ปทุมธานี 31 ม.ค.- ประชาชนร้องเรียนสายด่วนแม่บ้าน กรณีปั๊มน้ำมันไม่ขาย อ้างหมด ก่อนที่จะปรับราคา 1.55 บาท/ลิตรพรุ่งนี้
นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน (คน.) นำคณะออกตรวจสอบสถานีบริการน้ำมัน ย่านปทุมธานี โดยเข้าตรวจปั๊มบางจากฯ และ ปตท. เพื่อตรวจเช็กปริมาณน้ำมัน ก่อนที่ผู้ค้าน้ำมันในประเทศจะมีการปรับราคาขายปลีกน้ำมันอีกลิตรละ 1.55 บาทในวันพรุ่งนี้ ซึ่งในขณะนี้ยอมรับว่า มีผู้บริโภคเกือบ 100 รายร้องเรียนผ่านสายด่วนผู้บริโภค 1569 ระบุสถานีน้ำมันในหลายจังหวัด เช่น สงขลา เลย อุตรดิตถ์ มีการงดจำหน่ายน้ำมัน โดยอ้างว่าไม่มีน้ำมัน ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ซึ่งเรื่องนี้ นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กรมการค้าภายในทั่วประเทศ ออกตรวจสอบสถานีน้ำมันอย่างเร่งด่วน
ทั้งนี้ ผลการตรวจสอบสถานีน้ำมัน โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ และปริมณฑล พบว่ามีปริมาณเพียงพอให้กับผู้ที่มาใช้บริการ
แต่อาจจะมีบางจังหวัดที่ประชาชนวิตกว่า ราคาน้ำมันจะสูงขึ้น โดยได้นำถังขนาด 200 ลิตรมาเติมและกักตุนไว้ และมีอีกหลายวิธี ซึ่งอาจทำให้สถานีน้ำมันหลายพื้นที่มีปริมาณไม่เพียงพอ หรืออาจอยู่ระหว่างรถขนส่งน้ำมันจากบริษัทแม่ ที่จะขนส่งมายังสถานีบริการน้ำมัน แต่ขอเตือน แม้ว่าอาจมีบางสถานีอาจไม่ได้ตั้งใจ หรือตั้งใจ หากพบการกระทำที่เข้าข่ายกักตุน หรือปฏิเสธการจำหน่ายโดยไม่มีเหตุผล เช่นอ้างว่าน้ำมันหมด แต่หากพบว่ามีน้ำมันอยู่ ถือว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ มีโทษจำคุก 7 ปี ปรับ 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือหากตรวจพบปริมาณน้ำมันไม่เต็มหัวจ่าย ก็เข้าข่ายโกงทางด้านปริมาณ ก็มีโทษจำคุก 6 เดือน ปรับ 20,000 บาท หรือทั้งจำและปรับเช่นกัน ถือว่าเป็นโทษที่รุนแรง และเท่าที่สอบถามสถานีบริการทั้ง ปตท. บางจาก ซึ่งบริษัทแม่มีการเพิ่มปริมาณน้ำมันให้เพียงพอแล้ว
ส่วนการที่ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น เท่าที่ได้มีการตรวจสอบราคาสินค้าอุปโภคบริโภค โดยกระทบต้นทุนสินค้าร้อยละ 0.01 เท่านั้น
เช่น น้ำดื่ม สูงขึ้นร้อยละ 0.06 เส้นหมี่ ร้อยละ 0.011 ส่วนกลุ่มสินค้าที่ได้รับผลกระทบมาก ได้กลุ่มวัสดุก่อสร้าง อะลูมิเนียม และเหล็ก กระทบ ร้อยละ 0.5 กรมการค้าภายในจึงเห็นว่าไม่มีเหตุผลสมควรที่ผู้ค้าจะนำผลกระทบการปรับราคาน้ำมันมาปรับราคาสินค้าเด็ดขาด.-สำนักข่าวไทย