ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (14 ก.พ.) ว่า แผนงานสื่อสร้างสุขภาวะเยาวชน(สสย.)มูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก
เครือข่ายพื้นที่สร้างสรรค์สำหรับเด็ก และศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ได้ร่วมกันสำรวจความเข้าใจของเด็กและเยาวชนอายุระหว่าง 10 ถึง 25 ปี จำนวน 792 คนและผู้ปกครองจำนวน 651 คน ที่อาศัยอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครเกี่ยวกับวันวาเลนไทน์ และกิจกรรมที่คาดว่าจะทำในวันวาเลนไทน์ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ สามารถสรุปผล ดังนี้
ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวันวาเลนไทน์ เด็กและเยาวชนในกรุงเทพฯ มากกว่าครึ่ง คือ
ร้อยละ 54 เข้าใจว่าวันวาเลนไทน์เป็นวันแห่งความรักระหว่างใครกับใครก็ได้ แต่ผู้ปกครองในกรุงเทพส่วนใหญ่ถึงร้อยละ 41 ยังเข้าใจว่าเป็นวันแห่งความรักระหว่างหนุ่มสาวเท่านั้น เด็กและเยาวชนหญิงเข้าใจความหมายของวันวาเลนไทน์ถูกต้องมากกว่าเด็กและเยาวชนชาย (ร้อยละ 60 และร้อยละ 49) แต่ผู้ปกครองที่เป็นชายและหญิงเข้าใจความหมายถูกต้องพอๆ กัน (ร้อยละ 40 และร้อยละ 39)
การให้ความสำคัญกับวันวาเลนไทน์ เด็กและเยาวชนตลอดจนผู้ปกครองส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ถึงร้อยละ 61 และร้อยละ 39 รู้สึกเฉยๆ กับวันวาเลนไทน์
ที่ให้ความสำคัญมากมีเพียงร้อยละ 16 และร้อยละ 14 ตามลำดับเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีเด็กและเยาวชน และผู้ปกครองร้อยละ 4 และร้อยละ 5 ที่เห็นว่าเป็นเรื่องไร้สาระ สำหรับเด็กและเยาวชนชายและหญิงที่ให้ความสำคัญกับวันดังกล่าวมีมากถึงร้อยละ 14 และร้อยละ 15 ตามลำดับ
ความคิดเห็นเกี่ยวกับกิจกรรมที่ดีที่สร้างสรรค์ซึ่งเด็ก-เยาวชนควรทำในวันวาเลนไทน์ เด็กและเยาวชนในเขตกรุงเทพฯ
เห็นว่ากิจกรรมที่ดีที่สร้างสรรค์ซึ่งเด็กและเยาวชนควรทำในวันวาเลนไทน์มากที่สุดคือ ทำกิจกรรมร่วมกับคนในครอบครัว (ร้อยละ 37 ) รองลงมาคือการชวนคนที่เรารักทำความดี (ร้อยละ 23) ชวนคนที่เรารักทำกิจกรรมดีๆ (ร้อยละ 20) และบอกรักหรือแสดงความรักต่อกัน (ร้อยละ 17) ส่วนผู้ปกครองที่เห็นสอดคล้องกับเด็กและเยาวชนในกิจกรรมข้างต้นมีร้อยละ 40 27 19 และ 12 ตามลำดับ สำหรับเด็กและเยาวชนชายที่เห็นว่าการชวนคนที่เรารักทำกิจกรรมดีๆ ในวันวาเลนไทน์มีมากกว่าเด็กและเยาวชนหญิง(ร้อยละ 21 และร้อยละ 18) ส่วนเด็กและเยาวชนหญิงที่เห็นว่าการชวนคนที่เรารักทำความดีในวันดังกล่าวมีมากกว่าเด็กและเยาวชนชาย (ร้อยละ 25 และร้อยละ 22)
ผู้ปกครองหญิงที่เห็นว่ากิจกรรมที่ดีที่สร้างสรรค์ที่เด็กและเยาวชนควรทำในวันวาเลนไทน์ คือทำกิจกรรมร่วมกับคนในครอบครัวมีมากกว่าผู้ปกครองชายค่อนข้างมาก คือมีร้อยละ 43 และร้อยละ 36
ทัง้นี้ จากผลสำรวจ พบว่า ปัญหาที่จะเกิดกับเด็กและเยาวชนในวันวาเลนไทน์ อันดับหนึ่งคือ เรื่องการมีเพศสัมพันธ์ร้อยละ 76 และอันดับสอง ปัญหาเรื่องการไปเที่ยวและทำสิ่งที่ไม่ดีร้อยละ 70 ถ้าหากว่าสิ่งที่รัฐบาลได้ประกาศวาระแห่งชาติเมื่อวันเด็กต้นปีที่ผ่านมา และมีเจ้าภาพหรือหน่วยงานมาขับเคลื่อนในในเรื่องต่างๆเหล่านี้ โดย สสย. ได้เรียกร้องให้รัฐบาลและสังคมดังนี้ ให้รัฐบาลเร่งรัดผลักดันขับเคลื่อนวาระแห่งชาติของเด็กและเยาวชนเรื่อง “พื้นที่สร้างสรรค์สำหรับเด็ก” ตามที่ประกาศในวันเด็กแห่งชาติให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร่งด่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดตั้งกองทุนสื่อสร้างสรรค์
ให้หน่วยงานในชุมชนจัดกิจกรรมและพื้นที่ที่สร้างสรรค์สำหรับเด็กอย่างทั่วถึง
เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้มีกิจกรรมและสถานที่ดีๆรองรับในทุกๆวันสนับสนุนห้องเรียน พ่อ แม่ เพื่อสร้างพื้นที่สร้างสรรค์ ในครอบครัวในรูปแบบต่างๆ รวมทั้งในการให้กำลังใจ ให้คำปรึกษากัน และมาตรการการจ้างงานเพื่อการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ควรส่งเสริมมาตราการที่ทำให้เกิดบุคลากรหรือพื้นที่สร้างสรรค์สำหรับเด็กเพิ่มขึ้น เช่น การพัฒนานักจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ การพัฒนาสถานที่อ่านหนังสือ สนามเด็กเล่น เป็นต้น