นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า
ความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการระบบรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและสถานีรับส่งผู้โดยสารอากาศยานในเมือง (พญาไท-มักกะสัน-สุวรรณภูมิ) หรือโครงการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรลลิ้งค์ ในส่วนของการเดินรถคืบหน้าไปกว่า 98 เปอร์เซ็นต์ และจะแล้วเสร็จในเดือน ส.ค.นี้ ขณะนี้ได้เริ่มทดลองระบบแล้ว
สำหรับการเตรียมความพร้อมในการเปิดเดิน รถ ขณะนี้รฟท.ได้จดทะเบียนบริษัท เดินรถร่วม (รฟท.) จำกัด ซึ่ง รฟท.ถือหุ้น 100 เปอร์เซ็นต์ เพื่อทำหน้าที่ในการดำเนินกิจการเกี่ยวกับการเดินรถและดำเนินการทางธุรกิจ ซึ่งจะมีความคล่องตัวในการบริหารจัดการเดินรถไฟฟ้า เบื้องต้นได้สรรหาผู้บริหารระดับสูงของรฟท.เป็นตัวแทนในการจัดตั้งบริษัทดังกล่าวจำนวน 7 คน และทาบทาม นาย ภากรณ์ ตั้งเจตสกาว ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารทรัพย์สินให้มาดำรงตำแหน่งซีอีโอชั่วคราว ในระหว่าง ที่รอคณะรัฐมนตรีอนุมัติจัดตั้งบริษัทฯ
นายยุทธนา กล่าวต่อว่า
การจดทะเบียนบริษัท เดินรถร่วม (รฟท.) จำกัด เป็นการเตรียมพร้อมทั้งในเรื่องของโครงสร้างบริษัท พนักงานและวางกรอบการทำงาน โดยบริษัทฯจะมีตำแหน่งหลักด้านการเดินรถรวม 51 ตำแหน่ง ซึ่งได้จ้างสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วงเงิน 32 ล้านบาท เพื่อดำเนินการคัดคุณสมบัติคนที่จะมาทำงาน จาก 3 กลุ่ม คือ พนักงานของ รฟท. บุตรของพนักงาน รฟท. และคนนอก ซึ่งจะให้สิทธิบุคคลในครอบครัวของพนักงานก่อน โดยจะหารือกับทางสหภาพแรงงานรฟท. ว่าเห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าวหรือไม่และสอบถามความสมัครใจว่ามีพนักงานคนใดบ้างที่พร้อมจะมาทำงานในบริษัทใหม่
สำหรับการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ประกอบด้วยงานเดินรถ ได้แก่ งานเดินรถ การซ่อมรถ การรักษาความปลอดภัย การบริการ การซ่อมบำรุงทาง อาณัติสัญญาณ การควบคุมรถ เป็นต้น และในส่วนที่ 2 เป็นการบริหารสถานี ได้แก่ งานสายพานระบบกระเป๋า ตารางเวลาสายการบิน งานระบบรักษาความปลอดภัย การรักษาความสะอาด การบริหารลานจอดรถ พื้นที่ค้าขายภายใน และด้านป้ายโฆษณา ซึ่งจะต้องใช้พนักงานทั้งหมดประมาณ 450 คน.