ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า กรมการค้าภายในได้ตรวจสอบราคาขายปลีกสินค้าอาหารสดในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ
พบว่าราคาหมูเนื้อแดงหน้าเขียงเดือน ก.พ.กิโลกรัมละ 110-120 บาท เพิ่มขึ้นจากราคาเฉลี่ยเดือน ม.ค. ที่ กก.ละ 110 บาท เพราะราคาหมูหน้าฟาร์มปรับเพิ่มขึ้นจากผลผลิตที่ลดลง และราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะกากถั่วเหลืองซึ่งเดือน ก.พ. ราคาปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ กก.ละ 16 บาทกว่า จากเดือน ม.ค. ที่ กก.ละ 13-14 บาทเท่านั้น
จากเดือน ม.ค. อยู่ที่ กก.ละ 54-55 บาท เพราะปริมาณหมูในตลาดที่ลดลงเนื่องจากผู้เลี้ยงขาดทุนจึงลดปริมาณเลี้ยงแม่หมูถึง 20% จาก 1 ล้านตัว เหลือ 800,000 ตัว อีกทั้งเกิดภาวะการสูญเสียลูกหมูจากโรคระบาดทำให้หมูหายไปจากตลาดประมาณ 30% ผู้เลี้ยงจึงต้องขึ้นราคา
นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า จะไม่เชิญผู้ประกอบการหมูเข้ามาหารือ เพราะยังไม่เห็นความเคลื่อนไหวของราคาที่ผิดปกติ
โดยขณะนี้ราคาหมูเป็นมีการขยับขึ้นลงเพียง กก.ละ 1 บาท ซึ่งเป็นไปตามวัฏจักรการเลี้ยงหมูเมื่อเข้าฤดูร้อนปริมาณหมูจะลดลง อย่างไรก็ตาม กรมจะตรวจสอบราคาอย่างใกล้ชิด หากมีความเคลื่อนไหวผิดปกติก็พร้อมจะเข้าไปดูแล
ด้านนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ กล่าวภายหลังเป็นประธานปล่อยขบวนรถแท็กซี่ธงฟ้าที่เมืองทองธานีว่า
มีรถแท็กซี่เข้าร่วมโครงการบลูเซอร์วิส ตามโครงการ “ฟ้าสดใสคนไทยยิ้มได้” 500 คัน โดยโครงการนี้จะดำเนินการนำร่อง 3-6 เดือน หากได้รับการตอบรับดีก็อาจจะขยายการให้บริการแท็กซี่ธงฟ้าต่อไปอีก แท็กซี่ที่เข้าร่วมโครงการจะลดค่าโดยสารลงเที่ยวละ 5 บาท โดยมีธงฟ้าและสติกเกอร์ “ภูมิใจใช้บริการไทย” เป็นสัญลักษณ์.