ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
ในการประชุม ครม.วันที่ 17 ก.พ.นี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะเสนอให้ ครม.พิจารณาโครงการช่วยเหลือด้านการเงินแก่ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากการปิดสนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมือง โดยสนับสนุนการให้สินเชื่อกับผู้ประกอบการวงเงินรวม 5,000 ล้านบาท ซึ่งรัฐบาลต้องนำงบประมาณมาสนับสนุน 245.5 ล้านบาท เพื่ออุดหนุนแก่ธนาคารเป็นค่าส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ย 2% ต่อปี เป็นเวลา 2 ปี และอุดหนุนค่าส่วนต่างของค่าธรรมเนียมค้ำประกันเงินกู้แก่ บสย. 1.50% ต่อปี เป็นเวลา 2 ปี เป็นวงเงินปีละ 111.25 ล้านบาท รวม 2 ปี เป็นวงเงิน 222.5 ล้านบาท และมีค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการในเวลา 2 ปี วงเงิน 23 ล้านบาท
1. วงเงินกู้เพิ่มเติมสำหรับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ที่เป็นลูกหนี้เดิมของธนาคารพาณิชย์ 3,000 ล้านบาท รัฐจะจัดสรรวงเงินอุดหนุนแก่ธนาคารเป็นส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ย 2% ต่อปี เป็นเวลา 2 ปี และอุดหนุนค่าส่วนต่างของค่าธรรมเนียม ค้ำประกันเงินกู้แก่ บสย. 1.50% ต่อปี เป็นเวลา 2 ปี
มาตรการที่ 2 สนับสนุนเงินกู้ให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ให้กู้โดยธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย วงเงินกู้ 2,000 ล้านบาท รัฐจะจัดสรรวงเงินอุดหนุนแก่ธนาคารเป็นค่าส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ย 2% ต่อปี เป็นเวลา 2 ปี และอุดหนุนค่าส่วนต่างของค่าธรรมเนียมค้ำประกันเงินกู้แก่ บสย. 1.50% ต่อปี เป็นเวลา 2 ปี ทั้งนี้งบประมาณที่จะนำมาสนับสนุน 245.5 ล้านบาท กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอให้จัดสรรเงินทั้งในปีงบประมาณ 2552 และ 2553 โดยปี 2552 ให้เบิกจ่ายจากงบประมาณที่เหลือจ่ายจากวงเงิน 1,912,970,000 บาท ที่ ครม.อนุมัติเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2551 เป็นค่าใช้จ่ายในการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบวิกฤติด้านการท่องเที่ยว.