที่มีสถานประกอบการหรือที่อยู่ของลูกจ้างผู้ประกันตนห่างไกลกัน
อย่างไรก็ตาม ขอให้ผู้ประกันตนที่มีรายได้ไม่เกิน 15,000 บาทเร่งตรวจสอบสิทธิและแจ้งสิทธิกับ สปส.ภายในวันที่ 1 มี.ค. เพื่อ สปส.จะนำรายชื่อทั้งหมดให้กับธนาคารออกเช็คคูปองให้ในวันที่ 11 มี.ค.โดยจะเริ่มจ่ายในวันที่ 26 มี.ค.-8 เม.ย. โดยนายไพฑูรย์ มั่นใจว่าเช็คคูปองจำนวนดังกล่าวจะถึงมือผู้ประกันตนที่มีสิทธิ์ทุกคนอย่างแน่นอน
ส่วนเรื่องการช่วยเหลือคนว่างงาน ด้วยการฝึกอาชีพและให้เงินวันละ 200 บาทนั้น นายไพฑูรย์ กล่าวว่า ขณะนี้มีความพร้อมในการดำเนินการ
ใครที่ต้องการฝึกให้มาลงทะเบียนได้ที่กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน โดยจะเริ่มฝึกให้ทันทีภายในสัปดาห์หน้า ทั้งนี้จะฝึกอาชีพให้ตามความต้องการของผู้ฝึกอบรมและเป็นอาชีพที่ตลาด ต้องการอยู่แล้ว นอกจากนี้จะมีการฝึกอาชีพอิสระให้พร้อมจัดสรรเงิน 4,450 ล้านบาท ทั้งในส่วนของ สปส.และกรมการจัดหางานให้กู้ดอกเบี้ยถูก เพื่อไปประกอบอาชีพอิสระ
กรณีที่ ครม.อนุมัติหลักการร่าง พ.ร.บ.การคืนความเป็นผู้ประกันตน พ.ศ....นั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า สปส.ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2535
มีผู้ที่ถูกเลิกจ้างผู้ที่ลาออกจากงานขาดส่งเงินสมทบเข้าสู่กองทุนประกัน สังคมจำนวนกว่า 100,000 คน จะได้รับอานิสงส์ให้กลับเข้าสู่ระบบประกันสังคมอีกครั้ง แต่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายประกันสังคมมาตรา 39 ต้องจ่ายเงินสมทบ 2 ขา คือ ทั้งในส่วนของนายจ้างและลูกจ้าง ซึ่งจะได้รับสิทธิประโยชน์ 6 กรณี ประกอบด้วย เจ็บป่วย ทุพพลภาพ ตาย คลอดบุตร สงเคราะห์บุตร และชราภาพ อย่างไรก็ตามบุคคลกลุ่มดังกล่าวจะไม่มีสิทธิรับเงินช่วยเหลือค่าครองชีพจากรัฐบาลจำนวน 2,000 บาท เนื่องจาก พ.ร.บ.ดังกล่าวยังไม่มีผลบังคับใช้ได้ทัน เพราะยังต้องผ่านกระบวนการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎี และการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฏรซึ่งอาจต้องใช้เวลามากกว่า 3 เดือน
ด้านนายปั้น วรรณพินิจ เลขาธิการ สปส.กล่าวว่า ขณะนี้ สปส.กำลังเร่งดำเนินการตรวจสอบรายชื่อผู้ประกันตนที่แจ้งความประ สงค์จะรับเงิน 2,000 บาทว่าเป็นผู้มีสิทธิและมีตัวตนอยู่จริงหรือไม่
เพื่อป้องกันการหลอกลวง และ ขอให้ผู้มีสิทธิอย่านิ่งนอนใจเร่งตรวจสอบสิทธิของตนเองพร้อมแจ้งความประสงค์ ก่อนวันที่ 1 มี.ค. นอกจากนี้ หากรู้ตัวว่ามีสิทธิในเงินดังล่าว แต่นายจ้างไม่ดำเนินการเพื่อขึ้นทะเบียนแจ้งขอรับสิทธิ ขอให้ร้องเรียนมาได้ที่ สปส.ทั่วประเทศ หรือ โทรด่วน 1506 เนื่องจากที่ผ่านมาลูกจ้างหลายรายร้องเรียนว่านายจ้างหลายรายมีการเก็บเงิน สมทบแตไม่ได้ส่งเข้ากองทุนประกันสังคมทำให้ต้องเสียสิทธิประโยชน์ที่จะได้ รับ ซึ่ง สปส.จะตรวจสอบพร้อมเอาผิดกับนายจ้างต่อไป